OnePlus ผู้พัฒนาสมาร์ตโฟนนักฆ่าเรือธง (Flagship Killer) ได้ประสบความสำเร็จกับสมาร์ตโฟนระดับกลางที่เพียบพร้อมไปด้วยสเปกระดับพรีเมียมอย่าง OnePlus Nord รุ่นแรก ทั้งในตลาดยุโรป, อเมริกาเหนือ และอินเดีย จนต้องมีการพัฒนารุ่นต่อมาอย่าง Nord 10 และ Nord 100
ล่าสุด OnePlus ได้เปิดตัวรุ่นล่าสุดในซีรีส์ Nord นั่นคือ Nord 2 5G ที่ OnePlus เน้นย้ำว่า มาพร้อมสเปกทุกอย่างระดับพรีเมียม ทั้งดีไซน์, วัสดุ และฮาร์ดแวร์ ในราคาเอื้อมถึง ทั้งชิปเซต MediaTek Dimensity 1200 AI, กล้อง Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อม AI, รองรับ 5G และ Wrap Charge
ลื่นไหลที่สุด
OnePlus Nord 2 5G มาพร้อมขิปเซต MediaTek Dimensity 1200 AI ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษโดย MediaTek เพื่อใช้กับ Nord 2 5G โดยเฉพาะ เพื่อเสริมศักยภาพด้าน AI อย่างเต็มที่ ซึ่งสามารถทำคะแนนทดสอบ AI ด้วย AnTuTu ไปได้ 693,439 คะแนน ซึ่งสูงกว่า Nord รุ่นแรก ที่มาพร้อมชิปเซต Dimensity 1200 ที่ทำไปได้ 373,632 คะแนน อีกทั้งยังทำได้สูงกว่าชิปเซตระดับเรือธงของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 888 อย่างชัดเจน
ด้วยประสิทธิภาพระดับสูง ทำให้รองรับการทำงานร่วมกับหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรต 90 Hz ได้อย่างลื่นไหล, พร้อมด้วยชิปกราฟิกความเร็วสูง เพื่อรองรับการเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพ, แรมสูงสุด 12 GB และสตอเรจ UFS 3.1 สูงสุด 256 GB บนซอฟต์แวร์ OxygenOS 11.3 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ให้ดูเรียบหรู และส่งเสริมการทำงานได้อย่างลื่นไหล
ด้วยประสิทธิภาพด้าน AI ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์ AI Color Boost ที่ช่วยเร่งสีของภาพระหว่างชมวิดีโอได้แบบเรียลไทม์, รองรับ Discord สำหรับถ่ายทอดสดการเล่นเกม และฟีเจอร์ Game Filter เพื่อถนอมสายตาเหล่าเกมเมอร์
กล้องทรงประสิทธิภาพ
OnePlus Nord 2 5G มาพร้อมกล้องหลักด้านหลัง เซนเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่สามารถเก็บแสงได้ดีขึ้น 56%, บันทึกวิดีโอ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที, OIS ช่วยให้การถ่ายภาพมีความเสถียร และประสิทธิภาพด้าน AI ที่ช่วยเร่งการประมวลผลภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งโหมด Nightscape Ultra ที่ประมวลผลภาพกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีแหล่งแสงเพียงเล็กน้อยก็ตาม, AI Video Enhancemen ช่วยปรับแต่งสีของวิดีโอ, AI Photo Enhancement ช่วยปรับแต่สีภาพได้ถึง 22 แบบ และ Dual View Video สำหรับบันทึกวิดีโอกล้องและหน้าหลังพร้อมกัน
นอกจากนี้ยังมีกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องเซนเซอร์ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้านั้นใช้เซนเซอร์ Sony IMX615 ที่มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
ชาร์จระดับสุดยอด
OnePlus Nord 2 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh แบบ Dual Cell ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว Warp Charge 65 ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น 2 เท่าจากรุ่นก่อน โดยสามารถชาร์จเต็มได้ใน 30 นาที
เชื่อมต่อความเร็วสูง
OnePlus Nord 2 5G ยังรองรับซิม 5G ได้ถึง 2 ซิม และรองการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ที่สามารถดาวน์โหลดได้สูงสุดถึง 1.2 Gbps เพื่อการสตรีมวิดีโอหรือเล่นเกมราบรื่นที่สุด
ดีไซน์เรียบหรู
อีกสิ่งที่ OnePlus ให้ความสำคัญมากก็คือ ดีไซน์ของ Nord 2 5G ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ผสานกับบอดีโหละเงางาม ทำให้รู้สึกถึงความเรียบลื่นที่มีสไตล์ โดยมีให้เลือก 3 สี ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ทั้ง Gray Sierra, Blue Haze และ Green Wood
ราคาเอื้อมถึง
OnePlus จะวางจำหน่าย Nord 2 5G ในตลาดประเทศอินเดียและยุโรป ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2021 นี้ โดยมีให้แรม/ความจุ ให้เลือก 3 แบบ คือ 6 GB/128 GB, 8 GB/128 GB และ 12 GB/256 GB ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 27,999 รูปี (ประมาณ 12,300 บาท)) สำหรับประเทศอินเดีย หรือ 399 ยูโร (ประมาณ 15,400 บาท) สำหรับยุโรป
นอกจากนี้ยังรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android ถึง 2 ปี และอัปเดตความปลอดภัยต่อเนื่อง 3 ปี
หูฟังไร้สาย OnePlus Buds Pro
OnePlus Buds Pro เปรียบเสมือนคู่หูของ OnePlus Nord 2 5G ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชัน Smart Adaptive Noise Cancellation ที่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุดถึง 40 dB และไมโครโฟน 3 ตัว ช่วยจับระดับเสียงรอบข้าง ซึ่งทำให้การฟังเพลงหรือโทรออกมีเสียงที่ใสกระจ่างชัด อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ OnePlus Audio ID ที่ช่วยสร้างโปรไฟล์รูปแบบการฟังเพลงหรือการได้ยินเฉพาะบุคคลได้ และตัวขับเสียง Dynamic Driver ขนาด 11 มม.
OnePlus Buds Pro ยังรองรับการชาร์จไว Warp Charge ทีี่ชาร์จ 10 นาที จะสามารถฟังเพลงได้ถึง 10 ชั่วโมง โดยตัวหูฟังนั้นสามารถใช้งานในด้านต่าง ๆ ต่อเนื่องกันได้ถึง 7 ชั่วโมง และเสริมอีก 31 ชั่วโมงจากการชาร์จด้วยเคส, สามารถชาร์จไร้สายผ่านด้านหลังของ OnePlus Nord 2 5G และรองรับการป้องกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP55
OnePlus Buds Pro มีให้เลือก 2 สี คือ Matte Black และ Glossy White โดยมีราคาอยูที่ 149 ยูโร (ประมาณ 5,760 บาท) โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 25 สิงหาคม 2021
ข้อมูลอ้างอิง : youtube , gsmarena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส