Apple ได้เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2023 ระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม โดยทำรายได้ไป 94,800 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2022 ที่ทำไป 97,200 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ Apple ยังได้ระบุว่า iPhone สามารถทำสถิติรายได้ในไตรมาสแรกของปีเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และรายได้จากบริการ รวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud ที่ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลของบริษัทไปแล้ว

รายงานดังกล่าวระบุว่า ในขณะที่ยอดจำหน่าย Mac และ iPad ได้ลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ยอดจำหน่ายของ iPhone นั้น กลับเพิ่มขึ้น โดยทำราได้ไปถึง 51,300 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกับเมื่อปี 2022 โดยเฉพาะในตลาดที่กำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ เช่น อินเดีย, อินโดนีเซีย และตุรกี เป็นต้น ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า

iPhone 14

สำหรับในหมวดบริการ หรือ Services นั้น มีการสมัครบริการรายเดือนของ Apple มากถึง 975 ล้านยูสเซอร์ ซึ่งมากกว่าในช่วงเดียวกันเมื่อปี 2022 ถึง 150 ล้านยูสเซอร์ และมีอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานอย่างต่อเนื่องมากกว่า 2,000 ล้านเครื่อง

ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอของ Apple ได้กล่าวว่า บริษัทจะยังคงลงทุนในระยะยาว รวมถึงความมุ่งมั่นในการสร้างผลิตภัณฑ์และห่วงโซ่อุปทานที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (หมายถึง ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่สิ่งแวดล้อมเลย) ภายในปี 2030

ที่มา : GSMArena

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส