Apple ปล่อยอัปเดต iOS 14.3 เพิ่มความสามารถให้ iPhone 12 ตระกูล Pro ได้แก่ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max รองรับการถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW หรือที่ Apple เรียกว่า ProRAW นั่นเอง แล้วมันเจ๋งยังไง มาดูกันครับ

ปัจจุบัน ProRAW รองรับการใช้งานบน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เท่านั้น ไฟล์ของรูปภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นนามสกุล DNG หรือ Adobe Digital Negative โดยการถ่ายรูปโหมด ProRAW นั้นจะมีการประมวลผล Smart HDR และ Deep Fusion เข้าไปด้วยแล้ว (รองรับการทำงานร่วมกับ Night Mode ด้วย) แต่เนื่องจากเป็นโหมดที่ีมีการเก็บรายละเอียดที่สูงมากจึงทำให้ไฟล์ที่ได้มีขนาดใหญ่ตามไปด้วย ลองดูตัวอย่างขนาดไฟล์ด้านล่างนี้

  • ไฟล์ HEIC ขนาด 5.2MB
  • ไฟล์ JPG ขนาด 6.8MB
  • ไฟล์ RAW ถ่ายผ่านแอป Moment ขนาด 16.5MB
  • ไฟล์ ProRAW ขนาด 34.7MB

โดยการถ่ายภาพไฟล์ ProRAW นั้นสามารถถ่ายได้ในกล้องทุกตัวของ iPhone 12 Pro ได้แก่ กล้องหลัก กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultra-wide) กล้องซูม (Telephoto) รวมถึงกล้องหน้าสำหรับเซลฟีด้วย

เปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่าง ProRAW และ RAW

อ้างอิงภาพจาก CNET

ภาพไฟล์ RAW ถ่ายผ่านแอป Moment
ภาพไฟล์ ProRAW

ภาพชุดแรก จุดแตกต่างสำคัญระหว่างไฟล์ RAW และ ProRAW คือภาพไฟล์ RAW นั้นจะมี Noise ที่เยอะกว่า ซึ่งเห็นได้ชัดทั้งบนตัวตึก และยิ่งชัดขึ้นบริเวณท้องฟ้าสีดำทั้งหมด

ภาพไฟล์ RAW ถ่ายผ่านแอป Moment
ภาพไฟล์ ProRAW

ภาพชุดที่ 2 จุดแตกต่างสำคัญระหว่างไฟล์ RAW และ ProRAW คือภาพไฟล์ ProRAW นั้นมีสีท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้ากว่า ในส่วนมืดมี Noise น้อยกว่า และบริเวณที่มีรายละเอียดสูง ๆ อย่างสะพานหรืออิฐก็มีความคมมากกว่าไฟล์ RAW แบบปกติ

อีกข้อดีสำคัญคือ ไฟล์ ProRAW ก็คือไฟล์ RAW รูปแบบหนึ่งซึ่งหากนำไปแต่งทีหลังก็จะมีความยืดหยุ่นที่มากกว่าไฟล์ JPG แน่นอน โดยผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้งานไฟล์ ProRAW ได้ใน Settings > Camera > Formats เลือกเปิด Apple ProRAW ครับ

ตอนนี้การถ่ายภาพไฟล์ ProRAW นั้นยังรองรับเฉพาะแอปกล้องของ iPhone เท่านั้น แต่คาดว่าอนาคตจะรองรับการใช้งานร่วมกับแอปจากนักพัฒนาอื่น ๆ เพิ่มอย่างแน่นอนครับ (อย่าง Halide Mark II ก็ใช้ได้แล้วนะ)

อ้างอิง CNET

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส