สำนักข่าว Nikkei ชี้ว่าบริษัทสตาร์ทอัปเทคโนโลยีไต้หวันหันมาลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้มากกว่าจีนนับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา

โดยระบุว่าความขัดแย้งรุนแรงในช่องแคบไต้หวัน ที่จีนข่มขู่จะใช้กำลังหากไต้หวันพยายามประกาศเอกราช ทำให้หลายบริษัทในไต้หวันย้ายเป้าการลงทุนจากจีนไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น Gogolook ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์พลัง AI ในชื่อ Tron ตรงดิ่งมาลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้ตั้งบริษัทลูกแห่งแรกในภูมิภาคที่ประเทศไทย

บริการหลักของ Gogolook คือโซลูชันป้องกันการฉ้อโกงทางไซเบอร์ที่จะเป็นประโยชน์กับบริษัทโทรคมนาคม และสถาบันทางการเงิน

มันวู จู (Manwoo Joo) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดำเนินธุรกิจบอกกับ Nikkei ว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกดิจิทัลและมีตัวเลขการหลอกลวงออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่กลับขาดโซลูชันและเทคโนโลยีป้องกัน

เขามองว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพที่สูงมาก

เช่นเดียวกับ ถิงกวน เฉิน (Ting-Kuan Chen) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ FunNow Group ผู้ให้บริการจองตั๋วบันเทิงและโซลูชันด้านการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลที่ชี้วาได้กำไรกว่า 40% มาจากตลาดอาเซียน

ถิงกวนเห็นโอกาสการเติบโตในมาเลเซียและไทย ที่ซึ่งบริการการชำระเงินดิจิทัลและการส่งอาหารมีการขยายตัวที่สูง เพราะการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและผู้ใช้งานก็ต้องการมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วย

เขาชี้ว่าจีนโตเต็มที่และอิ่มตัวแล้ว บริษัทอยากที่จะให้อาเซียนเป็นผู้นำแทน

ทั้งนี้ Nikkei ชี้ว่า Gogolook และ FunNow Group เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสตาร์ทอัปไต้หวันเกือบ 30 บริษัท นำโดย เกา เฉียนกเย (Kao Shien-quey) รองประธานสภาการพัฒนาแห่งชาติไต้หวัน ที่เดินทางไปสิงคโปร์เพื่อพยายามหาหุ้นส่วนทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

เกาชี้ว่าเป้าหมายของการเดินทางในครั้งนั้นก็เพื่อให้บริษัทไต้หวันได้รับประโยชน์จากห่วงโซ่การผลิตโลกที่นับวันจะวิ่งไปหาอาเซียนมากขึ้น ในขณะที่ไต้หวันพยายามลดการพึ่งพาจีน ที่เกามองว่าอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้นำ รวมถึงยังประสบกับความไม่แน่นอนในการกำหนดมาตรการอีกด้วย

ที่มา Nikkei Asia

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส