Fixed Focus Digital ทิปสเตอร์จากประเทศจีน ได้โพสต์ Weibo สื่อโซเชียลรายใหญ่ของประเทศจีน อ้างว่า Apple กำลังพัฒนาชิปเซตรุ่นใหม่อย่าง A19 และ A19 Pro โดยเน้นประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงาน เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 17 ทั้ง 4 รุ่น ที่จะเปิดตัวในปลายปี 2025 นี้ ให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยมิได้กังวลว่าจะมีความเร็วในการประมวลผลด้อยกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นถัดไปของแบรนด์คู่แข่งที่จะติดตั้งชิปเซต Snapdragon 8 Elite 2 ของ Qualcomm หรือ Dimensity 9500 ของ MediaTek
หนึ่งในสมาร์ตโฟนที่ Apple จะเน้นโชว์ศักยภาพการประหยัดพลังงานอย่างเต็มที่ คือ iPhone 17 Air ซึ่งอาจมีบอดีบางเพียง 5.5 มม. และติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดความจุเพียง 2,800 mAh เท่านั้น
ชิปเซต A19 Pro ของ Apple นั้น จะผลิตด้วยกระบวนการ N3P ระดับ 3 นาโนเมตร ของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) โดยได้คะแนนจากการทดสอบด้วยโปรแกรมของ Geekbench ดังนี้
- ทดสอบแบบ Single-Core (ประมวลผลด้วยซีพียูแกนเดียว): มากกว่า 4,000 คะแนน
- ทดสอบแบบ Multi-Core (ประมวลผลด้วยซีพียูหลายแกน): มากกว่า 10,000 คะแนน

แม้ผลลัพธ์ข้างต้นจะเป็นการอัปเกรดขึ้นอย่างชัดเจนจาก A18 Pro ที่ติดตั้งใน iPhone 16 Pro และ 16 Pro Max ซึ่งได้ผลทดสอบไป 3,539 คะแนน และ 8,772 คะแนน ตามลำดับ แต่ดูเหมือนจะยังน้อยกว่าชิปเซตเรือธงรุ่นใหม่จากคู่แข่งอย่าง Dimensity 9500 (ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตร ของ TSMC เช่นกัน) และ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งได้คะแนนจากการประสิทธิภาพแบบ Multi-Core ด้วยโปรแกรมของ Geekbench ไปมากกว่า 11,000 คะแนน
อย่างไรก็ดี A19 Pro ได้คะแนนในส่วนของ IPC (Instructions Per Cycle: จำนวนคำสั่งที่ชิปเซตสามารถดำเนินการได้ในหนึ่งรอบ) สูงกว่า ซึ่งหมายความว่าชิปเซตดังกล่าวรองรับจำนวนงานได้มากกว่าในระยะเวลาเท่ากัน แม้จะมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดน้อยกว่า Snapdragon 8 Elite 2 หรือ Dimensity 9500 ก็ตาม
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Samsung แบรนด์คู่แข่งในตลาดระดับโลกของ Apple โดยตรง เตรียมนำชิปเซต Exynos 2600 ที่คาดว่าจะผลิตด้วยกระบวนการ 2 นาโนเมตร ของ Samsung Foundry เป็นรุ่นแรกในอุตสาหกรรม มาติดตั้งในสมาร์ตโฟนเรือธง Galaxy S26 และ Galaxy S26+ ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีศักยภาพสูงขึ้นจากชิปเซตระดับ 3 นาโนเมตร ในปัจจุบันเพียงไร