คุณเคยรู้สึกเสียใจ หรืออยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรมั้ยคะ ?  หลายๆ ครั้ง เรามักรู้สึกว่าเราน่าจะทำอดีตให้มันดีกว่านี้ เพื่อที่ตอนนี้และอนาคตของเราจะได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็รู้ว่าเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขมันได้อีกแล้ว เหมือนกับว่า คิดได้ก็เท่านั้น เพราะฉันทำอะไรไม่ได้แล้ว..

มาดู 10 สิ่งที่คนส่วนใหญ่จะรู้สึกเสียดาย เสียใจ และเพิ่งคิดได้ตอนแก่กันค่ะ และถ้าคุณเป็นคนที่อายุน้อยกว่า 40 หล่ะก็ นี่คือโอกาสดี ที่จะลบความผิดพลาดเหล่านี้ออกจากชีวิต!

1. กลัวที่จะทำสิ่งต่างๆ

หลายครั้งที่คนเรามักจะกลัว และไม่กล้าออกจาก comfort zone ไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรอย่างเด็ดเดี่ยว กลัวความผิดพลาด กลัวการเปลี่ยนแปลง และกลัวสิ่งใหม่ๆ หากคุณรู้สึกว่าตัวเองมีพฤติกรรมและความคิดแบบนี้อยู่ ถึงเวลาแล้วหล่ะที่คุณต้องเปลี่ยน เพราะถ้าคุณไม่กล้าที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และกลัวการเปลี่ยนแปลง ชีวิตคุณจะไม่มีวันพัฒนาขึ้นเลย โดยคุณอาจเริ่มต้นจากการเข้าไปอยู่ในสังคมใหม่ๆ เริ่มทำความรู้จักผู้คนจากงาน networking เริ่มเข้าครอสเรียนภาษาที่ 3 หรือเริ่มทำโปรเจ็คงานที่คุณเคยปฏิเสธ เป็นต้น

2. ไม่ออกไปเที่ยว ตอนที่คุณยังมีแรงและเวลา

การไปเที่ยวตอนแก่ ไม่ใช่เรื่องง่ายและเรื่องสนุกอีกต่อไป จินตนาการว่าคุณอยากจะปีนเขาเอเวอร์เรส ในวัย 50 กับลูกๆ แต่คุณไม่มีเรี่ยวแรงมากพอ ดังนั้นเลิกคิดไปเลยว่า คุณจะทำงานหนักวันนี้ และเก็บเงินไปเที่ยวตอนเกษียณ เพราะถึงเวลานั้นคุณอาจทำได้แค่เดินตามไกด์ทัวร์ด้วยสีหน้าง่อยๆ เดินไม่ถึง 30 นาที ก็เมื่อยขาก็ได้

ลองแบ่งเงินออมส่วนหนึ่งในการท่องโลกสิ อาจเริ่มจากเก็บเงินวันละ 50-100 บาท พอปลายปีคุณก็ได้ไปเที่ยวทริปดีๆ หลายทริปแล้ว

3. ทนอยู่กับคู่รักและความสัมพันธ์แย่ๆ

หลายคนคิดว่า “คนรักของคุณจะเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ ของเค้าได้” ขอให้คุณจงหยุดความคิดนั้นไว้สะเดี๋ยวนี้ สิ่งที่คุณไม่รู้คือ มีคนจำนวนมาก ที่เลิกกับคู่รักในวัย 30 ทั้งๆ ที่พวกเขาควรจะแต่งงานกัน ทำไมหน่ะหรอ ? เพราะไม่มีใครที่จะยอมปรับเปลี่ยนตัวเองได้ง่ายๆ และไม่มีใครอยากทำ และเมื่อวัย 30 มาถึง พวกเขาจึงได้เรียนรู้ว่า “คนไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่” สิ่งที่คุณควรจะทำคือ เลิกให้เขาปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเอง แต่ควรที่จะเลือกเดินออกมาแทน หรือไม่อย่างนั้น คุณก็ต้องยอมรับนิสัยแย่ๆ ของเค้า ที่จะทำให้คุณเศร้าและเครียดในอนาคตแทน

และมีอีกหลายคู่ที่แต่งงานกันไป แล้วพบว่า ตัวเองเลือกคู่ชีวิตผิดแล้ว และการเลือกคู่ชีวิตที่ไม่เหมาะกับคุณ จะทำให้คุณเสียใจไปทั้งชีวิต อย่าถามนะว่าทำไม.. ลองสังเกตหลายๆ คู่ รอบตัวคุณดูสิ

