เมื่อพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราได้เล่นในวิดีโอเกมนั้นเกือบทั้งหมดจะอ้างอิงมาจากจินตนาการของคนเขียนบท และทีมพัฒนาที่สร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมา เหมือนที่เราเห็นในภาพยนตร์หรือการ์ตูน ที่แม้เรื่องราวที่เกิดในเกมเหล่านั้นจะไม่ใช่ของจริง แต่ถ้าเกม ๆ นั้นต้องมีฉากตัวละครรวมถึงเรื่องราวที่อ้างอิงโลกแห่งความจริงมาใช้ เราจึงได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ในโลกแห่งความจริงที่ถูกใส่เข้ามาในเกม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของความรัก ความดีความชั่ว สังคม การเมือง ไปจนถึงเรื่องราวที่เลวร้ายต่าง ๆ ที่มักจะถูกทีมพัฒนาเกมหยิบมาพูดถึง ทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่หลายเกม ซึ่งเมื่อเราหันมาดูเนื้อเรื่องในเกมที่ผ่านมาหลายเกมมันก็ช่างเหมือนกับในสังคมที่เกิดขึ้นตอนนี้เลย (ทั้งทางตรงทางอ้อม) เรามาดูกันดีกว่าว่ามีเกมอะไรบ้างที่สะท้อนสังคมผ่านวิดีโอเกม โดยเราจะไม่ชี้ชัดลงไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนั้น ๆ มันคืออะไรและเกี่ยวกับที่ไหน แต่เราจะพูดแค่เนื้อเรื่องในเกมเท่านั้น ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูไปพร้อมกันเลย

คำเตือน. เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญในเกม

Far Cry 6

Far Cry 6

เริ่มต้นเกมแรกกับเรื่องราวการต่อสู้ของประชาชนในประเทศเล็ก ๆ ในหมู่เกาะทะเลแคริบเบียนที่เรียกว่า ‘Yara’ ซึ่งถ้าใครซึ่งเคยเล่นเกมซีรีส์เกม ‘Far Cry’ มาก่อนจะทราบดีว่าตัวเกมมักจะกล่าวถึงตัวละครที่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาจนเจอเรื่องเลวร้าย แต่ในเกม ‘Far Cry 6’ จะต่างออกไปเพราะเกมภาคนี้เราจะไม่ได้รับบทเป็นคนโชคร้ายที่ไปอยู่ผิดที่ แต่เราคือคนที่เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง กับการรับบทเป็น ดานี่ โรคัส (Dani Rojas) อดีตทหารในกองกำลังติดอาวุธของ ‘Yaran’ ที่ผันตัวเป็นทหารกองโจรที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เพื่อพยายามจะฟื้นฟูประเทศชาติของตนให้กลับมารุ่งเรืองดังเดิม โดยตัวร้ายคราวนี้ที่เราจะต่อกรด้วยคือ แอนตัน คาสติลโย (Antón Castillo) ผู้นำการทหารที่ปกครองประชาชนด้วยความหวาดกลัว โดยที่ไม่สนใจเลยว่าประชาชนจะอดอยากหรือทุกเข็นขนาดไหน แถมเขายังวางแผนที่จะสืบทอดอำนาจตนเองไปสู่ลูกชายชาย ดิเอโก (Diego) ให้รับช่วงต่อ ซึ่งเมื่อการเจรจาเพื่อขอเสรีภาพไม่ได้ผลไฟก็ต้องสู้กับไฟ กับการทำสงครามระหว่างผู้นำประเทศที่ปกครองผู้คน กับประชาชนที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพจึงเริ่มขึ้น ใครสนใจก็เตรียมไปกอบกู้ประเทศ ‘Yaran’ กันได้ 7 ตุลาคมนี้พร้อมซับภาษาไทย

