เคยดูหนังเรื่อง Eternal Sunshine of the Spotless Mind เมื่อปี 2004 ไหมครับ จิม แครีย์ และ เคต วินสเลต แสดงนำ เรื่องของคู่รักที่เลิกรากันไม่ดี ต่างฝ่ายต่างก็ไปลบเรื่องราวของกันและกันออกจากความทรงจำ แน่นอนล่ะว่าบทหนังมีแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์จริง ที่ใคร ๆ หลายคนต่างก็เผชิญ ไม่ใช่แค่ความทรงจำเรื่องความรักอย่างเดียวหรอก เรื่องความเศร้า การกระทำที่น่าอับอายในอดีต ที่ผุดกลับมาเมื่อใดก็ล้วนแต่สร้างความรู้สึกเจ็บช้ำ หลอกหลอนเราตลอดไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งถ้ามีวิทยาการที่สามารถลบความทรงจำเหล่านี้ขึ้นมาได้จริง ก็เชื่อแน่ว่าย่อมมีคนมากมายต้องการใช้บริการ

Eternal Sunshine of the Spotless Min

ซึ่งวันนี้เราเข้าใกล้ความเป็นจริงแล้ว เมื่อนักวิทยาศาสตร์เผยว่าเขาค้นพบแนวทางที่จะทำได้แล้ว และยืนยันว่า ‘ความทรงจำ’ ในสมองเรานั้นมันไม่ได้ยึดติดคงทนถาวรอย่างอยู่ในสมองเราอย่างที่เราเข้าใจ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบแนวทางที่จะ ลบ, เปลี่ยน หรือแม้กระทั่งฝังความทรงจำใหม่ลงไปยังได้เลย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนคิดค้นตัวยาที่จะช่วยปรับเปลี่ยนระบบความทรงจำในสมองเราให้สามารถลืมเรื่องราวเลวร้ายในอดีตได้ ก้าวสำคัญที่ทำให้เราใกล้จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ก็มาจากวิทยาการในการสแกนระบบประสาทที่รุดหน้าขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ทศวรรษมานี่

ถึงตรงนี้อยากจะอธิบายการหลักการคร่าว ๆ ที่นักวิทยาศาสตร์จะใช้ลบความทรงจำในสมองเรา ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าระบบความทรงจำนั้นถูกเก็บไว้ในสมองเราในรูปแบบใด

ในอดีตกาลนั้น นักวิทยาศาสตร์เข้าใจผิดกันมาโดยตลอดว่า ความทรงจำ นั้นถูกเก็บอยู่ในจุดจำเพาะในสมองเรา นึกภาพตามก็คงเป็นเหมือนตู้เก็บเอกสารที่เก็บรวบรวมระบบประสาท แต่มาถึงวันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบข้อเท็จจริงแล้วว่า ความทรงจำนั้นถูกเก็บไว้ในจุดเชื่อมต่อทั่วสมองเรา ความทรงจำในสมองนั้นอยู่ในรูปของ ‘โปรตีน’ ที่คอยกระตุ้นเซลล์สมองให้เติบโตขึ้นและสร้างจุดเชื่อมต่อใหม่ ๆ ขึ้นมา พอเกิดความทรงจำใหม่ สมองก็จะสร้างวงจรใหม่ขึ้นมา และจะฝังอยู่อย่างนั้นตราบนานเท่านาน เมื่อเราบังเอิญไปเจอสถานการณ์ใด ๆ ขึ้นมา ก็จะพาให้เราย้อนนึกถึงเหตุการณ์นั้น ๆ ในอดีต และที่น่าประหลาดใจก็คือ ความทรงจำเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่เลือนหายไปนะ แต่ตรงกันข้าม ยิ่งเราย้อนคิดถึงเหตุการณ์นั้นบ่อยเพียงใด ความทรงจำนั้นจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