Unfolding The Plot – WordPress.com

4. ไม่ลาออกจากงานที่แย่

ในวัย 50 ปี คุณตื่นเช้ามา แล้วพบว่ามีบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่างวดบัตรเครดิตอยู่บนโต๊ะ และคุณก็เริ่มตระหนักได้ว่า ที่ผ่านมา คุณทำงานที่คุณไม่ได้ชอบ มีเพื่อนร่วมงานนิสัยเสีย เจ้านายแย่ๆ และความกดดันต่างๆ นานา เพื่อให้แต่ละเดือนคุณมีเงินยังชีพและจ่ายบิลเท่านั้น

นี่คือสิ่งที่คุณตามหาในชีวิตหรอ ? ถ้าคำตอบคือไม่ใช่..

แล้วทำไมคุณต้องทนทำงานแย่ๆ เพื่อมาจ่ายบิลตอนต้นเดือนด้วยหล่ะ

มันคงจะดีกว่า ถ้าที่ผ่านมา คุณจ่ายบิลต่างๆ ด้วยรอยยิ้ม เพราะมันเป็นเงินส่วนหนึ่งที่คุณหยิบออกมา อันเป็นผลพวงจากการทำงานที่ชอบ เจอเพื่อนและเจ้านายดีๆ ในทุกวัน

5. ยุ่งกับงานตลอดเวลา

คุณรู้มั้ย น้อยคนมากๆ ที่อายุย่างเข้าวัย 70 แล้วจะคิดถึงชีวิตในออฟฟิศของพวกเขา คิดถึงงานอันท้าทายบนโต๊ะ คิดถึงลูกค้าที่พวกเขารัก.. เพราะในความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณแก่ตัวลง สิ่งที่คุณจะคิดถึงก็จะมีแต่… ตัวคุณเอง ลูกๆ หลานๆ เพื่อน ภรรยา สามี และพ่อแม่ของคุณ คุณจะคิดวนเวียนว่าอยากใช้เวลากับพวกเขามากกว่านี้ คุณอยากออกไปเที่ยวกับพวกเขา นั่งกินอาหารบนโต๊ะที่อบอุ่น และหัวเราะอย่างสนุกสนาน

พอนึกย้อนกลับไปคุณก็ได้แต่คิดว่า ทำไมคุณเอาเวลา 10 กว่าชั่วโมงต่อวัน ทำงานที่ออฟฟิศ แทนที่จะใช้เวลากับคนรอบข้างนะ

6. สนใจกับความคิดของคนอื่นมากเกินไป

เมื่อคุณแก่ตัวลง คุณจะเริ่มคิดว่า เอ๊ะ ทำไมตอนนั้นคุณต้องเสียเวลาไปกับการนั่งร้องไห้ เครียด หรือกังวล กับสิ่งที่คนอื่นๆ บอกว่า คุณมันอ้วน ดำ โง่ ไร้สติ และไม่มีอะไรดี!

Collider

คุณจะเริ่มคิดได้ว่า คำพูดของคนอื่น ไม่ได้มีอิทธิพลหรือทำให้คุณรู้สึกแย่ได้ หากคุณไม่ยินยอมที่จะแบกรับความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้น ปฏิกริยาของคนอื่นๆ มีผลกับคุณแค่ไม่กี่วินาที แต่หลังจากนั้นความคิดวนเวียนของคุณต่างหากที่ทำร้ายตัวเอง

และทางออกคืออะไรหล่ะ ? คุณก็พิสูจน์สิ ว่าชีวิตคุณทำได้ดีกว่านั้น เอาชนะพวกเขาด้วยการพัฒนาตัวเองของคุณไงหล่ะ

แต่หากคุณไม่ทำมันตั้งแต่ตอนนี้ คุณอาจจะนึกเสียดายตอนหลัง ที่ในเวลานั้นๆ คุณเอาแต่แคร์คำพูดของพวกเขาจนคุณประสาทเสีย และคุณก็ไม่ได้ทำอะไรให้ชีวิตดีขึ้นเลยสักอย่าง

7. ไม่เคยเป็นอาสาสมัคร

แน่นอนว่า คุณคิดมาเสมอว่าคุณไม่ใช่คนดีอะไร แต่วันนึงคุณจะเสียใจ เมื่อพบว่า ที่ผ่านมาคุณแทบไม่ได้ทำอะไรเพื่อสังคมเลย และการเข้าวัดตอนแก่ ก็ไม่ได้ลบล้างความรู้สึกผิดนั้นได้เท่าไหร่

ดังนั้นจงแบ่งเวลาชีวิตให้กับการเป็นอาสาสมัครทำประโยชน์ให้สังคมบ้าง อาจไม่ต้องมากมายถึงขั้นทำเป็นวันเป็นคืน จนไม่มีเวลาจะทำอย่างอื่นในชีวิต แต่การแบ่งเวลาอย่างน้อยเดือนละครั้งถึงสองครั้ง กับการบำเพ็ญประโยชน์ ก็ทำให้ชีวิตของคุณมีคุณค่ามากขึ้นแล้ว

“และวันนึงคุณจะเข้าใจความหมายของการเป็นผู้ให้ได้ด้วยตัวเอง”

8. ไม่ดูแลสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะฟัน!

คนส่วนใหญ่เอาแต่ครุ่นคิดว่า ถ้าตอนนั้นพวกเขาแปรงฟันให้ดีกว่านี้ วันนี้คงไม่ต้องใส่ฟันปลอม และบางทีพวกเขาก็เผลอคิดว่าถ้าพวกเขาออกกำลังกายวันละนิดวันละหน่อย ตอนนี้พวกเขาคงไม่เป็น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคเบาหวาน โรคข้อต่อและกระดูก และความดันสูง

“แน่นอนว่าการป่วยหลังเกษียณทำให้ความสนุกจากการใช้เงินที่คุณเก็บมาทั้งชีวิต น้อยลงไปกว่าครึ่งแน่นอน”

9. สนใจแต่เรื่องของตัวเอง

ใครจะไปรู้ว่า ตอนคุณเหยียบวัย 70 ที่คุณมีพร้อมทุกอย่าง บ้าน รถ ที่ดินและทรัพย์สินมหาศาล คุณจะเริ่มคิดได้ว่า ที่ผ่านมาคุณเอาแต่สนใจเรื่องของตัวเองจนลืมคนอื่นๆ คุณเอาแต่คิดว่าจะทำยังไงให้คุณรวยขึ้น จะทำยังไงให้คุณมีชื่อเสียง ? แล้วคุณก็หลงลืมคนรอบข้าง ลืมว่าพ่อแม่ เพื่อนสนิท คู่รัก ลูกๆ ของคุณ พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ยังไง พวกเขาอยากแชร์ความรู้สึกอะไรกับคุณมั้ย เขาอยากให้คุณอยู่ข้างๆ ในวันที่ย่ำแย่บ้างหรือเปล่า.. คุณค้นพบว่า คุณไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นในคืนวันที่ผ่านมา และคุณก็เริ่มรู้สึกเสียใจ

sogolonmovements.wordpress.com

มันคงจะดีกว่า ถ้าในทุกๆ วัน คุณสนใจที่จะพัฒนาตัวเอง ไปพร้อมๆ กับ การอ้าแขนเพื่อเปิดรับคนอื่นๆ เข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของคุณ และคุณก็นั่งข้างๆ พวกเขา เพื่อพูดคุยและแชร์โมเม้นต่างๆ ในชีวิต

10. ละเลยคำแนะนำของพ่อแม่

ข้อนี้อาจจะเจ็บปวดใจไปสักหน่อย เพราะตอนคุณอายุ 30 คุณยังรู้สึกว่า “การเลือกชีวิตด้วยตัวเราเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” อยู่เลย แต่เมื่อชีวิตคุณก้าวเข้าสู่วัยทอง คุณจะเริ่มคิดว่า “หากตอนนั้น ฉันเชื่อพ่อแม่ ชีวิตต้องดีกว่านี้แน่ๆ”

แน่นอนว่า พ่อแม่ของพวกคุณ อาจไม่ได้พูดถูกต้องไปสะทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นคนๆ หนึ่ง ที่หวังดีกับพวกคุณ และพวกเขามีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า การฟังคำแนะนำของพวกเขาและนำมาไตร่ตรองบ้าง ก็เป็นเรื่องดีไม่น้อย

เหมือนกับประโยคที่ฮิตๆ กันในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คที่บอกว่า “ถ้าแม่ของคุณบอกว่า.. แล้วลูกจะเสียใจ คุณเตรียมเสียใจไว้ได้เลย”

แล้วคุณอยากเสียใจมั้ยหล่ะ ??

10 ข้อที่ว่ามานี้ มีข้อไหนที่คุณกำลังเป็นอยู่บ้างคะ ? และถ้าคุณไม่อยากรู้สึกเสียใจในวันที่คุณแก่ตัวลงหล่ะก็ แนะนำว่าคุณควรรีบปรับมันแบบด่วนๆ และเริ่มเอนจอยกับทุกโมเม้นในชีวิตคุณได้แล้ว ไปค่ะ ลุยยย!!