ซีเอ็มโอ (CMO) จัดงานแถลงใหญ่ ประกาศยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่ นำผู้บริหารใหม่กับ CMO New Gen หันหัวเรือไปจัดงานออแกไนซ์เอง พร้อมสโลแกนใหม่ ‘Experience-Tech Creator’ พร้อมเปิดแผน 5 Elements (5E) พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด เตรียมปรับเอา Web 3.0 เทคโนโลยีบล็อกเชน เข้ามาใช้กับวงการออแกไนซ์

วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ซีเอ็มโอได้จัดงานแถลงปรับโครงสร้าง ปรับรูปแบบการทำธุรกิจไปเป็นรูปแบบใหม่ ไม่ใช่แค่เพียงรับจัดงานออแกไนซ์แบบเป็นเบื้องหลัง ทำงานแบบ B2B – Business to Business เท่านั้น แต่พร้อมที่จะลงสนามเอง ทำงานแบบ B2C – Business to Customer อีกด้วย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ 5 เสาหลัก – 5 Elements (5E) ซึ่งเป็นแผนธุรกิจใหม่ของ CMO ประกอบด้วย Event, Equipment, Entertainment, End-to-End 2.0 และ Experience 3.0

นายอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากเดิมทีที่ CMO ได้เป็นผู้ให้บริการ Event Organizer ในปีนี้ เราพร้อมที่จะผันตัวเอง เปลี่ยนไปทำงานในรูปแบบของ Technonogy Company แทน พร้อมทำงานแบบ B2C เป็น Total Solution ซึ่งสร้างประสบการณ์ร่วมแบบ Total Experience หรือลูกค้าได้รับประสบการณ์ร่วมอย่างเต็มที่ ประกอบด้วยความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ในยุคใหม่ จึงเป็นที่มาของนิยาม “ ‘Experience-Tech Creator” ภายใต้โครงสร้าง 5E ได้แก่ ธุรกิจหลักเดิม อย่าง Event กับ Equipment ซึ่งเป็นฐานรายได้หลัก และกลุ่มธุรกิจใหม่ ได้แก่ Entertainment, End-to-End 2.0 และ Experience 3.0 ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับ CMO New Gen นั่นเอง

นายชัชวาล ตรีเนตร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ได้อธิบายเรื่องของ 3E แรกอย่าง Event, Equipment และ Entertainment ได้ดังนี้

Event ซึ่งเป็นงานหลักของทางซีเอ็มโอ มีแผนเติบโตด้วย Homegrown Experience Brand ด้วยการทำ CM Lab ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่รับทั้งงานจากต่างประเทศ และจัดทำอีเวนต์ด้วยตัวเอง ผ่านการจับมือกับพันธมิตรธุรกิจเพื่อสร้างงานระดับ World-class Experience ในประเทศไทย ดึงดูดนักเดินทางจากต่างประเทศ และ Scale Up เพื่อส่งออกแบรนด์ได้ในอนาคต

Equipment เราจะยกระดับอุปกรณ์แสง เสียง ภาพ ให้ครอบคลุมทุกรูปแบบกิจกรรม ตั้งแต่อีเวนต์ สตูดิโอ และคอนเสิร์ตระดับโลก โดยบางงานสามารถทำที่ PM Center ของทางซีเอ็มโอได้เลย ด้วยการร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศ และรองรับธุรกิจทุกรูปแบบ จากเดิมที่รองรับเพียงแค่ 60 – 70% เท่านั้น

Entertainment ด้วยความที่ซีเอ็มโอ อยากจะขยับมาจัดงานด้วยตัวเองบ้าง จึงตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งด้าน In-bound Live Entertainment Experience พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงเต็มตัว เพื่อสร้างความบันเทิงเต็มรูปแบบทั้งระดับเอเชียและระดับโลก พร้อมดึงงานระดับ World Festival เข้ามาในประเทศไทย อยากจะดึงศิลปินต่างประเทศ นักร้องเกาหลี รวมถึงศิลปินจากประเทศอเมริกา มาจัดงานคอนเสิร์ทในประเทศไทย และยังมีแผนสร้าง Original Content ในนาม CM Entertainment

นายชิตพล มั่งพร้อม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาเสริมเรื่องการทำงานของ 2E ใหม่ล่าสุด ที่พร้อมจะทำงานเพื่อเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคตได้ดังนี้

