อินโดนีเซียได้ใช้กฎการเก็บภาษี VAT 10% (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) กับบริษัทต่างชาติที่ไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ ซึ่งให้บริการและขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลในอินโดนีเซีย โดยมีมูลค่าอย่างน้อย 600 ล้านรูเปียห์ (1,280,581 บาท) ต่อปีหรือมียอดสมาชิกเข้าชมรายปีอย่างน้อย 12,000 ราย

10 ตุลาคมอินโดนีเซียได้เปิดเผยรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีที่จะต้องจ่าย VAT 10% ทั้งหมด 36 บริษัท โดยมีเพิ่มเติมเข้ามาล่าสุดอีก 8 บริษัท ได้แก่ Microsoft Corp, Alibaba Cloud (สิงคโปร์), GitHub Inc, Microsoft Regional Sales Pte Ltd, UCWeb Singapore Pte Ltd, To The New Pte Ltd, Coda Payments Pte Ltd และ Nexmo Inc

สรรพากรแจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป บริษัทเทคโนโลยีที่มีรายชื่อทั้งหมด จะต้องเริ่มเก็บ VAT ต่อผู้ลงโฆษณาและลูกค้ารายอื่น ๆ

อินโดนีเซียเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีนโยบายเรียกเก็บภาษีจากแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ปี 2016 เจรจาการเก็บภาษีจาก Google และได้ยอมตกลงจ่ายในปี 2017 ต่อมาต้นปี 2019 ก็ได้เรียกเก็บภาษีจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างเช่น Lazada และ Tokopedia และปลายปีเริ่มมีแผนจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอย่าง Alphabet (Google), Amazon และ Netflix

ปี 2020 อินโดนีเซียได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รายรับของรัฐก็ลดลงถึง 13%  ดังนั้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจึงหารายได้โดยเรียกเก็บ VAT 10% จากยอดขายกับบริษัท Amazon, Netflix, Spotify และ Google และ 7 ส.ค. ได้เรียกเก็บ VAT 10% จาก Facebook, Disney, TikTok และอื่น ๆ รวมทั้งบริษัทย่อยของ Amazon ในส่วนของหนังสือเสียงและ Alexa สุดท้าย 10 ต.ค. ได้เพิ่มมาอีก 8 บริษัทรวมเป็น 36 บริษัท

ที่มา : reuters ภาพจาก : commons.wikimedia.org

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส