กลุ่มลูกค้าองค์กรของเอไอเอส (AIS Business) เปิดแผนการทำงานในปี 2023 ด้วยแผน ‘เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน’ โดยตั้งเป้าจะเป็น ดิจิทัลพาร์ทเนอร์ให้กับธุรกิจทุกระดับ ด้วยการให้บริการทั้งโครงสร้างดาต้าและคลาวด์ รวมถึงเน้นย้ำเรื่องการสร้างธุรกิจที่มีความยั่งยืนอีกด้วย

โดยแผน ‘เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน’ เป็นแผนที่จะครอบคลุมการให้บริการเชิงธุรกิจที่เอไอเอสใช้คำว่า “ครบวงจร” รวมถึงเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ในการมุ่งเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co และภายใต้เทรนด์และสถานการณ์ภายหลังจากที่ต้องเผชิญกับโรค Covid-19 และการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก

แผน เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน นั้นจะประกอบไปด้วย 3 ส่วน ก็คือ เติบโต, อุ่นใจ และความยั่งยืน ดังนี้

เติบโต (Growth) เร่งการเติบโตของธุรกิจโดยการสร้างขีดความสามารถใหม่ๆ ด้วยเครื่องมือทางดิจิทัล เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจด้วยศักยภาพของ AIS 5G และ Cloud Platform, ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าด้วยการบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะด้วยการให้บริการข้อมูลและไลฟ์สไตล์, พร้อมการสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ๆ เฉพาะอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น Smart Manufacturing, Smart Transportation & Logistics, Smart City & Building, และ Smart Retail ซึ่งจะต้องผ่านการปรึกษากับทาง AIS เพื่อออกโซลูชันอีกครั้ง

อุ่นใจ (Trust) บริการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ด้วยความพร้อมเต็มรูปแบบของ Intelligent Network, Cloud Platforms, และ Cyber Security สอดรับกับกฎระเบียบของการใช้งานที่ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงเรื่องของกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ผ่านโซลูชันอย่างเช่น Sovereign Cloud, SD-WAN, Secured Connectivity เป็นต้น ที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็ว ความยืดหยุ่น ช่วยยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลและระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยขององค์กร

และความยั่งยืน (Sustainability) สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อธุรกิจอย่างยั่งยืนโดย AIS Business จะช่วยเสริมนวัตกรรมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การสร้างระบบนิเวศสำหรับการพัฒนานวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรต่างๆ การสร้าง AIS 5G NEXTGen Platform เพื่อการสร้าง 5G โซลูชันได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ไปจนถึงโซลูชันที่เข้ามาช่วยในการบริการจัดการการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยคาร์บอน การปล่อยน้ำเสียโดยใช้ข้อมูลแบบ real-time จากอุปกรณ์ IoT ทำให้พร้อมการคาดการณ์การใช้พลังงานล่วงหน้า เพื่อให้สามารถตัดสินใจวางแผนการทำงาน หรือการผลิตได้อย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่าง e-Waste, Academy for Thai, และอุ่นใจไซเบอร์ เป็นต้น

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า ในตอนนี้ AIS Business ได้มี 5 กลยุทธ์ ในการสร้าง Digital Business Ecosystem ให้มีความสมบูรณ์แบบ สามารถตอบโจทย์การทำงานทุกองค์กรได้ในทุกมิติ ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. เชื่อมต่อ 5G Ecosystem เพื่อการทำงานของภาคธุรกิจอย่างรอบด้าน
  2. ยกระดับการทำงานของโครงข่ายด้วย Intelligent Network
  3. มุ่งเสริมความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์ม
  4. เสริมอาวุธด้านการตลาดและเพิ่มโอกาสการเติบโต Data-driven Business
  5. ส่งมอบบริการด้วยทีมงานมืออาชีพที่ไว้วางใจได้

“ในด้านความยั่งยืน ถ้ายิ่งไม่มีเรื่องของการผิดกฎหมายในไทย สุดท้าย ผลเสียจากการใช้ทรัพยากรจะกลับมาสู่สังคมไทยเอง ตอนนี้ไทยก็มีเรื่องฝุ่น PM2.5 แล้วด้วย ถ้าเกิดว่าเราได้ทำเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น สุดท้ายก็หวังจะให้ผลดีจากการรักษ์สิ่งแวดล้อมนี้ กลับมาที่สังคมไทยด้วยเช่นกัน” นายธนพงษ์ กล่าวสรุป