End-to-End 2.0 เป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการตลาดครบวงจรที่เราควบรวมเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จากเดิมที่จะทำงานออแกไนซ์ให้กับลูกค้ากลุ่มธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่ได้เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการช่วยลูกค้าคิดรูปแบบ ลักษณะของการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ารูปแบบใหม่ ผ่านการทำงานการตลาดครบวงจรนี้ ได้แก่ Digital Agency, Social Listening, Influencer Platform, Employee Engagement Platform และ CRM

Experience 3.0 ซึ่งเป็นส่วนใหม่ที่สำคัญที่สุด เป็นกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่ตอบโจทย์ธุรกิจแห่งอนาคต ได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Web 3.0 เข้ามาร่วมประกอบกับวงการออแกไนซ์ ประกอบด้วย

  • Metaverse Studio ซึ่ง CMO  ได้ร่วมมือกับบริษัท Blockchain ระดับโลก อย่างเช่นการสร้าง Virtual Drive Experience มห้ผู้โดยสารในรถนั้นมีประสบการณ์การเดินทางที่ดี โดยสามารถให้รางวัลผู้ขับขี่ที่ขับรถได้ดี ทำตามกฎจราจรด้วย Utility Token ของทางซีเอ็มโอได้ คนขับก็จะได้รับรางวัลในรูปแบบ Drive-to-Earn
  • การสร้าง Digital Assets ที่มาเชื่อมโยงกับธุรกิจบันเทิง ด้วยความที่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเช่น NFT นั้นมักจะมีแต่ผู้ที่สนใจด้านการลงทุนเข้ามาจับจองซื้อ NFT เหล่านั้นเท่านั้น แต่ว่าทางซีเอ็มโอ อยากยกระดับให้ NFT นั้นได้เป็น Utility Token สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปมากขึ้น พร้อมมอบสิทธิพิเศษ (Priviledge) กับงานอีเวนต์ของทางซีเอ็มโอเพิ่มขึ้นด้วย อย่างเช่นการให้สิทธิ์ในการจองตั๋วคอนเสิร์ทก่อน สิทธิ์เข้างานจับมือดาราศิลปินก่อนใคร เป็นต้น
  • Decentralized commerce ซึ่งเป็นการเปิดให้มีการซื้อขายโดยมีคริปโทเคอร์เรนซีเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการซื้อของแล้วได้รับเงินคืน (Cash Back) ในรูปแบบของคริปโทเคอร์เรนซี โทเค็นของทางซีเอ็มโอ เป็นต้น

ทั้งนี้ นายอริยะ ได้กล่าวถึงการจับมือกับ Strategic Tech Partner 6 ราย เพื่อเป็นกลไกที่สำคัญในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัท ในการทำธุรกิจส่วนใหม่นี้ ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว จะพา CMO ก้าวไปสู่การทำธุรกิจระดับเอเชีย และระดับโลกต่อไป ประกอบด้วย

  • Transformational – Digital Transformation
  • Brand Baker – Digital Agency
  • Redex – Employee Engagement Platform
  • Social Listening Partner ที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ
  • Shopgenix – Affiliate Commerce
  • WeLink – Loyalty Platform

นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่เข้มแข็งและการปรับตัวที่รวดเร็ว ทำให้ CMO ยังคงมีรายได้หลักหลายร้อยล้านบาท และเคยพุ่งสูงกว่า 1,300 ล้านบาท ในปี 2562 ด้วยเหตุนี้ CMO จึงเป็นองค์กรที่มีฐานที่มั่นคง เมื่อเทียบกับธุรกิจเดียวกันในตลาด และจากการเข้ามาของผู้บริหารชุดใหม่ ที่เน้นเติมเต็มธุรกิจเทคโนโลยี พร้อมการเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงการปรับโครงสร้างให้มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น และรีแบรนด์องค์กรใหม่ ทำธุรกิจส่วนอื่นมากขึ้น โดยขยายได้จากการทำอีเวนต์แบบเดิม ที่นับเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมด และการทำธุรกิจความบันเทิง และเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามา จึงมุ่งหวังที่จะสร้างรายได้ให้สูงถึง 2,000 ล้านบาทให้ได้ภายในปีนี้