กระบวนการนี้เรียกว่า ‘reconsolidation’ (การรื้อฟื้นความทรงจำ) กระบวนการนี้จะอธิบายได้ว่า ทำไมบางครั้งความทรงจำบางเรื่องถึงเปลี่ยนไปจากเดิม ยกตัวอย่าง ถ้าเราเคยขี่จักรยานแล้วล้ม ทุกครั้งที่เราย้อนนึกถึงเหตุการณ์นี้เราก็จะรู้สึกเจ็บใจ หัวเสีย แต่ยิ่งเราย้อนนึกถึงเหตุการณ์นี้บ่อยครั้งเพียงใด ความคิดของเราก็จะเชื่อมโยงกับความทรงจำนี้เหนียวแน่นมากขึ้น รวมไปถึงความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปเป็นความกลัว หรือเสียใจก็ได้ แล้วสุดท้ายพอเราแค่นึกถึงจักรยานเราก็จะเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว แต่สำหรับบางคนรูปแบบก็อาจจะแตกต่างกันไป บางทีประสบการณ์ที่เราเคยเจ็บช้ำน้ำใจ พอผ่าน ๆ ไป พอมาย้อนคิดถึงอีกครั้งก็กลายเป็นเรื่องน่าขันไปเสียได้ และกระบวนการ reconsolidation นี่ล่ะ เป็นจุดสำคัญที่จะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าไปแฮกความทรงจำของเราได้

ริชาร์ด เกรย์ หนึ่งในนักวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้กล่าวว่า
“ทีมนักวิจัยของเราค้นพบแล้วว่า ความทรงจำสามารถเข้าไปจัดการได้ เพราะว่ารูปทรงของความทรงจำนั้นจะเรียกว่าเหมือน ‘แก้ว’ เลยก็ว่าได้ ตอนที่ความทรงจำถูกสร้างขึ้นมันอยู่จะอยู่ในรูปของเหลว แล้วก็จะกลายเป็นของแข็งในภายหลัง เมื่อเราย้อนคิดถึงความทรงจำนั้น มันก็จะกลายเป็นของเหลวอีกครั้ง”

การค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมาก ทำให้พบวิธีการสกัดกั้นสารเคมีในร่างกายที่เรียกว่า norepinephrine ซึ่งมีผลกระตุ้นมนุษย์เราตอบสนองต่อเหตุการณ์เฉพาะหน้าว่าจะสู้หรือหนี และเป็นตัวการก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น เหงื่อออกบนฝ่ามือ หัวใจเต้นเร็ว พอเจอตัวการนี้แล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถช่วยบรรเทาปฏิกิริยาตอบสนองทางด้านลบเมื่อเราย้อนคิดถึงความทรงจำเลวร้ายเหล่านี้ได้

มีการทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้สำเร็จมาแล้วกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในเนเธอร์แลนด์ พวกเขาได้ทดลองกับอาสาสมัครที่เป็นโรคกลัวแมงมุม (arachnophobes) ด้วยการให้อาสาสมัครเหล่านี้ทานยา propranolol หรือ placebo ซึ่งมีสรรพคุณสามารถสกัดกั้นการหลั่งสาร norepinephrine

การแก้ไขความทรงจำ รักษาโรคกลัวแมงมุมได้

ในการทดลองนี้ได้แบ่งอาสาสมัครออกเป็น 3 กลุ่ม ใน 2 กลุ่มนี้ นักวิทยาศาสตร์นำแมงมุมทารันตูล่าตัวใหญ่ใส่ขวดแก้วมายื่นใส่พวกเขาเพื่อปลุกความรู้สึกกลัวแมงมุม แล้วจึงให้ทานยา propranolol หรือ placebo ส่วนกลุ่มที่ 3 นั้น ให้ทานยาก่อนเลย โดยไม่ต้องดูแมงมุมในขวดแก้ว ผ่านไปสัก 2-3 เดือน อาสาสมัครโดนเรียกตัวกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้นักวิทยาศาสตร์นำแมงมุมทารันตูล่าใส่ขวดแก้วมายื่นใส่พวกเขาอีกครั้ง แต่ปฏิกิริยาตอบรับในรอบนี้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก กลุ่มแรกที่ให้ทานยา propranolol หรือ placebo ไปเฉย ๆ เลยโดยที่ไม่ได้ดูแมงมุม ยังคงกลัวแมงมุมเหมือนเดิม แต่กับอีก 2 กลุ่ม ที่โดนเอาแมงมุมในขวดแก้วมายื่นใส่ก่อนแล้วค่อยให้ทานยานั้นสิ ในวันแรกพวกเขาสามารถจับแมงมุมได้เฉยเลย พอผ่านไป 3 เดือนก็มีพัฒนาการอย่างน่าตื่นใจ เมื่อพวกเขาเอาแมงมุมมาอุ้มเล่นได้ และผ่านไปเป็นปีความกลัวแมงมุมก็ไม่กลับมาอีกเลย เหมือนว่าความทรงจำที่เคยกลัวแมงมุมในอดีตถูกลบหายไปหมดแล้ว

ยา propranolol

ยา propranolol และ placebo ถูกใช้ทดลองอีกครั้งในปี 2007 กับอาสาสมัครที่มีความทรงจำรุนแรงในอดีต พวกเขาเหล่านี้ทานยา propranolol หรือ placebo ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน แล้วให้พวกเขาย้อนเล่าความทรงจำเลวร้ายในอดีตให้ฟัง ผลคืออาสาสมัครเหล่านี้ไม่ได้ลืมความทรงจำเลวร้ายเหล่านั้น แต่เมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาสามารถย้อนนึกถึงความทรงจำเหล่านี้ได้แบบตึงเครียดน้อยลงกว่าแต่ก่อน

เหล่านักวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าเรื่องนี้กล่าวถึงเป้าหมายของเขาในขณะนี้ว่า ไม่ได้มุ่งหวังที่จะลบความทรงจำในมนุษย์ให้หมดสิ้นไปเสียทีเดียว ด้วยเหตุผลทางด้านจริยธรรม ถึงแม้วามีแนวโน้มว่าจะทำได้สำเร็จสูงก็ตาม แต่จะหาแนวทางการทำงานร่วมกันทั้งการทานยาและการฝึกย้อนนึกถึงความทรงจำเหล่านั้น

Julia Shaw

แต่ถึงตรงนี้สิ่งที่น่ากังวลมากว่าคือ นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้กระบวนการ reconsolidation ปลูกฝังความทรงจำใหม่ ๆ ลงไปในสมองคนเราก็ได้ด้วย จูเลีย ชอว์ (Julia Shaw) นักจิตวิทยากล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำให้คนเราสามารถย้อนนึกถึงเหตุการณ์ก่ออาชญากรรมที่พวกเขาไม่เคยกระทำมาก่อนได้ แล้วยังสามารถเล่ารายละเอียดในเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ก็ทำให้มาถึงคำถามว่า แล้ววิทยาการนี้จะมีประโยชน์อะไรกับมนุษยชาติ

สารคดีเรื่อง Memory Hackers

ไมเคิล บิกส์ (Michael Bicks) ผู้สร้างสารคดีเรื่อง ‘Memory Hackers’กล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายของนักวิทยาศาสตร์อาจจะไม่ได้พยายามลบความทรงจำอันปวดร้าวออกจากสมองมนุษย์ให้หมดสิ้น เหมือนอย่างในหนัง Eternal Sunshine for the Spotless Mind แต่อาจจะไปปรับเปลี่ยนมันนิดหน่อย เพื่อให้เจ้าของความทรงจำเหล่านั้นรู้สึกตึงเครียดน้อยลง เพราะที่จริงแล้วความทรงจำไม่ได้เป็นสาเหตุของความรู้สึกปวดร้าว แต่เป็นเพราะการทำงานของสภาพจิตของเราต่างหาก และประโยชน์ที่สุดที่จะได้จากการค้นพบนี้ก็คือ หนทางเยียวยารักษาให้กับกลุ่มคนไข้ที่มีโรคกลัวต่าง ๆ ผู้มีอาการวิตกกังวล และผู้ป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง PTSD

