vivo ได้ปล่อยทีเซอร์โปรโมตสมาร์ตโฟนเรือธงซีรีส์ X300 อย่างต่อเนื่อง โดยทางแบรนด์ยืนยันว่าจะใช้ศักยภาพจากชิปเซตเรือธงรุ่นถัดไปของ MediaTek นั่นคือ Dimensity 9500 (คาดว่ามีความเร็ว 4.21 GHz) ซึ่งมาพร้อมชิปประมวลผลภาพ V3+ ในตัว สำหรับยกระดับการถ่ายภาพให้สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ฮั่น ป๋อเซียว (Han Boxiao) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ vivo ได้อธิบายว่า ชิป V3+ ดังกล่าว ช่วยให้ vivo X300 สามารถบันทึกวิดีโอโหมดภาพยนตร์แบบ Cinematic Portrait ด้วยความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที เป็นรุ่นแรกเหนือสมาร์ตโฟนระบบ Android ทุกรุ่นในตลาดปัจจุบัน รวมถึง iPhone 17 ทั้ง 4 รุ่น ที่รองรับการบันทึกวิดีโอโหมดภาพยนตร์แบบ Cinematic Portrait สูงสุด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที เทียบเท่าสมาร์ตโฟนซีรีส์ vivo X200

นอกจากนี้ vivo ยังได้ร่วมงานกับ ARM และ MediaTek เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของ NPU (Neural Processing Unit) ที่ติดตั้งในชิปเซต Dimensity 9500 เพื่อให้ vivo X300 สามารถประมวลผลภาพได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงติดตามการเคลื่อนไหวและตอบสนองต่อการกดชัตเตอร์ได้ในระดับมิลลิวินาที

นอกจากนี้ Digital Chat Station ทิปสเตอร์ชื่อดังจากประเทศจีน ยังได้เปิดเผยข้อมูลสเปกด้านอื่น ๆ ของ vivo X300 ว่าได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ OLED แบบ LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ขนาด 6.31 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Q10+ ของ BOE ซึ่งช่วยให้แสดงความสว่างในระดับต่ำสุดที่ 1 Nit รวมถึงมีขอบจอบางมาก

ด้านระบบถ่ายภาพนั้น ได้รับการติดตั้งกล้อง ดังนี้

  • กล้องหลัก : 200 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ HPB ขนาด 1/1.4 นิ้ว
  • กล้อง Ultrawide : 50 ล้านพิกเซล
  • กล้องซูมแบบ Periscope : 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ Sony LYT602 ขนาด 1/2 นิ้ว, ซูมไม่เสียความละเอียดได้ 3 เท่า
  • เคลือบเลนส์ด้วยเทคโนโลยี Zeiss T*
  • กล้องหน้า : 50 ล้านพิกเซล

นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ ความจุ 6,000 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไฟเร็ว 90 W, พอร์ต USB 3.2 และติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบอัลตราโซนิก 3D เวอร์ชัน 2.0 ใต้แผงหน้าจอ เพื่อสแกนข้อมูลไบโอเมตริกซ์สำหรับปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ทั้งนี้มีรายงานว่า Vivo อาจเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงซีรีส์ X300 ในไตรมาสที่ 4 ระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2025 นี้