Far Cry 6

Grand Theft Auto San Andreas

Grand Theft Auto San Andreas

ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารวงการเกมจะทราบว่ามีข่าวหลุดออกมาว่าทาง ‘Rockstar’ กำลังจะเอาเกมในซีรีส์ ‘Grand Theft Auto’ มาทำใหม่ให้เราได้เล่น หนึ่งในนั้นก็คือเกมที่หลายคนชื่นชอบอย่าง ‘Grand Theft Auto San Andreas’ เกมที่เราจะได้รับบทเป็น คาร์ล จอห์นสัน (Carl Johnson) หรือที่เพื่อน ๆ เรียกว่า “CJ” อดีตสมาชิกกลุ่มนักเลงข้างถนน ‘Grove Street Families’ ซึ่งออกจาก ‘Liberty City’ เมื่อ 5 ปีก่อนเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้น แต่เขาก็ต้องกลับมาที่บ้านเพื่อมาสืบหาการเสียชีวิตของแม่ แต่เมื่อก้าวเท้าออกมาจากสนามบินซีเจก็ถูกตำรวจ CRASH ที่ทุจริตอย่างเจ้าหน้าที่ แฟรงค์ เทนเพนนี (Frank Tenpenny) ที่คอยรีดไถตามกลุ่มนักเลง พร้อมกับขู่บังคับให้นักเลงเหล่านั้นทำงานทุจริตต่าง ๆ ที่ตำรวจทำไม่ได้ให้ซีเจและเพื่อน ๆ ทำ แถมขู่ว่าถ้าเขาเปิดเผยว่าตำรวจอยู่เบื้องหลังเขาและเพื่อน ๆ จะเข้าคุกขังยาว ๆ แต่ถ้าทำพลาดตำรวจเหล่านั้นก็จะโยนความผิดให้กับซีเจ เรียกว่ามัดมือชกแบบไม่มีทางต่อรอง ซึ่งตลอดทั้งเกมเราต้องเป็นเบี้ยของตำรวจเหล่านี้จนสามารถเอาคืนได้ในที่สุด ซึ่งใครที่เคยเล่นมาแล้วจะรู้เรื่องราวความสนุกของเกมนี้ดี ที่เรียกว่าให้อิสระกับคนเล่นมากกว่า ‘GTA’ ทุกภาคที่ผ่านมา ยกตัวอย่างระบบตัวละครที่ถ้าเรากินมาก ๆ เราจะอ้วน แต่ถ้าออกกำลังกายมาก ๆ หุ่นก็จะดีมีมัดกล้ามที่ภาคอื่นไม่มี รวมถึงระบบต่าง ๆ อีกมากมายที่คนซึ่งเคยเล่นมาแล้วต่างรอคอยเล่นอีกครั้ง ใครที่ไม่เคยเล่นก็เตรียมเล่นฉบับใหม่ไปเลยอีกไม่นานเกินรอ

Grand Theft Auto San Andreas

Watch Dogs Legion

Watch Dogs Legion

มนุษย์ทุกคนควรมีอิสระทั้งความคิดเสรีภาพในการแสดงความเห็นในทุกเรื่อง ไม่ใช่การปิดกั้นเสรีภาพที่ห้ามพูดห้ามทำ หรือแม้แต่ห้ามแสดงความคิดที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ผู้มีอำนาจไม่ต้องการ  เมื่อเป็นแบบนั้นจึงเกิดกลุ่มต่อต้านขึ้นมาที่เรียกว่า  ‘DedSec’ ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ลุกขึ้นสู้เพื่อความถูกต้อง นั่นคือที่มาของเกมในซีรีซ์ ‘Watch Dogs’ ที่ดำเนินเนื้อเรื่องผ่านมาแล้ว 3 ภาคและภาคล่าสุดอย่าง ‘Watch Dogs Legion’ ก็ยังคงเป็นการต่อกรกับองค์กรขนาดใหญ่ที่พยายามปิดกั้นข้อมูล และใส่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงผ่านประชาชน แถมยังสร้างข่าวใส่ร้ายกลุ่มคนที่สู้เพื่อเสรีภาพว่าเป็นผู้ก่อการร้าย โดยการสร้างผู้ก่อการร้ายปลอม ๆ ขึ้นมาในชื่อ ‘Zero Day’ เพื่อสร้างความวุ่นวาย และป้ายความผิดให้กับกลุ่ม ‘DedSec’ ให้ถูกตามล่า แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีคนที่รู้เรื่อง และไม่เห็นด้วยที่พร้อมจะร่วมมือกันเพื่อความถูกต้อง โดยที่คุณจะเป็นใครเพศใดอายุเท่าไหนก็สามารถต่อสู้เพื่อเสรีภาพได้ เพราะเรื่องของความถูกต้องและเสรีภาพไม่ควรขึ้นอยู่กับคนบางกลุ่มแต่มันคือของผู้คนทุกคน เพราะในเกมนี้เราสามารถเล่นเป็นใครก็ได้เพียงแค่ไปชวนเขามาเข้ากลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นไปจนถึงคนแก่ที่ทุกคนจะมีความสามารถที่ต่างกันไป เราเพียงแค่เลือกคนที่มีความสามารถให้ตรงกับภารกิจ ตัวเกมเน้นการลอบเร้นที่ต้องใช้โทรศัพท์ในการเจาะระบบต่าง ๆ เพื่อเข้าไปให้ถึงเป้าหมาย ตัวเกมให้อิสระกับเราทุกอย่างว่าจะเลือกทำอะไรจะเป็นใคร เพราะทุกคนมีอิสระทุกคนมีทางเลือกชีวิตของเราตัวเราควรเลือกเองไม่ใช่ให้ใครมาตัดสิน

Watch Dogs Legion

Metal Gear Solid 3 Snake Eater

Metal Gear Solid 3 Snake Eater

คุณเคยรู้สึกผิดหวังแบบมาก ๆ ไหม แบบประมาณว่ากลุ่มคนที่คุณเคารพรักและคิดว่าคน ๆ นั้นจะต้องเป็นคนดีและช่วยเหลือเราได้ เราจึงทุ่มเททุกอย่างทุ่มใจทำงานให้คนกลุ่มนั้นเป็นการตอบแทน แต่สุดท้ายเมื่อทุกอย่างผิดพลาดขึ้นมาคนกลุ่มนั้นก็โยนความผิดทั้งหมดให้กับเรารับผิดชอบ ทั้งที่แผนการทุกอย่างนั้นมาจากสิ่งที่คนกลุ่มนี้คิด และคนที่ได้ผลประโยชน์เมื่องานสำเร็จก็คือพวกคนกลุ่มนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ชายคนหนึ่งที่เคยรบเพื่อชาติจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้ก่อการร้ายในเกม ‘Metal Gear Solid 3 Snake Eater’ ที่เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวของ ‘Snake’ ชายที่อดีตเคยเป็นสุดยอดทหารที่ทำเพื่ออเมริกาพร้อมกับอาจารย์ของตนในสงครามเย็น ที่ทางรัฐมนตรีได้ส่ง ‘TheBoss’ ไปเข้าร่วมกับฝ่ายศัตรูเพื่อทำลายฝ่ายนั้นจากภายใน แต่เมื่อแผนการที่จะทำลายฝ่ายตรงข้ามผิดพลาด ทางรัฐบาลอเมริกาก็ตัดหาง ‘TheBoss’ ทิ้งพร้อมป้ายความผิดว่า ‘TheBoss’ คือผู้ก่อการร้ายที่ต้องตาย จนต้องส่งลูกศิษย์อย่าง ‘Snake’ ไปฆ่า ซึ่ง ‘TheBoss’ ก็ทราบเรื่องนี้ก็ยอมตายเพื่อประเทศในฐานะผู้ก่อการร้ายที่คนทั้งโลกจะไม่รู้ความจริง ขณะที่ ‘Snake’ ซึ่งฆ่าอาจารย์ตนเองก็ได้เลื่อนขั้นมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับอาจารย์ตนเอง ที่ต้องทำเรื่องสกปรกเพื่อประเทศชาติและเป็นหมากที่พร้อมจะถูกโยนทิ้งตัวต่อไป ทั้งที่ความจริงแล้วมันก็แค่การทำเรื่องเลวร้ายเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มที่เอาประเทศชาติมาอ้าง ซึ่งถ้าใครที่เคยเล่นภาคนี้มาแล้วที่นอกจากตัวเกมที่สนุกแล้วเนื้อเรื่องก็กินใจด้วย ใครที่อยากเล่นซีรีส์ ‘Metal Gear Solid’ เริ่มจากภาคนี้เลยเพราะนี่คือจุดเริ่มต้นทุกอย่างในเกม ที่รับรองว่าคุณต้องชอบเกมนี้อย่างแน่นอน

Metal Gear Solid 3 Snake Eater

Dead Rising

Dead Rising

เมื่อพูดถึงแนวเกมที่สามารถใส่เนื้อหาได้ครอบคลุมทุกแนวได้ดีที่สุด หนึ่งในนั้นก็คือเกมแนวซอมบี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นแนวรักแนวตลกเสียดสีสังคมการเมืองไปจนถึงแนวเอาชีวิตรอด เกมซอมบี้เราก็สามารถใส่ลงไปได้แบบไม่มีติดขัดเมื่อเทียบกับเกมแนวอื่น ๆ เมื่อเป็นแบบนั้นเราจึงได้เห็นเกมและภาพยนตร์ซอมบี้ได้แอบใส่เรื่องราวการจิกกัดสังคมอยู่เสมอ หนึ่งในนั้นก็คือเกมในซีรีส์ ‘Dead Rising’ ที่ถ้าใครเคยเล่นเกมซีรีส์นี้มาจะทราบได้ทันทีว่าเกมนี้จะเน้นที่การจิกกัดสังคมในแง่ของความเหลื่อมล้ำ ที่เกี่ยวกับคนรวยที่กินอยู่สบายขณะที่คนจนต้องถูกกดขี่เอาชีวิตรอดไปวัน ๆ ที่เมื่อมีเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดยิ่งเห็นได้ชัดมากขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่เรียกว่าจิกกัดได้แรงที่สุดคือช่วงท้ายของเกมทุกภาค ที่นอกจากเราจะต้องสู้กับซอมบี้ที่โหดขึ้นแล้วยังต้องต่อสู้กับกองทหารที่มาฆ่าเราและผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ เพื่อปิดปากเราไม่ให้พูดในสิ่งที่เกิดขึ้น  เพราะทหารเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำลายหมู่บ้านหนึ่ง เพื่อต้องการใช้หมู่บ้านเป็นทางผ่านท่อส่งน้ำมัน จนผู้รอดชีวิตในหมู่บ้านก่อการร้ายด้วยการแพร่เชื้อซอมบี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนเราก็จะเห็นความเน่าเหม็นของผู้ที่ควรปกป้องประชาชนประเทศชาติ แต่กลับมาฆ่าผู้คนเพียงเพราะผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ใครที่ชอบเกมซอมบี้เป็นร้อยเกมนี้ไม่ควรพลาด

Dead Rising

Heavy Rain

Heavy Rain

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตำรวจที่เราควรต้องไว้ในการปกป้องประชาชนและดีใจเมื่อได้เจอกลับกลายเป็นคนร้ายเป็นฆาตกรโรคจิต ‘Origami Killer’ เสียเอง แถมคนที่ทำคดีนี้ก็คือเจ้าตัวเอง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม ‘Heavy Rain’ เกมแนว ‘Interactive storytelling’ ที่เราจะต้องเลือกเส้นทางคำตอบให้ตัวละครนั้น ๆ ซึ่งสิ่งที่เราเลือกตอบหรือกระทำจะส่งผลถึงเนื้อเรื่องต่อไป โดยเกม ‘Heavy Rain’ เราจะได้รับบทเป็น 4 ตัวละครที่ตามสืบเรื่องราวของฆาตกรโรคจิตที่จะทิ้งกระดาษพับแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า ‘Origami’ เอาไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งหนึ่งในตัวละครที่เราต้องเล่นนั้นก็คือนายตำรวจ สก็อตต์ เชลบี้ (Scott Shelby) ที่ตามสืบคดีที่ตัวเองเป็นคนทำ ซึ่งเขาสามารถปกปิดหลักฐานการฆ่าและแก้ต่างเพื่อให้ตัวเองไม่ถูกจับได้(ก็สืบเองจับเอง) ขณะที่ตัวละครคนอื่นที่เป็นเพียงแค่คนธรรมดาก็พยายามดิ้นรนหาทางจับคนร้าย แต่ในเมื่ออำนาจอยู่ในมือคนผิดสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความไม่ยุติธรรม ใครที่เล่นเกมนี้มาแล้วก็คงจะอึ้งจนพูดไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อเจอแบบนี้

Heavy Rain

Marvel’s Spider-Man

Marvel's Spider-Man

เมื่อพูดถึงเกม ‘Marvel’s Spider-Man’ บน ‘PlayStation 4’ และ  5 ใครที่เคยเล่นเกมนี้จบมาแล้ว จะทราบดีว่าเกมนี้เหมือนเป็นการทำนายอนาคตบ้านเราล่วงหน้าเลย ไม่ว่าเป็นปัญหาฝุ่น PM2.5 ทั่วกรุงเทพจนทุกคนต้องสวมหน้ากาก ที่ในเกม ‘Marvel’s Spider-Man’ เราก็ต้องเจอแบบเดียวกันแถมเป็นฝุ่นควันพิษที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเหมือนกัน ตามด้วยปัญหาไวรัสระบาดที่ในเกมนี้จะเกิดมาจากเหล่าตัวร้ายที่พยายามขโมยเชื้อไวรัสที่บริษัท ‘Oscorp’ บังเอิญสร้างเชื้อไวรัสร้ายแรงที่ชื่อ ‘Devil’s Breath’ ขึ้นมาได้ในระหว่างที่กำลังพัฒนาวิธีรักษาโรคทางพันธุกรรมให้กับ แฮร์รี่ ออสบอร์น (Harry Osborn) ซึ่งทางบริษัท ‘Oscorp’ ก็พยายามจะเก็บเชื้อนี้ไว้ให้ปลอดภัยจากผู้ก่อการร้ายแทนที่จะทำลายมัน จนเชื้อไวรัสถูกแพร่กระจายจนมีชาวเมืองติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่เหล่าตำรวจทหารที่จะช่วยผู้คนต่างก็ออกไปปกป้องคนรวยและผู้มีอำนาจ รวมถึงการหาวัคซีนมาฉีดให้คนกลุ่มนั้นแทนที่จะฉีกให้เด็กและคนแก่ ขณะที่ประชาชนมีเพียงเพื่อนบ้านที่แสนดีอย่างไอ้แมงมุมคนเดียวที่ปกป้องทุกคน โดยเราก็หวังว่าบ้านเราจะมีตอนจบเหมือนในเกมนี้ ที่ทุกอย่างกลับคืนมาเป็นปกติ แต่ก็ยังมีความชั่วร้ายครั้งใหม่ที่กำลังคืบคลานเข้ามาในอนาคต แต่เราก็เชื่อว่าเมื่อทุกอย่างจบลงประชาชนคงได้รับบทเรียนจากสิ่งที่ผ่านมา จนสามารถก้าวข้ามไปในอนาคตที่ดีกว่านี้ได้อย่างแน่นอน

Marvel's Spider-Man

Detroit Become Human

Detroit Become Human

ในอดีตนั้นมนุษย์เริ่มต้นจากการรวมตัวกันในฐานะสัตว์สังคมเพื่อความอยู่รอด จนวันเวลาผ่านเลยไปมนุษย์ก็เริ่มวิวัฒนาการทางด้านสังคม มีการเลือกผู้นำที่แข็งแกร่งมาปกป้องฝูง ไปจนถึงเลือกคนที่ฉลาดเพื่อผลประโยชน์แก่คนในฝูง และมีการจัดตั้งกลุ่มคนเพื่อมาดูแลคนหมู่มากที่มาจากการเลือกของผู้คนที่เรียกว่าประชาธิปไตย ที่ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในการเลือกผู้นำฝูง แต่ในสังคมที่เราเห็นมันกลับแอบแฝงความเหลื่อมล้ำเอาไว้ เหมือนที่เกม ‘Detroit Become Human’ สะท้อนออกมาผ่านตัวละครหุ่นยนต์ทั้งสามคน ที่ต้องเจอเรื่องราวความเหลื่อมล้ำในสังคมไม่ว่าจะเป็น เชื้อชาติ สีผิว ความรวยจน การใช้ชีวิต การทำงาน ไปจนถึงการถูกกดขี่ ผ่านเรื่องราวของหุ่นยนต์ที่ถูกมนุษย์มองว่าเป็นสิ่งไม่มีชีวิตที่ควรถูกจัดให้เป็นแค่สิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งหุ่นยนต์ในเรื่องนี้ก็เปรียบเหมือนคนทั่วไปที่ต้องเจอเมื่อคุณไปอยู่ในบ้านเมืองอื่น หรือจากบ้านนอกมาทำงานในเมือง คุณก็จะถูกแบ่งเป็นคนเกรดต่าง ๆ ในสังคมทันที นี่ยังไม่นับความสวยหล่อมีชื่อเสียงที่จะได้สิทธิพิเศษมากกว่าคนธรรมดา ซึ่งตัวเกมก็มีทางเลือก 3 แบบกับหุ่นยนต์ทั้ง 3 คนที่เลือกแนวทางของตนเองในสังคม ไม่ว่าจะเลือกต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ให้หุ่นยนต์ หุ่นยนต์ที่พร้อมจะยอมถูกกดขี่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะความหวาดกลัว กับหุ่นยนต์ที่พยายามหาทางอยู่ร่วมกับมนุษย์ในสังคมนี้ ซึ่งสิ่งที่หุ่นยนต์ทั้งสามแบบทำนั้นก็มีอยู่จริง ๆ ในสังคม (แถมมีมากกว่าแค่ 3 แบบนี้) ซึ่งทุกอย่างที่คุณเลือกในเกมก็จะนำพาไปสู่จุดจบที่ต่างกัน แล้วคุณจะรู้ว่าความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้นมันเป็นอย่างไรผ่านเกมนี้

Detroit Become Human

Red Dead Redemption

Red Dead Redemption

ทุกสังคมล้วนมีทั้งคนดีคนเลวปะปนกันอยู่ทุกที่ เว้นแต่เพียงว่าคนเลวเหล่านั้นได้ไปอยู่ตรงจุดไหนของสังคมและมีอำนาจขนาดไหน เหมือนอย่างในเกม ‘Red Dead Redemption’ ภาคแรก ที่เราจะได้รับบทเป็น จอห์น มาร์สตัน (John Marston) จอมโจรกลับใจที่ถูกตำรวจจับได้ เขาถูกยื่นข้อเสนอจากตำรวจว่าถ้าเขาสามารถจับเป็นรึตายอดีตเพื่อนโจรที่เคยร่วมปล้นกันมาได้ ทางตำรวจจะให้เขาพ้นผิดได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว ซึ่งจอห์นก็พร้อมจะทำเพื่อครอบครัว เขาต้องเสี่ยงตายไปต่อสู้กับอดีตพี่น้องที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา จนสามารถจับ (ฆ่า) เพื่อนโจรได้ครบ จอห์นก็ได้ชีวิตที่สงบสุขกับครอบครัวตามที่ตำรวจได้สัญญาเอาไว้ แต่นั่นก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะไม่นานตำรวจเหล่านั้นก็มาจับ (ฆ่า) จอห์น เพราะเขาคือโจรคนสุดท้ายที่ตำรวจต้องมาปราบ ส่วนคำสัญญานั้นไม่เคยมีอยู่จริงเหมือนคำที่ว่า “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” แต่นี่ไม่ใช่โจรก็เท่านั้น ส่วนใครที่ชอบเกมแนว ‘GTA’ แต่เป็นคาวบอยตะวันตกก็ไปหามาเล่นกันได้บอกเลยว่าของดี

