เมื่อ 2 ปีก่อน เราได้ยินชื่อแคมเปญ “ไก่ไทยจะไปอวกาศ” เป็นครั้งแรก ในช่วงที่มีการเซ็น MOU และเริ่มต้นงานวิจัยร่วมกันอย่างเป็นทางการ แต่ในวันนี้ “ไก่ไทยได้ไปอวกาศจริงแล้ว” กับภารกิจ Axiom-4 ที่ไก่ไทยได้ร่วมเดินทางขึ้นสู่อวกาศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก

BT พาแบไต๋เบื้องหลังภารกิจนี้ ด้วยการเข้าเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงไก่ ที่เลี้ยงไก่ที่ถูกคัดเลือกขึ้นไปอวกาศ ซึ่งเป็นการเยี่ยมชมสุด Exclusive ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะโดยปกติที่ฟาร์มแห่งนี้ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชม

เจาะลึกทุกกระบวนการกับ “หมอแจ๊ค” น.สพ.ดร. มนูศักดิ์ วงศ์พัชรชัย หัวหน้าทีมวิจัยด้านไบโอเทค สำนักวิชาการอาหารสัตว์ และผู้ดูแลฟาร์มไก่ในภารกิจนี้

กินไก่แล้วเป็นสาวไว เพราะมีฮอร์โมน ?

หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการกินไก่คือ “กินไก่แล้วเป็นสาวไว จริงไหม ?”

หมอแจ๊คยืนยันว่า “ไม่จริงแน่นอน” พร้อมอธิบายว่า “ในประเทศไทย ไม่มีกระบวนการให้ฮอร์โมนกับไก่เพื่อเร่งโต เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อีกทั้งมีกรมปศุสัตว์ตรวจสอบสุ่มเก็บเนื้อไก่ตลอดเวลา ผมเองเรียนจบสัตวแพทย์ ไม่เคยเจอการให้ฮอร์โมนกับไก่เลย”

ประเทศไทยเลี้ยงไก่ถึงวันละ 5 ล้านตัว และส่งออกเป็นอันดับ 3 ของโลก เฉพาะที่ฟาร์มนี้เลี้ยงถึง 800,000 ตัว ดังนั้นการใส่ฮอร์โมนแต่ละตัวจึงไม่สามารถทำได้จริง ทั้งในเชิงเวลา แรงงาน และกฎหมาย

การที่ไก่ CP โตดีโตไว เนื้อแน่น อกฟู เกิดจากอะไร ? 

ไม่ใช่เพราะฮอร์โมน แต่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย หมอแจ๊คเผยว่า ได้มีโอกาสไปดูบริษัทที่ปรับปรุงสายพันธุ์ไก่ที่สก็อตแลนด์ เขาจะเจาะเลือดไก่มาตรวจ DNA สัปดาห์หนึ่งจะเก็บ DNA ราว 60,000 ตัวอย่าง

โดยจะคัดตัวที่เจ๋ง ๆ ออกมาเป็นพ่อแม่พันธุ์ เป็นเรื่องของเทคโนโลยีและการปรับปรุงสายพันธุ์ ซึ่งก่อนที่จะนำเอาสายพันธุ์ใหม่ ๆ เข้ามาให้ CP จะต้องส่งไก่สายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ไปยังศูนย์วิจัยที่ชลบุรี โดย CP เองต้องดีไซน์สูตรอาหารให้เหมาะสมกับไก่ ดังนั้นเราจะได้ไก่ที่สายพันธุ์ดี ประกอบกับมีอาหารที่เหมาะสม จึงไม่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

หมอแจ๊คกล่าวย้ำเรื่องความปลอดภัยว่า ก่อนจะเข้าไปชมกระบวนการเลี้ยงไก่นั้น จะต้องผ่านขั้นตอนที่กำหนด คือ อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อให้มั่นใจในความสะอาดและเพื่อความปลอดภัยและปลอดโรคของสัตว์ด้วย จึงมั่นใจได้เลยอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงแน่นอน

ไก่ในโรงเรือนมาตรฐาน ไม่มีการสัมผัสอาหารด้วยมือคน

การลำเลียงอาหารของไก่ทุกกระบวนการจะไม่ผ่านการสัมผัสมือของมนุษย์ โดยอาหารจะถูกบรรจุในซีลมาจากศรีราชา ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่จะมีธัญพืชเป็นหลัก มีข้าวโพดเป็นแหล่งพลังงาน ถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีน เราจะผสมน้ำมันเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน และสารอาหารอื่น ๆ อย่าง วิตามิน แร่ธาตุ และโพรไบโอติกส์ (จุลินทรีย์ตัวดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย) แต่ไม่ใช่ยี่ห้อไหนก็ได้ ต้องผ่านการวิจัย คัดเลือกโพรไบโอติกส์กว่าแสนสายพันธุ์ จนได้โพรไบโอติกส์ที่แข็งแรงที่สุดเพียง 10 สายพันธุ์

พฤติกรรมของไก่ ? 

