Meta เตรียมนำระบบสมาชิกแบบเสียเงินที่ตัดโฆษณาออกมาใช้สำหรับ Facebook และ Instagram ในยุโรป
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่า Meta Platforms กำลังพิจารณานำระบบสมาชิกแบบจ่ายเงินแบบไม่มีโฆษณา มาใช้สำหรับผู้ใช้ Faceboo ในยุโรป
ตอนนี้คงพูดได้อย่างเต็มปากว่า หนังคู่ขวัญซัมเมอร์ทั้ง ‘Barbie’ และ ‘Oppenheimer’ คือหนังแห่งปี 2023 อย่างแท้จริง ด้วยสถิติที่น่าประทับใจทั้ง ‘Barbie’ ของผู้กำกับ เกรตา เกอร์วิก (Greta Gerwig) ที่ตอนนี้กลายเป็นหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลของค่าย Warner Bros. ไปแล้ว ส่วน ‘Oppenheimer’ ผลงานกำกับของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ขึ้นแท่นอันดับ 2 ของหนังเรต R ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล และยังก่อกำเนิด ‘Barbenheimer’ ที่เป็นทั้งไวรัล และมีมฮาบนโลกอินเทอร์เน็ต
แต่นั่นคงไม่น่าทึ่งเท่ากับว่า จริง ๆ แล้ว Barbie Oppenheimer นั้นไม่ใช่แค่ชื่อหนัง แต่เป็นชื่อและนามสกุลของบุคคลที่มีอยู่จริง ๆ โดยผู้หญิงคนนี้มีชื่อจริงว่า บาร์บารา ออพเพนไฮเมอร์ (Barbara Oppenheimer) อายุ 68 ปี เป็นศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขการพูด (Speech-Language Pathology) และเป็นอดีตอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยบอสตัน ปัจจุบันเธออยู่ในวัยเกษียณ อาศัยอยู่ที่เมืองนิวตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นคุณแม่ของลูกชาย 2 คน และเป็นคุณยายของหลาน ๆ
ชื่อของคุณยายบาร์บารานั้นก็มีที่มาที่น่าสนใจ เพราะตามประวัตินั้น คุณยายบาร์บารานั้นถูกเปลี่ยนมาจากชื่อ Barbie ที่มีมาแต่กำเนิด “ฉันเคยมีชื่อ Barbie นะ สะกดเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้เลย เพราะสมัยนั้น ใคร ๆ ก็อยากเป็นเหมือนกับบาร์บี้ หลังจากนั้นตอนฉันอายุ 12 ขวบ ฉันก็เปลี่ยนไปใช้ Barby ด้วยการเปลี่ยนเป็นตัวอักษร y และจากนั้นฉันก็ถูกเรียกว่าบาร์บ (Barb) จนกระทั่งฉันเรียนจบ ฉันก็เปลี่ยนไปใช้บาร์บาราแทน ดูซีเรียสและจริงจังขึ้นมาก”
ส่วนนามสกุล Oppenheimer นั้นเกิดจากการที่เธอแต่งงานกับสามี และพ่อของสามีนั้นมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่ 3 หรือเป็นญาติห่าง ๆ ของ เจ โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) นักฟิสิกส์ผู้คิดค้นระเบิดปรมาณู คุณยายจึงมีสิทธิ์ใช้นามสกุลนี้ในฐานะภรรยา
ในการสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Slate คุณยายออปเพนไฮเมอร์ได้เล่าถึงปฏิกิริยาของปรากฏการณ์ ‘Barbenheimer’ หลังจากที่ดันไปพ้องกับชื่อของหนังอย่างบังเอิญ ซึ่งเธอเองก็ได้มีโอกาสดูหนังทั้ง 2 เรื่องแล้วด้วย “เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของฉันจากทั่วโลก ส่งข้อความมาหาฉันตอนสุดสัปดาห์ตอนที่หนังเข้าฉาย เขาพูดกันว่ามันเป็น ‘ระเบิดกับสาวสวย’ ซึ่งฉันว่าตลกดี! มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม เป็นตัวดึงคนกลับเข้าโรงหนังได้จริง ๆ “
“เราไปดู ‘Oppenheimer’ ช่วงสุดสัปดาห์ที่เข้าฉาย พ่อของสามีฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่ 3 ของออปเพนไฮเมอร์ เราจึงอยากรู้ว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อเรื่องราวของเขาอย่างไร ตอนแรกฉันได้ยินว่าหนังมันยาว 3 ชั่วโมง ฉันก็อุทานว่า ‘ตายแล้ว…’ แต่ฉันคิดว่าพวกเขาทำออกมาได้ดี ตัวหนังเข้าถึงประเด็นขัดแย้งทางศีลธรรมที่ออปเพนไฮเมอร์ต้องเผชิญจริง ๆ เขาเป็นฮีโรของใครหลาย ๆ คน แต่ก็ตกเป็นเป้าของความโกรธอย่างมากเช่นกัน”
“และ 2 สัปดาห์ถัดมา เราก็ไปดู ‘Barbie’ เรารักหนังทั้ง 2 เรื่องคนละแบบ ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าสามีฉันเขาจะชอบ ‘Barbie’ หรือเปล่า แต่ตอนดูเขาก็หัวเราะดัง ๆ ทั้งเรื่องเหมือนกัน ถ้าถามว่าฉันชอบเรื่องไหนมากกว่า มันคงตอบยากนะ! แม้ฉันจะแน่ใจว่าตัวฉันเองจั๊กจี้กับสีชมพู ที่พวกเขาเอาตุ๊กตาบาร์บี้มาอยู่ในโลกจริง แต่ฉันก็หัวเราะดัง ๆ เกือบทั้งเรื่อง ฉันเองคงเลือกไม่ได้ แต่ฉันก็ดีใจที่ได้ดูหนังทั้ง 2 เรื่องนะ”
แม้คุณยายจะเล่าว่า ตอนไปดูหนัง เธอไม่ได้ใส่เสื้อชมพู แต่เธอเองก็รับรู้ถึงกระแส ‘Barbenheimer’ ซึ่งลูกชายและหลาน ๆ ของเธอต่างก็สนุกสนานกับมุกนี้เช่นกัน “หลาน ๆ ของฉันส่วนใหญ่ยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจเทรนด์นี้ แต่หลานสาวคนโตของฉันที่มีอายุแค่ 7 ขวบ และเคยเป็นแฟนบาร์บี้ตัวยงมาก่อนกลับรู้สึกทึ่ง ส่วนลูกชายคนโตของฉัน เล่นมุกด้วยการซื้อเสื้อยืด Barbenheimer ให้เป็นของขวัญวันเกิดฉันในเดือนตุลาคม แต่สุดท้ายก็ผิดหวัง เพราะฉันมีอยู่แล้ว”
“ความคลั่งไคล้ใน ‘Barbenheimer’ นั้นเพิ่มความสนุกสนานให้กับชีวิตของฉันที่ก็ดีอยู่แล้ว มันสนุกมาก ฉันสนุกมากกับความคลั่งไคล้นี้ การยอมรับความบังเอิญที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ ใช่ไหม”
แม้คุณยายจะพึงพอใจกับชื่อของตัวเองที่ไปพ้องกับกระแสดัง แต่คนส่วนใหญ่เองก็ยังไม่เชื่อว่าเธอจะมีชื่อนี้จริง ๆ จนมีหลายคนไม่เชื่อ และเข้าใจผิดหาว่าเธอเล่นมุก ตอนที่เธอต้องบอกชื่อของตัวเองกับคนอื่น ๆ คุณยายออปเพนไฮเมอร์เล่าประสบการณ์ขำ ๆ จากคนที่มีปฏิกริยาหลังจากที่ได้ยินชื่อของเธอว่า
“ตอนนั้นฉันกำลังพักร้อนน่ะ เมื่อฉันเข้าไปเช็กอินที่โรงแรม ฉันก็เลยแจ้งชื่อ บาร์บี้ ออปเพนไฮเมอร์ แล้วชายคนนั้นก็พูดว่า ‘นี่คุณล้อผมเล่นเปล่าเนี่ย ?’ “
ที่มา: Slate, DailyMail, New York Post
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส