เดี๋ยวนี้การใช้ชีวิตดีๆ อยู่ในประเทศของตัวเองอาจไม่เพียงพอแล้ว เพราะเมื่อเทคโนโลยีและความก้าวหน้ามาถึง ทำให้เราต้องเชื่อมสัมพันธ์กับสังคมโลกโดยอัติโนมัติ ความรู้เรื่องการระหว่างประเทศ ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญ และ 1 ในสาขาวิชาที่ส่งเสริมความรู้เรื่องความสัมพันธ์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เห็นจะหนีไม่พ้นคณะรัฐศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ ซึ่งวันนี้แบไต๋ก็ได้เชิญบัณฑิตสาว แจ๊คกี้ – แจ๊คควิริน บูชานัน ที่เพิ่งจบการศึกษามาหมาดๆ จากรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาพูดถึงสาขาวิชาที่เธอเรียนกัน.. ใครที่สนใจในเรื่องการระหว่างประเทศ ต้องไปทำความรู้จักกับเธอโดยด่วนค่ะ

ทำไมถึงเลือกเรียนรัฐศาสตร์ การระหว่างประเทศ

ตอนแรกกี้เรียนวิทยาศาสตร์ที่มหิดล แล้วรู้สึกได้เลยว่ามันไม่ใช่ทางเรา ผลการเรียนเรามันบ่งชี้มากว่าเราถนัดภาษาและสังคม ซึ่งเราก็ชอบจริงๆ และมันชัดเจนมากขึ้น เราเลยตัดสินใจเรียนรัฐศาสตร์ การระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพราะบ้านอยู่ที่นั่นด้วยค่ะ คือเวลาเราเลือกเรียนก็ให้เลือกตามที่เราชอบนะคะ เราต้องจินตนาการถึงตอนที่เราทำงานว่าเราจะเป็นอาชีพอะไร แล้วเราโอเคกับมันรึเปล่า เพราะวิชาชีพมันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตเลย ซึ่งกี้นึกภาพว่าตัวเองต้องวิจัยและทำแลปทุกวัน มันไม่ใช่บุคลิกของเราเลย (หัวเราะ) เราชอบแนะนำคนอื่น ชอบชี้ทาง นำทาง ชอบพบปะผู้คนและงานที่ทำแล้วจบเป็นวันๆ ไปซึ่งมีความแอคทีฟอยู่ในตัวด้วยและประกอบกับส่วนตัวชอบด้านสังคมและภาษา รัฐศาสตร์ การระหว่างประเทศจึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ

เล่าเรื่องวิชาเรียนในแต่ละเทอมให้ฟังหน่อยค่ะ

สาขานี้ในปีแรกจะเรียนตัว intro สำหรับของแต่ละเมเจอร์หมดเลย ที่คณะมี 3 สาขาค่ะ มีการเมืองการปกครอง รัฐประศาสนศาสตร์ และการระหว่างประเทศ และต้องเรียนภาษา รวมถึงวิชาอื่นๆ ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นทฤษฎีและการปรับแนวคิดให้มองอย่างนักรัฐศาสตร์ คือเปิดใจสำหรับทุกๆ ความคิดเห็น ไม่มีผิดถูก มีแต่ความเห็นที่หลากหลาย ทำให้เราเรียนได้เข้าใจมากขึ้นค่ะ ปีแรกนี้กิจกรรมจะเยอะมากๆ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขึ้นชื่อเรื่องมหาวิทยาลัยกิจกรรม (หัวเราะ) ทุกคนที่เข้าเรียนจะต้องคอยกระตุ้นตัวเองให้ขยันหมั่นเพียรเสมอ มิเช่นนั้นแล้วผลการเรียนจะแย่ลงได้ค่ะ