พฤติกรรมการอยู่ร่วมกันของไก่เหล่านี้ บางตัวนอนเอกเขนก บางตัวยืน บางตัวกิน มีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป เพราะบางตัวถ้าเขาหิวเขาก็จะลุกเดิน ตัวไหนอิ่มรู้สึกสบาย ๆ อยากนอนพัก เขาก็จะนอน ซึ่งจะป่วยไม่ได้ ถ้าไก่เครียดเราจะสังเกตได้เลยไก่จะจิกกัน มีแผลที่ตัว แต่เวลาปกติไก่ก็จะอยู่สบาย ๆ อยู่มุมที่ตัวเองชอบ โดยไก่ที่เลี้ยงจะกลายเป็นอาหารใน 40 วัน

มาตรฐานระดับโลก : NSF (National Science Foundation)

ไก่ของ CP ผ่านการรับรองจากองค์กร NSF ของสหรัฐฯ ว่า ‘ไม่มียาปฏิชีวนะในการเลี้ยง’ ซึ่งหมอแจ๊คเล่าให้ฟังเพิ่มว่า “NSF เป็นองค์กรของอเมริกามา Certified ให้เราว่าเราไม่มียาปฏิชีวนะเลยในการเลี้ยงไก่ อีกความหมายหนึ่งก็คือ ไก่ของเราห้ามป่วย เพราะว่าถ้าป่วยสัตวแพทย์ของเราต้องเข้ามา Take Action ดังนั้น เราจะใช้วิธีการป้องกัน ซึ่งการที่จะรู้ได้นั้น จะมีทีมสัตวแพทย์เข้ามามอนิเตอร์ไก่ เพื่อสังเกตว่ามีไก่ตัวไหนที่ป่วยอยู่หรือเปล่า โดยประวัติยังไม่มีไก่ป่วย เพราะถ้าป่วยจะหลุดจากมาตรฐาน NSF”

เทคโนโลยีอะไรบ้างที่ CP ใช้ในกระบวนการเพื่อความปลอดภัย ?

หมอแจ๊คมองว่าถ้าอยากจะก้าวไปสู่องค์ความรู้ใหม่ ๆ ต้องกล้าที่จะลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นกัน ทำให้ CP ตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีต่อไปนี้

  1. Next Generation Sequencing หรือเครื่องถอดรหัสพันธุกรรม DNA ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน จะต้องส่งไปตรวจที่เกาหลีเท่านั้น แต่ตอนนี้ CP ลงทุนกับเทคโนโลยีนี้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับการหาลำดับเบสของ DNA หรือ RNA เพื่อศึกษาความแปรผันทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรคหรือปรากฏการณ์ทางชีววิทยาอื่น ๆ
  2. Real Time CPR เทคโนโลยีนี้ใช้ตรวจเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับอาหารที่อาจจะทำให้ไก่ป่วยได้ 
  3. LC-MS-MS (Liquid Chromatography-Tandem Mass Spectrometry) ซึ่งเป็นเทคนิคการวิเคราะห์ทางเคมีที่ใช้ในการแยกและระบุสารประกอบในตัวอย่าง นำมาใช้ตรวจสารตกค้าง อย่างการตรวจเพื่อยืนยันว่าในอาหารไม่มีสารปฏิชีวนะ และไม่มีสารพิษ ซึ่งเครื่องจะช่วยสกรีนให้จนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุด

ทั้งหมดนี้เป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค และเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ “ไก่ไทยไปอวกาศ” ได้อย่างภาคภูมิใจ

คำยืนยันจากคุณสุรเชษฐ ปิ่นเกล้า ที่ปรึกษาชำนาญการด้านไก่เนื้อ-เป็ดเนื้อ ที่มีประสบการณ์ดูแลไก่เนื้อมากว่า 36 ปี กล่าวว่า

“ด้วยมาตรฐานและความใส่ใจทุกกระบวนการผลิต ผมมั่นใจว่าส่งอวกาศได้แน่นอน”

จากฟาร์มสู่อวกาศ เรื่องราวของไก่ไทยไม่ได้เป็นแค่อาหาร แต่ยังสะท้อนถึงความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรของไทยที่ปลอดภัย ทันสมัย และได้มาตรฐานระดับโลก จนพร้อมจะเดินทางไกลไปถึง “อวกาศ” จริง ๆ