Red Dead Redemption

Final Fantasy VII Remake

Final Fantasy VII Remake

ปิดท้ายกับเกมที่หลายคนน่าจะได้เล่นจบกันไปแล้วกับ ‘Final Fantasy VII Remake’ เกมที่เริ่มต้นเรื่องราวแบบง่าย ๆ ของกลุ่มคนที่พยายามช่วยโลกใบนี้เอาไว้จากบริษัทอันชั่วช้าอย่างบริษัท ‘Shinra Company’ ที่ใช้อำนาจที่ตนเองมีแต่งตั้งตนเองและพรรคพวกในการขึ้นมาอยู่จุดสูงสุด ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยก็ถูกกำจัดให้พ้นทาง แถมยังแบ่งชนชั้นคนรวยให้มีชีวิตในเมืองที่สวยงาม แต่คนจนต้องมาแออัดในสลัม แถมยังดูดกลืนพลังงานจากโลกมาใช้โดยที่ไม่สนใจเลยว่าโลกนี้กำลังตายอย่างช้า ๆ จนมีกลุ่มคนที่พยายามกอบกู้โลกนี้ไว้  แต่คนที่หวาดกลัวและรอคอยเศษทานจากคนรวยนั้นมีมากกว่าคนที่จะมาต่อต้าน จึงทำให้กลุ่มของพวก คลาวด์ สไตรฟ์ (Cloud Strife) จึงเป็นเพียงแค่คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง แถมยังถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ก่อความวุ่นวายจนถูกตามล่า ทั้งที่ความจริงก็เป็นฝีมือของพวก ‘Shinra Company’ แต่กลุ่มต่อต้านก็ไม่เคยย่อท้อยังคงพยายามทำทุกทางเพื่อช่วยโลกใบนี้ เพราะถ้าทุกคนต่างยินยอมคล้อยตามหรือไม่คิดจะไปยุ่งเพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราหรือเลือกอยู่ฝ่ายที่ผิด สุดท้ายเมื่อทุกอย่างมาถึงจุดสิ้นสุดทุกคนต่างก็ต้องรับผลที่เกิดขึ้นตามมา แต่คนที่ไม่เห็นด้วยและต่อต้านต้องมารับผลที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับคนเหล่านี้ไปด้วย ดังนั้นแทนที่เราจะนั่งดูดายสู้ร่วมมือกันหาทางออกเพื่อโลกใบนี้กันดีกว่า เพราะสุดท้ายในชีวิตจริงแค่คนกลุ่มเล็ก ๆ แบบในเกม ‘Final Fantasy VII Remake’ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน

Final Fantasy VII Remake

ก็จบกันไปแล้วกับ 10 เกมที่มีเรื่องราวสะท้อนสังคมที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเราไม่ขอฟันธงหรือบอกว่าเรื่องราวแบบนี้มันจะเกิดขึ้นที่ไหน เพราะเรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทั่วโลก ซึ่งคนที่เล่นเกมมาจะเคยชินกับเนื้อเรื่องแบบนี้เป็นอย่างดี เอาเป็นว่าอ่านกันสนุก ๆ ไม่ต้องไปคิดมาก   เพราะนี่มันคือเรื่องราวในเกมอย่าไปเอาไปรวมกับชีวิตจริง เพราะสุดท้ายยังไงเรื่องราวในเกมก็ต้องมีจุดสิ้นสุดไม่ว่าจะดีหรือร้าย แต่ในชีวิตจริงการยุติเรื่องหนึ่งก็อาจจะเป็นสิ่งที่เริ่มต้นอีกสิ่งที่อาจจะเลวร้ายกว่า หรือดีกว่าเกิดขึ้นตามมาก็ได้ ยังไงก็คงต้องรอดูกันต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้กันต่อไปเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส