realme แบรนด์ที่แยก OPPO เมื่อปี 2018 ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนเน้นความทนทานราคาประหยัดรุ่นล่าสุด นั่นคือ P3 Lite เวอร์ชัน 4G ที่ประเทศโปแลนด์ ภายหลังจากได้เปิดตัว P3 Lite เวอร์ชัน 5G ที่ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา
realme P3 Lite 4G นั้น ได้ใช้ศักยภาพจากชิปเซต Unisoc T7250 ซึ่งได้รับการผลิตด้วยกระบวนการ 12 นาโนเมตร พร้อมติดตั้งแกนซีพียู (CPU: Central Processing Unit) จำนวน 8 คอร์ และชิปกราฟิก (GPU: Graphics Processing Unit) ดังนี้
- แกนซีพียู ARM Cortex A75 จำนวน 2 คอร์ ความเร็วสูงสุด 1.8 GHz สำหรับประมวลผลงานทั่วไป
- แกนซีพียู ARM Cortex A55 จำนวน 6 คอร์ ความเร็วสูงสุด 1.6 GHz สำหรับประมวผลแบบประหยัดพลังงาน
- ชิปกราฟิก ARM Mali G57MP1 ความเร็ว 850 MHz
ชิปเซตดังกล่าวทำงานร่วมกับแรม ความจุ 8 GB และสตอเรจ 256 GB พร้อมรองรับ MicroSD Card
ด้านหน้าตัวเครื่องได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 720p+ พร้อมรองรับรีเฟรชเรต 120 Hz ซึ่งแสดงการเคลื่อนไหวของภาพได้อย่างนุ่มนวลที่ 120 เฟรมต่อวินาที และเจาะรูสำหรับติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ในขณะที่ด้านหลังตัวเครื่องได้รับการติดตั้งกล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/1.8 ซึ่งรองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 1080p
realme P3 Lite 4G ได้รับการจ่ายพลังงานด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 6,000 mAh แต่รองรับการชาร์จไฟเพียง 15 W เท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลที่ปรากฏบนป้ายกำกับพลังงาน (Energy Label) ตามที่สหภาพยุโรปกำหนด ทำให้ทราบว่าแบตเตอรี่ดังกล่าวสามารถใช้งานได้เกือบ 66 ชั่วโมง จากการชาร์จเต็ม 100% และคาดว่าจะชาร์จไฟอย่างเต็มคุณภาพได้อย่างน้อย 1,000 รอบ
สมาร์ตโฟนดังดังกล่าวยังมาพร้อมตัวเครื่องที่บางเพียง 7.79 มม., หนัก 196 กรัม และมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP54 ซึ่งป้องกันตัวเครื่องในระดับดี ดังนี้
- ป้องกันฝุ่นรอบตัวเครื่องได้ดี แม้ยังถึงระดับสมบูรณ์แบบ แต่ไม่กระทบต่อการใช้งานทั่วไปแต่อย่างใด
- ป้องกันละอองน้ำรอบทิศทาง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ NFC แบบ 360° ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว, Google Gemini, เครื่องมือ AI Eraser ช่วยลบวัตถุออกจากภาพ และฟีเจอร์ไล่น้ำออกจากออกจากลำโพงอย่างรวดเร็วด้วยความถี่สูงระดับอัลตราโซนิก
realme P3 Lite 4G มาพร้อมราคา 600 ซวอตือโปแลนด์ หรือประมาณ 5,300 บาท สำหร้บหน่วยความจำ 8/256 GB ซึ่งคาดว่าเป็นผลภาษีนำเข้าที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีราคาสูงกว่า P3 Lite 5G ซึ่งมีราคาในประเทศอินเดีย ประมาณ 10,000 รูปี หรือประมาณ 3,600 บาท
