Bitazza นายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ Lightnet Group ประกาศความร่วมมือการเข้าซื้อหุ้น Bitazza ซึ่งมีมูลค่าถึง 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้ Bitazza เดินหน้าเติบโตธุรกิจได้ โดยการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้นับเป็นการผนึกความร่วมมือแบบพันธมิตรระหว่าง Bitazza, Lightnet Group และ Velo Labs เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการเงินยุคใหม่ ผ่านการเชื่อมต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับเครือข่ายดิจิทัลระดับโลกอย่างไร้รอยต่อ ก่อให้เกิดการเส้นทางการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินทั่วไปและสกุลเงินดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพและเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานชาวไทยจำนวนหลายล้านคนสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น

จุดมุ่งหมาย

ความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อผลักดันให้ผู้คนจำนวนมากในภูมิภาคเอเชียเริ่มนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเริ่มจากผู้ใช้ในประเทศไทยด้วยการเพิ่มทางเลือกนอกเหนือจากการใช้ SWIFT โดยการมอบเครือข่ายที่มีต้นทุนต่ำใช้งานได้แบบทันทีเกือบเรียลไทม์และสามารถใช้ร่วมกันกับเครือข่ายอื่น ๆ ได้เพื่อมอบบริการด้านการเงินที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้ในประเทศไทย

  • Bitazza Lightnet Group และ Velo Labs ร่วมมือกันเพื่อยกระดับโซลูชันด้านการเงินและการลงทุนในเอเชียผ่านการขยายเครือข่ายพันธมิตรในภูมิภาค
  • Velo Tokens รับหน้าที่เป็นสินทรัพย์เพื่อการเชื่อมต่อตัวสำคัญในระบบนิเวศของการเชื่อมระบบการเงินแบบมีศูนย์กลางจัดการ (CeFi) และระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (Defi) เข้าด้วยกัน
  • BTZ Tokens ทำหน้าที่เป็นยูทิลิตี้โทเคนหลักสำหรับแพลตฟอร์มเพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของ Bitazza พร้อมทั้งขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของระบบ โดยผู้ถือ BTZ Tokens จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ ส่วนลด รางวัล และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากระบบนิเวศการเงินยุคใหม่

Bitazza Lightnet Group และ Velo Labs ร่วมมือกันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ข้อตกลงระหว่าง 3 บริษัทนี้จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาด้านความคล่องตัวทางการเงินและความสามารถในการเข้าถึงของผู้ใช้ทั่วเอเชีย Bitazza จะเป็นทำหน้าที่ประตูนำพาผู้ใช้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนจากบริการทางการเงินและสินทรัพย์แบบดั้งเดิมไปสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการใช้ความรู้ความสามารถในฐานะนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเข้าถึงตลาดสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและมีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในต่างประเทศให้แก่ผู้ใช้ Velo ซึ่งเป็นเทคโนโลยีบล็อกเชนบนระบบโปรโตคอลด้านการเงินที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการโอนสินทรัพย์แบบไร้พรมแดนรวมถึงการออกเครดิตในรูปแบบดิจิทัล

Lightnet เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายการโอนเงินข้ามพรมแดนชั้นนำของเอเชีย ซึ่งมีความตั้งใจที่จะเข้ามาเพิ่มทางเลือกนอกเหนือจากการใช้ (SWIFT) ผ่านการเชื่อมต่อกับตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่มีสภาพคล่องสูงเพื่อมาแข่งขันกับบริการการโอนเงินข้ามพรมแดนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการลดเวลาทำการและค่าบริการที่ลดลง

ความเห็นจากตัวแทนทั้ง Bitazza, Lightnet Group และ Velo Labs

ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัท Velo Labs
ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัท Velo Labs

คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัท Velo Labs กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้เป็นข้อพิสูจน์พันธสัญญาของ Velo Labs และความพยายามอย่างต่อเนื่องของพันธมิตรในการบรรลุเป้าหมายที่จะร่วมมือกันพัฒนาระบบทางการเงินสำหรับผู้ใช้หลายล้านคนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Micro, Small and Medium-Sized Enterprises: MSME) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการมอบโอกาสในการเข้าถึงระบบการเงินในกลุ่มบุคคลทั่วไป ผมหวังว่าการเปิดโอกาสให้ Bitazza เข้ามาใช้ประโยชน์จากพันธมิตรในท้องถิ่น อาทิ ทรู และ 7-11 จะทำให้ Bitazza สามารถขยายเครือข่ายธุรกิจออกไปได้ทั่วประเทศ”

คุณตฤบดี อรุณานนท์ชัย รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร Lightnet Group
คุณตฤบดี อรุณานนท์ชัย รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร Lightnet Group

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับพันธมิตรที่เชื่อถือได้อย่าง Bitazza และ Velo Labs โดยเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) ในประเทศไทย ด้วยการปรับปรุงการเข้าถึงระบบและสุขภาพทางการเงิน” คุณตฤบดี อรุณานนท์ชัย รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร Lightnet Group กล่าว

กวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานกรรมการบริหารของ Bitazza
กวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานกรรมการบริหารของ Bitazza

คุณกวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานกรรมการบริหารของ Bitazza กล่าวว่า “แผนของ Bitazza ที่จะขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดอาเซียนและผลักดันให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่มี BTZ Tokens อยู่ในโครงสร้างพื้นฐานทำให้การลงทุนโดย Lightnet ในครั้งนี้นับเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับวิสัยทัศน์ของบิทาซซ่า รวมถึงเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัทสามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น และขยายความสามารถในการเข้าถึงพันธมิตรผ่านเครือข่ายนักลงทุนใหม่ ๆ”

คุณกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป้าหมายของเราคือการผลักดันให้ประเทศไทยขึ้นไปอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล เฉกเช่นเดียวกับที่วอลล์สตรีทและซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางด้านการเงินและเทคโนโลยีตามลำดับ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบระบบการเงินและผลักดันประเทศไทย รวมไปถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมทางการเงินยุคใหม่นี้ได้”

เควิน เฮง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Bitazza
เควิน เฮง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Bitazza

เควิน เฮง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Bitazza กล่าวว่า “การร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเปิดโอกาสให้เราเดินหน้าทำตามความตั้งใจ Lightnet ที่จะมอบบริการให้แก่ผู้บริโภคที่ไม่มีบัญชีธนาคาร (unbanked) และเข้าไม่ถึงการบริการที่มีแนวโน้มใช้บริการ (underbanked) ไปพร้อม ๆ กันกับแผนของ Bitazza ในการผลักดันให้เกิดการใช้งานโดยผู้คนจำนวนมาก แต่ยังช่วยยกระดับมาตรฐานความคล่องตัวและการเข้าถึงระบบการเงินทั่วเอเชียอีกด้วย ความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้ความตั้งใจของ Bitazza ที่จะสร้างเครือข่ายการซื้อขายผ่านการทำงานรวมกันระหว่างบริษัท

ความสามารถในการเข้าถึงสถาบันทางการเงินท้องถิ่น และการมอบบริการคุ้มครองดูแลสินทรัพย์ กลายเป็นความจริง การผลักดันให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและเริ่มใช้งานเทคโนโลยีคริปโตผ่านการมอบโครงสร้างพื้นฐานและเงื่อนไขที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ Bitazza กลายเป็นแพลตฟอร์มด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเส้นทางเพื่อการเชื่อมโยงบุคคลทั่วไปเข้ากับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมอย่างชัดเจน”

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส