ในขณะที่หลายแบรนด์ยังง่วนอยู่กับการทำความเข้าใจ Gen Z แต่ ทรู (True) เลือกที่จะก้าวกระโดดข้ามช็อตไปอีกขั้น ด้วยการประกาศตัวเป็น First Mover รายแรกของไทย ที่กล้าเดิมพันกับผู้บริโภคกลุ่มที่อายุน้อยที่สุดแต่ทรงอิทธิพลที่สุดในอนาคต นั่นคือ Generation Alpha
การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่สยามสแควร์ ซอย 3 ภายใต้คอนเซปต์ “Z-nomenon & Gen Alpha Ready” ไม่ใช่แค่การเปิดช็อปใหม่เพื่อขายของ แต่คือการประกาศ “The New Rule of Marketing” ว่าในยุคที่ผู้บริโภคหายใจเข้าออกเป็นดิจิทัล “ปฏิสัมพันธ์ (Interaction) คือความจดจำ และ ประสบการณ์ (Experience) คือตัวตนของแบรนด์”
ทำไมต้อง Gen Alpha ?
ทำไมทรูถึงต้องรีบ ? คำตอบอยู่ที่ “โครงสร้างความคิด” ที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ข้อมูลจาก Razorfish และ GWI ชี้ให้เห็นว่า Gen Alpha ไม่ได้แค่ “ใช้” เทคโนโลยี แต่พวกเขา “เป็น” เทคโนโลยี (Digital Natives by nature) สถิติระบุว่า 40% เริ่มใช้แท็บเล็ตตั้งแต่อายุไม่ถึง 6 ขวบ และกว่า 50% คุ้นเคยกับเครื่องเล่นเกมก่อนอายุ 7 ขวบ
คนกลุ่มนี้จึงถูกนิยามว่าเป็น Digital Ninjas คือเชี่ยวชาญ คล่องแคล่ว และแยกแยะโลกจริงกับโลกเสมือนได้อย่างไร้รอยต่อ ทรูมองเห็นว่าการเข้าถึงคนกลุ่มนี้ การยิงโฆษณาแบบเดิม (One-way Communication) คือสิ่งไร้ค่า เพราะสิ่งที่พวกเขามองหาคือ ความจริงใจ (Authenticity) และพื้นที่ที่พวกเขาสามารถแสดงตัวตนได้
คุณโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ แม่ทัพด้านแบรนด์ของทรู ชี้ให้เห็นวิสัยทัศน์ที่คมคายว่า “Gen Alpha คือผู้เปลี่ยนโครงสร้างความคิดของผู้บริโภคทั้งระบบ”
แม้พวกเขาจะดูอายุน้อย แต่ Gen Alpha คือ Shadow influencer ในบ้าน ที่มีอำนาจตัดสินใจซื้อของครอบครัวสูงมาก และที่สำคัญ พวกเขาให้คุณค่ากับแบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจน การที่ทรูเลือกที่จะสร้างความสัมพันธ์ตั้งแต่วันนี้ คือการ Pre-install ความผูกพันลงในใจผู้บริโภค ก่อนที่ตลาดจะถูกนิยามอย่างสมบูรณ์ด้วยซ้ำ
พื้นที่ Flagship Space แห่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงถูกออกแบบมาให้เป็นมากกว่าร้านขายแกดเจ็ต แต่มันคือ Cultural Enabler หรือพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มา “ปล่อยของ”
ทรู เข้าใจดีว่าการตลาดแบบยัดเยียดใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป พื้นที่นี้จึงเน้นความเป็น Interactive และ Gamified Experience เพื่อตอบสนองพฤติกรรมที่ชอบการโต้ตอบและการมีส่วนร่วม นี่คือการตอกย้ำปรัชญา “LIVE Your True Life” ที่ต้องการให้เทคโนโลยีเป็นเพียงลมใต้ปีก ที่ช่วยพยุงให้คนรุ่นใหม่บินได้สูงขึ้นในแบบของตัวเอง
ก้าวย่างของทรูในครั้งนี้ คือเครื่องพิสูจน์ว่า แบรนด์ที่อยู่รอดในอนาคต ไม่ใช่แบรนด์ที่ขายเก่งที่สุด แต่คือแบรนด์ที่ “เข้าใจเพื่อนมนุษย์” ในแต่ละเจเนอเรชันได้ลึกซึ้งที่สุด และพร้อมจะเติบโตไปพร้อมกับพวกเขา ตั้งแต่วันที่พวกเขายังเป็นเพียง Digital Ninjas ตัวน้อย
รับชมได้ที่ >> https://www.facebook.com/watch/?v=1586843189296773