ส่วนปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาของตัวเมเจอร์เป็นหลักหมดเลยค่ะ เน้นการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ทั้งในประวัติศาสตร์และปัจจุบันโดยใช้ทฤษฎีที่เรียนมาเป็นแว่นในการมองผ่าน เช่นใน 1 เหตุการณ์เราสามารถให้ความเห็นโดยการใช้ทฤษฎีต่างๆ ในการมองได้ทุกทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ทำให้เราเห็นและเข้าใจความเป็นไปของสังคมโลกปัจจุบันอย่างดี ว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมมีความจริงอยู่หลายด้าน

ปี 3 เป็นอะไรที่หนักสุดๆ แล้วค่ะ (หัวเราะ)ต้องทำวิจัยเป็นเล่ม เพื่อใช้สำหรับปี4ต่อไป โปรเจคและงานกลุ่มมีทุกวิชาเรียน เน้นการทำงานร่วมกับผู้อื่น เน้นการคิดวิเคราะห์แยกแยะอย่างเป็นเหตุเป็นผล มีการเรียนอ่านหนังสือภาษาอังกฤษของตัวเมเจอร์ คือจะเป็นเนื้อหาของการระหว่างประเทศหมดเลย เช่นข้อพิพาทต่างๆ เหตุการณ์ปัจจุบันเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เริ่มมีวิชาเรียนที่ให้เราเลือกตามถนัดและความชอบค่ะ เป็นปีที่หนักหน่วงสุดๆ แต่เนื้อหาที่เรียนก็สนุกมากเช่นกันค่ะ

ปีสุดท้าย ในเทอมแรกจะมีนักศึกษา 2 กลุ่มคือกลุ่มที่เลือกทำวิจัยจบ กับกลุ่มที่เป็นสหกิจศึกษาคือการไปฝึกงาน ณ หน่วยงานต่างๆ ตามความชอบ แต่ต้องให้อาจารย์ที่ปรึกษาเห็นชอบด้วย เพื่อให้การฝึกงานนี้ได้ใช้วิชาที่เรียนมาและมีความเชื่อมโยงกันมากที่สุด ส่วนเทอมสองนักศึกษาที่ฝึกงานมาจะต้องทำรายงานผลการฝึกงานส่งอาจารย์ที่ปรึกษาและส่วนมากวิชาเรียนจะน้อยแล้วค่ะ จะเป็นการค้นคว้าและเก็บเกี่ยวความทรงจำปีสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัยเสียมากกว่า

วิชาที่แจ๊คกี้ชอบที่สุดคือ..

วิชาที่ชอบที่สุดคือ เศรษฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศค่ะ (International political economy)

จะเรียนเกี่ยวกับทฤษฎีทางการเมืองที่คาบเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ เพื่อนำไปช้วิเคราะห์เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศเราเอง รวมถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลกเลยค่ะ สนุกมาก บางครั้งอาจารย์จะให้ชมภาพยนตร์แล้วให้นำไปวิเคราะห์ว่าตัวอย่างในภาพยนตร์นั้นวิเคราะห์โดยผ่านทฤษฎีได้ความว่าอย่างไรบ้าง และทำให้เข้าใจกลไล ความเป็นไป ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ประมาณนี้ค่ะ

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีกิจกรรมอะไรน่าสนใจบ้าง

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีกิจกรรมมากมายในแต่ละปีค่ะ แต่ตั้งแต่ที่เข้าเรียนมากิจกรรมที่ประทับใจที่สุดคือการรับน้องขึ้นดอยค่ะ เป็นการเดินขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ เพราะกี้คิดว่าเป็นประเพณีที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ ฝึกความอดทน การเห็นใจผู้อื่น การสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพราะระยะทางการเดินขึ้นดอยนั้นไม่ใช่น้อยเลย เหนื่อยมากค่ะ แต่ทุกคนถึงที่หมายได้ด้วยการช่วยเหลือกันของทุกๆ ฝ่าย


กิจกรรมที่ 2 ที่กี้ชอบคือกิจกรรมการเลือกตั้งพรรคนักศึกษาที่จะทำหน้าที่สโมสรนักศึกษา ซึ่งมีทุกปี เราเรียนรัฐศาสตร์มา เราจึงเห็นความสำคัญของกิจกรรมนี้ที่สุด เพราะเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่สำคัญที่ให้เราสามารถไปใช้สิทธิเสรีภาพของเราได้ค่ะ

สุดท้ายคือกิจกรรมกีฬาคณะ Sport day Spirit night ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทุกคณะได้มาแข่งขันกีฬาแต่ละชนิด เป็นการส่งเสริมสุขภาพและความสามัคคีของแต่ละคณะด้วย ซึ่งในตอนกลางคืนจะมีการจัดแสดงโชว์การแสดงผู้นำเชียร์และแสตนด์ของแต่ละคณะ โดยจะมีรูปแบบและเนื้อเรื่องในการจัดแสดงที่ต่างกันออกไปของแต่ละคณะแต่ยังคงเป็นเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคณะของตนเอง

แล้วแจ๊คกี้ชอบทำกิจกรรมอะไร

กิจกรรมที่กี้ทำมีเยอะมากจริงๆ ค่ะ (หัวเราะ) เรียกได้ว่าเป็นเด็กกิจกรรมมาตั้งแต่เด็กเลย เรามองว่าการทำกิจกรรมมันช่วยพัฒนาทักษะในการอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ดีมากๆ ช่วยทำให้เราเป็นคนมั่นใจมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตมากทีเดียว กิจกรรมแรกๆ ที่เริ่มทำคือการรับน้องขึ้นดอย เข้าชมรมกีฬาเทควันโด เพราะกี้เองเคยเป็นนักกีฬาเทควันโดมาก่อน เลยอยากต่อยอดสิ่งที่เป็นอยู่ค่ะ เรามีความรู้มาเราก็ช่วยสอนเพื่อนในชมรมด้วยเช่นกัน ในการจัดแข่งกีฬาก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งและได้รับรางวัลมาเช่นเดียวกัน

กิจกรรมต่อมาเป็นกิจกรรมที่ถือเป็นจุดกำเนิดสำคัญมากๆ ของชีวิตตอนนี้ คือกิจกรรมประกวดดาวเดือนคณะและมหาวิทยาลัยค่ะ กี้เองได้ตำแหน่งรองดาวมหาวิทยาลัยปี 2556 ซึ่งทำให้เรามีโอกาสได้ทำงานต่างๆ มากมาย จนได้เข้าทำงานในวงการ ถ่ายโฆษณาต่างๆ จนถึงขั้นได้ร่วมงานกับทางเอเจนซี่ที่ฮ่องกงด้วยค่ะ ซึ่งเราชอบกิจกรรมตรงนี้ที่สุดแล้วเพราะเป็นกิจกรรมที่สร้างโอกาสหลายๆ อย่างให้เราจนมีวันนี้ หลายคนที่มีโอกาสแบบเรา แต่มองว่ามันเสียเวลาบ้าง ทำไมต้องประกวด อะไรต่างๆ ซึ่งตอนเราประกวดเรายอมรับว่าค่อนข้างเหนื่อยเมื่อต้องเรียนไปด้วย แต่เราก็แบ่งเวลาได้ดีค่ะและมีโอกาสได้ดูแลและช่วยเหลือการพัฒนาบุคลิกภาพของน้องๆ ดาวเดือนรุ่นต่อๆ มาจนกระทั่งจบการศึกษา

สังคมคณะรัฐศาสตร์เป็นยังไงนะ

สังคมในคณะรัฐศาสตร์ ภาพรวมจริงๆ ถ้าพูดกันตามจริงคือเป็นระบบอาวุโสนะคะ นับถือพี่ถือน้อง มาก่อนเป็นพี่มาหลังเป็นน้อง แต่ด้วยความที่เป็นรัฐศาสตร์เราก็จะฟังความเห็นกันและสามารถโต้แย้งกันได้เหมือนสังคมนอกค่ะ รวมถึงการเรียนด้วยเราสามารถโต้แย้งกับอาจารย์ได้เลย อาจารย์ชอบที่นักศึกษาออกความเห็นอย่างอิสระค่ะ ไม่มีผิดถูก ซึ่งเราชอบมากๆ เป็นข้อนึงที่มำให้ผูกพันและรักที่นี่มากๆ ค่ะ สังคมเพื่อนดีมากๆ เลย เป็นสังคมที่ช่วยเหลือกัน ไม่มีใครหวงความรู้ใคร ทุกคนจะช่วยกันเรียน ช่วยกันติวหนังสือก่อนสอบ มีอะไรก็แบ่งปันกันค่ะ จึงทำให้เราเรียนที่นี่แล้วมีความสุขมาก เราว่าถ้าสังคมดี เพื่อนดี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลการเรียนของเราดีตามไปด้วยเช่นกัน

เรื่องประทับใจตอนเรียน

ประสบการณ์ที่ประทับใจตอนเรียน โอโหห นับไม่ถ้วนเลยค่ะ (หัวเราะ) กี้เคยบอกไปแล้วแหละว่าเรียนที่นี่แล้วมีความสุขมากค่ะ สังคมเพื่อน อาจารย์ และมหาวิทยาลัยดี เราจึงเรียนมีความสุข แต่เหตุการณ์ที่เราประทับใจคือเหตุการณ์ช่วงที่เราเจอกับปัญหาชีวิตหนักมากๆ เพื่อนสังเกตเห็นอาการของเรา จึงถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนขอให้เราเล่าออกมาเพื่อจะช่วยคิดและช่วยแบ่งความยากลำบากนั้น เผื่อเรารู้สึกดีขึ้น ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ (หัวเราะ) คือมันทำให้เรารู้ว่า เรารายล้อมไปด้วยคนที่เค้ารักและเป็นห่วงเรา อาจเป็นเพราะเราก็ส่งผ่านความรักและห่วงใยไปที่คนอื่นเสมอ เราจึงได้กลับมาเช่นกัน การมีเพื่อนและสิ่งแวดล้อมที่ดีก็เป็นจุดสำคัญจุดนึงในชีวิตที่จะทำให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จได้

กิจกรรมยามว่างตามสไตล์ของแจ๊คกี้

งานอดิเรก กี้ชอบวาดรูป ระบายสีน้ำค่ะ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ เลย มันข่วยให้เรามีสมาธิดีมาก และใจเย็นขึ้น ฝึกเรื่องของการใช้จินตนาการได้ดีด้วยค่ะอื่นๆ ก็จะเป็นการออกไปนั่งร้านกาแฟ ไปตามที่มีรีวิว หรือไปร้านที่ชอบไปประจำ เพราะกี้ชอบกลิ่นของกาแฟมากๆ มันทำให้ผ่อนคลาย และทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ รู้สึกมีแรงบันดาลใจทำงานใหม่ๆ ค่ะ แล้วก็อ่านหนังสือไปด้วยระหว่างนั้น กี้ชอบสะสมและอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ เลย เรื่องแรกที่อ่านคือแฮร์รี่ พอตเตอร์ หลังจากนั้นมาก็ติดอ่านหนังสือมาตลอด ปัจจุบันจะอ่านหนังสือพวกจิตวิทยา หนังสือให้แรงบันดาลใจ แล้วก็พวกแนวคิดชีวิตต่างๆ ค่ะ เป็นการเพิ่มความรู้และเปิดโลกทัศน์ให้เราดีมาก

เห็นแจ๊คกี้เบนเข็มมาเป็นแอร์โฮสเตสด้วย

จริงๆ เราเรียนรัฐศาสตร์ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไร แต่พออยู่ปี 2 แล้ว ก็เริ่มคิดว่าอีกสองปีจะจบแล้ว เราควรคิดจริงจังว่าเราชอบอะไร ถึงจะรู้ว่าอยากเป็นอะไร ก็นั่งสังเกตตัวเองไปทุกๆ วันค่ะ จนพบว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนี่แหละตอบโจทย์วิถีชีวิตและความชอบของเราที่สุด ได้บริการและช่วยเหลือผู้คน ได้ใช้ภาษา ได้แก้ปัญหาโดยใช้องค์ความรู้และไหวพริบ และเหตุการณ์ในแต่ละวันก็ไม่จำเจค่ะ เป็นงานที่จบไปเป็นวันๆ มันคือตัวเราเลยค่ะ และเป็นคนชอบไปท่องเที่ยว รวมถึงฝันว่าอยากจะเที่ยวตามที่ต่างๆ ทั่วโลกเลย การเป็นแอร์ก็ช่วยสานฝันเราตรงนี้ได้เช่นกันค่ะ รวมถึงเราชอบเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาของแต่ละประเทศ แล้วสังคมแอร์ก็เป็นสังคมที่หลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรมอีกด้วย ก็ยิ่งเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับชีวิตค่ะ ก็ตัดสินใจตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าจะเป็นให้ได้ และเริ่มพัฒนาตัวเองในด้านทัศนคติการมองโลก ภาษา และด้านต่างๆ มาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ

คิดว่าอะไรจากรัฐศาสตร์ การระหว่างประเทศ ที่ติดตัวเรามาบ้าง

เรารู้สึกโชคดีนะที่เลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์และสาขาการระหว่างประเทศนี้ เพราะนอกจากทำให้เราเป็นคนที่คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น ยังช่วยให้เราเป็นเปิดใจยอมรับกับเรื่องต่างๆ ทุกเรื่องที่เราเผชิญอีกด้วย ซึ่งเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญในชีวิตมากนะ เพราะมันช่วยให้เราอยู่ร่วมกับใครก็ได้ เพราะเราจะไม่ไปตัดสินเขาจากแค่สิ่งที่เราเจอ ซึ่งกล่าวสรุปได้ว่า เป็นทักษะที่นำมาใช้ในการทำงานได้และเป็นประโยชน์ด้วย เนื่องจากการเป็นแอร์ต้องทำงานแบบเป็นทีมและการที่เราต้องเจอกับผู้โดยสารทุกๆ วัน การใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ตัดสินใจ และเปิดใจยอมรับกับเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้โดยสารก็ตามค่ะ เราจะยอมรับได้ถ้าหากมีคนวิจารณ์เรา และเราจะนำคำพูดเหล่านั้นไปพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นค่ะ

สาวรัฐศาสตร์ควรมีแอปอะไรติดเครื่องดี

แอป BBC News แล้วกันค่ะ เพราะเรียน IR ต้องฟังข่าวโลกทุกวัน และฝึกภาษาตลอดเวลาด้วยค่ะ ใครอยากทันโหลดทันเหตุการณ์และฝึกภาษาไปในตัว ก็ไปดาวน์โหลดกันนะคะ (ยิ้ม)

thenerdmag.com

ดาวน์โหลด

ถึงจะได้ยินจากปากชาวรัฐศาสตร์ที่คอนเฟิร์มมาเองว่าคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่น่าสนใจ ก็คงไม่มั่นใจได้เท่ากับการสัมผัสความคิดและทัศนคติของสาวรัฐศาสตร์คนนี้ เพราะแจ๊คกี้ได้ทำให้เราทุกคนรู้ว่าการเรียนรัฐศาสตร์ไม่ใช่เพียงการเรียนเพื่อประกอบอาชีพในอนาคตเพียงอย่างเดียว แต่การเรียนรัฐศาสตร์ได้ปลูกฟังการมองโลกอย่างเป็นธรรมกับเพื่อนมนุษย์ทุกคนด้วย! วันนี้แบไต๋ขอปรบมือให้สาวคนนี้ดังๆ เลยค่ะ!