บริษัท เอ้ก ดิจิทัล ผู้นำธุรกิจด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ให้บริการสื่อโฆษณาแบบครบวงจร และให้คำปรึกษาการตลาดดิจิทัลสัญชาติไทย แถลงข่าวเปิดกลยุทธ์ “2024 Deep Tech Revolution: catalyzing growth with AI, Media and MarTech” เพิ่มขีดความสามารถให้กับลูกค้าด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และเต็มรูปแบบ

ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด ได้กล่าวว่า “ข้อมูลของเอ้กดิจิทัลในปี 2023 พบว่าบริษัทสามารถทำรายได้ทะลุ 2,200 ล้านบาทเพิ่มจากปี 2022 กว่า 32% จากการดำเนินงาน 3 ธุรกิจหลักได้แก่ Analytics AI and Consultation บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI, Media Convergence ผสานช่องทางสื่อรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง ออนไลน์ ห้างค้าปลีกนอกบ้าน และขายในห้างแบบไร้รอยต่อสู่ผู้บริโภค และ MarTech Solution เพิ่มประสิทธิภาพการตลาด ดำเนินงาน และเข้าใจลูกค้าเพิ่มขึ้นผ่านช่องทางสื่อสาร SMS LINE แอปพลิเคชัน และเพิ่มการตอบแทนการลงทุน (ROI)”

“ซึ่งเอ้ก ดิจิทัลได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 400 แบรนด์ และเราจะพัฒนาสร้างเติบโตให้กับแบรนด์คู่ค้าภายใต้กลยุทธ์อย่าง 2024 Deep Tech Revolution: catalyzing growth with AI

สำหรับคีย์สำคัญในปีนี้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ AI โดยเอ้ก ดิจิทัลได้ใช้ศักยภาพของ AI และ Generative AI มาเพิ่มขีดความสามารถรวมถึงนำมาพัฒนาบริการใหม่ ๆ 6 ด้านดังต่อไปนี้

  1. ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับธุรกิจของคู่ค้าในมิติต่าง ๆ อย่างครบถ้วน
  2. ขยายฐานลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ
  3. เพิ่มขีดความสามารถของ AI พร้อมดึงคนรุ่นใหม่มาทำงาน
  4. สร้างความร่วมมือเทคโนโลยีกับกลุ่มสตาร์ทอัป และมหาวิทยาลัยชั้นนำ
  5. นำเสนอโซลูชันของ AI ที่ใช้งานง่าย
  6. ขยายบริการที่ปรึกษา Media และ MarTech

นายวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Analytics AI and Consultation บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด ได้กล่าวว่า “แม้ว่าทั่วโลกจะให้ความสำคัญกับเทรนด์เรื่องการใช้ข้อมูล และนำมาวิเคราะห์ Big Data พร้อมกับนำ AI มาเป็นตัวช่วย และให้คำแนะนำ ทางเอ้ก ดิจิทัล จึงนำเทคโนโลยี AI มาผสานทุกธุรกิจกับทีม New Generation 4D (D-Data scientist, D-Data engineer, D-Data analyst, D-Data visualization) ให้บริการข้อมูล 720 องศา ผ่าน 3 แผนดำเนินงาน 1. Advanced Analytics เพิ่มขีดความสามารถการวิเคราะห์​บิ๊กดาต้า 2. Client-base Expansions ขยายฐาน และเพิ่มโซลูชันที่ตอบโจทย์กับธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ในแต่ละขนาดราคาที่เหมาะสม 3. Analytics as a Service เข้าใจโจทย์ของแต่ละธุรกิจเชิงลึก ผนวกกับเทคโนโลยี AI”

โดยเอ้ก ดิจิทัล ยังได้โชว์ Use Case และโซลูชันด้านธุรกิจค้าปลีกเช่น

  1. EGG AI Wrap : AI และ LLM (Large Language Model) ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และผลออกมาสรุปเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้งานต่อได้ทันที
  2. EGG AI Talk : ถามคำถาม และคำสั่งประเด็นต่าง ๆ ที่เจาะจงธุรกิจคู่ค้าเช่น เช็คยอดขายสินค้าในช่วงเวลาต่าง ๆ รวมไปถึงช่องทางต่าง ๆ สาขา และพฤติกรรมของผู้จับจ่ายซื้อของ

นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Media Convergence บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด ได้กล่าวว่า “ปัจจุบันพวกเรากำลังอยู่ในยุค PHYGITAL ผู้บริโภคต่างใช้ชีวิตที่มีความผสมผสานระหว่างโลกดิจิทัล และโลกจริง เข้าด้วยกัน รวมไปถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง (Multi-Persona) และการเลือกซื้อสินค้าที่ทั้งถี่ และว่องไว (Micro-Moments) ทำให้ผู้บริโภคต่างเสพสื่อที่ตรงใจตัวเอง และชื่นชอบจึงทำให้เกิดคอนเทนต์วิดีโอสั้น และอินฟลูเอนเซอร์ KOLs/KOC เพิ่มขึ้น”

ทาง เอ้ก ดิจิทัล จึงขอรุกตลาดผ่านแนวทาง Media Convergence ได้แก่

  1. ดึงศักยภาพ First Party Data วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ได้รวบรวมพฤติกรรมซื้อขายลูกค้าจากฐานสมาชิกกว่า 15 ล้านราย และ Third Party มาสร้างแผนการตลาดที่ตอบโจทย์แบรนด์นั้น ๆ
  2. นำข้อมูล Insight ต่าง ๆ มาช่วยสื่อสารผ่านคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
  3. เติมเต็มการสื่อสารด้วยสื่อ O4 (Online, Out-of-Home, On-Premise และ On-Ground Activision) ช่วยแนะนำสัดส่วนการทำตลาดผ่านสื่อดิจิทัลที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม และแม่นยำ, กระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคด้วย KOLs/KOC ผ่านสื่อแบบ DOOH หรือ Shoppers’ Digital Screen ที่ตั้งอยู่หน้าห้างค้าปลีกทั่วประเทศ และปิดการขายด้วยสื่อที่ติดตั้งบนชั้นวางขายสินค้า

นางสาวรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ MarTech Solution บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด ได้กล่าวว่า “ในปี 2024 มีการคาดการณ์ว่า บริษัท และองค์กรต่าง ๆ จะลงงบลงทุนด้าน MarTech เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 46% ของงบการตลาด นี่จึงสะท้อนให้เห็นว่าเทรนด์ MarTech เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับยุค Data-Driven ในยุคปัจจุบัน”

ดังนั้นทาง เอ้ก ดิจิทัล จะรุกตลาดผ่าน 2 แนวทางได้แก่

  1. เพิ่มศักยภาพการบริการด้วย AI, เทคโนโลยีขั้นสูง และฐานข้อมูลลูกค้า ให้การวางกลยุทธ์ และแผนการตลาดดิจิทัลยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น จากการผล Use Case ที่ได้ใช้ AI และ Loyalty Platform ช่วยสร้างแคมเปญการตลาดพบว่า สามารถเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้น 100%, ช่องทางการสื่อสาร และผู้ติดตามโซเชียลของแบรนด์เพิ่ม 30%
  2. เปิดตัว E-LON (EGG LINE Official Notification) โซลูชันใหม่ที่สามารถส่งข้อความผ่าน SMS และ LINE ที่มีจุดแตกต่าง และโดดเด่นคือ นำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์ด้วย AI ทำให้การส่งข้อความนั้นมีประสิทธิภาพ และตรงกลุ่มเป้าหมาย