‘MIUI Pure Mode’ ฟีเจอร์ใหม่เพื่อปกป้องผู้ใช้จากแอปที่มาพร้อมมัลแวร์
ล่าสุด Xiaomi ได้มีการเริ่มทดสอบ MIUI Pure Mode ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่เพื่อปกป้องผู้ใช้จากแอปพลิเคชันที่มาพร้อมมัลแวร์
ระบบการชาร์จความเร็วสูงมีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดในไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า แบรนด์สมาร์ตโฟนจีนนั้นเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ระบบชาร์จเร็วพัฒนามาได้ถึงจุดนี้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังคงมีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่งคือ ไม่มีมาตรฐานรวมสำหรับระบบชาร์จเร็วมาก ๆ โดยเฉพาะมาตรฐานที่มาจากผู้ผลิตในจีน
ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการสมาร์ตโฟนจีน ได้แก่ Xiaomi, Oppo, Vivo, Huawei และ Honor จะร่วมมือกันพัฒนา Universal fast charging standard หรือมาตรฐานระบบชาร์จเร็วแบบสากล
หนึ่งในปัญหาจากการที่ต่างฝ่ายต่างพัฒนาระบบชาร์จเร็วของตัวเองคือ เรื่องของต้นทุนในการวิจัย เพราะแต่ละที่จะต้องสั่งผลิตวัสดุที่ต้องการโดยเฉพาะของตนเอง ทำให้มีราคาค่าผลิตที่สูง และยังมีปัญหาที่ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย
เนื่องจากทั้ง 5 บริษัทรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ มองว่า การตั้งมาตรฐานระบบชาร์จเร็วสากลจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ จึงตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อสร้างมาตรฐานนี้ขึ้นมา
แต่ที่แบไต๋ยังไม่เข้าใจคือโลกก็มีมาตรฐาน USB-PD หรือ USB Power Delivery ที่สามารถชาร์จไฟในระดับ 100 Watt ได้แล้วในปัจจุบัน และเป็นมาตรฐานกลางที่ Apple, Samsung รวมถึงผู้ผลิตโน้ตบุ๊กต่างๆ ใช้กัน ทำไมกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีนจะต้องพัฒนามาตรฐานของตัวเองขึ้นมาอีก
อ้างอิง: GIZMOCHINA
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส
ล่าสุด Xiaomi ได้มีการเริ่มทดสอบ MIUI Pure Mode ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่เพื่อปกป้องผู้ใช้จากแอปพลิเคชันที่มาพร้อมมัลแวร์
มีผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0 มากถึง 90 ล้านยูสเซอร์แล้ว โดยเป็นการนับจากจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการนี้
สมาร์ตโฟน Vivo ลึกลับรุ่นหนึ่งได้รับการทดสอบประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์ม Geekbench ซึ่งมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 898 หรือ 895
Re: ZERO Lost in Memories เกมแนว Turn-Based RPG จากแฟรนไชส์อนิเมะชื่อดังที่เนื้อเรื่องสนุก ภาพสวย แฟนการ์ตูนถูกใจแน่นอน