“การเขียนความทรงจำขึ้นมาใหม่ จะช่วยให้เราปรับปรุงมันให้ดีขึ้นได้ แต่จุดประสงค์ของการลบความทรงจำเหล่านั้นออกเหมือนกับการล้างฮาร์ดดิสก์นะ แต่เรายังสามารถลบล้างความทรงจำอันไม่น่าพิสมัยออกแล้วสร้างเรื่องราวใหม่ ๆ ลงไปที่เราสามารถอยู่กับมันได้ต่างหาก”
ไมเคิล บิกส์ กล่าวทิ้งท้าย

อ้างอิง

เนื้อหาล่าสุด

มือดีเผย Shin Megami Tensei V อาจวางจำหน่ายให้กับ PS4 และ PC เร็ว ๆ นี้

Shin Megami Tensei เกมแนว RPG ซึ่งเป็นต้นตำรับและจักรวาลแยกของซีรีส์ Persona ได้วางจำหน่ายภาคที่ 5 ให้กับ Nintendo Switch เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ...อ่านต่อ

ชาว Mod รวมใจกันแก้ไข GTA: The Trilogy ให้ดีขึ้น ถึงแม้จะเสี่ยงโดน Take-Two ฟ้องลบก็ตาม

หลังจากที่ GTA: The Trilogy (The Definitive Edition) เปิดตัวได้อย่างไม่ค่อยราบรื่นนัก เนื่องจากไฟล์เกมที่ทำให้ทีม Rockstar Games ต้องดึงตัวเกมเวอร์ชัน PC ...อ่านต่อ

ถอดรหัส ! สารลับที่ซ่อนไว้ในหนังสั้น “All Too Well: The Short Film” จาก Taylor Swift

นักร้องสาว เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ได้เปิดตัวอัลบั้ม ‘Red (Taylor’s Version)’ ที่แฟน ๆ รอคอยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นการบันทึกเสียงอัลบั้ม ‘Red’ (2012) ...อ่านต่อ

Intel Taiwan มุ่งเพิ่มบทบาทสตรีในทุกระดับ

Intel Taiwan เผยโครงการ Rise 2030 ที่มุ่งเพิ่มจำนวนพนักงานหญิงและพนักงานที่มีพื้นเพที่หลากหลายทางวัฒนธรรมให้ดำรงตำแหน่งบริหาร

Tales of Luminaria
8.7 / 10

[รีวิวเกม] Tales of Luminaria เกมมือถือ RPG แนวสะสม คุณภาพคับจอ

Tales of Luminaria เกมมือถือ Action RPG จากซีรีส์ Tales... ที่ทำมาสำหรับเล่นบนมือถือโดยเฉพาะ เกมเพลย์สนุก เนื้อเรื่องเข้มข้น

The Elder Scrolls VI จะวางจำหน่ายเฉพาะ Xbox เท่านั้น

ยังไม่รู้ว่าจะได้เล่นปีไหน แต่ ฟิล สเปนเซอร์ (Phil Spencer) ยืนยันว่า The Elder Scrolls VI จะเป็นเกมเฉพาะ Xbox เท่านั้น ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ British GQ สเปนเซอร์บอกว่า The ...อ่านต่อ

Leica D-Lux 7 Vans x Ray Barbee Limited Edition เตรียมเปิดตัวเร็ว ๆ นี้!

Leica เตรียมเปิดตัวกล้อง compact รุ่นพิเศษ 'D-Lux 7 Vans x Ray Barbee' ในลายขาวดำตารางมากรุกสไตล์ Vans สุดเท่ และแน่นอนว่าเป็น Limited Edition จำนวนจำกัดเช่นเดิม!