ในวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวสตรีมมิงน้องใหม่ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ (Disney+ Hotstar) อย่างเป็นทางการ ด้วยราคาสุดประหยัดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 49 บาท หรือปีละ 499 บาท เมื่อสมัครผ่านพาร์ตเนอร์หนึ่งเดียว AIS 5G และราคารายปีปีละ 799 บาท เมื่อสมัครผ่านแอปดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์โดยตรง ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่ถือว่าถูกอยู่แล้ว เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละไม่ถึง 70 บาทเท่านั้น

ถึงค่าบริการจะมีราคาที่ถูกแล้วก็ตาม ในสื่อโซเชียลต่าง ๆ ก็ยังพบว่ามีร้านค้าหรือผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่เปิดหารหรือตั้งปาร์ตี้กันสารพัดเพื่อจ่ายในราคาที่ถูกลง มีทั้งเป็นแบบรายเดือน รายสองเดือน และรายปี ทั้งแบบ 1 จอ และทั้งบัญชีเพื่อใช้งานได้ 2 จอ

แทนที่จะหารหรือตั้งปาร์ตี้เพื่อจะได้จ่ายในราคาที่ถูกลง กลับพบว่ามีราคาที่สูงขึ้นเท่าตัว จากราคารายเดือนที่ 49 บาท สตรีมได้พร้อมกัน 2 จอ แต่กลับต้องจ่ายค่ารายเดือนสูงสุดเกือบ 100 บาท ที่สามารถรับชมได้เพียงแค่ 1 จอเท่านั้น แถมยังมีข้อกำหนดต่าง ๆ จากทางร้าน เพื่อไม่ให้เป็นภาระของทางร้านค้า

ในบทความนี้ เราจะมาไขความกระจ่างว่า ทำไมเราจึงไม่ควรเปิดตี้หรือหารบริการ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ กับร้านค้าคนที่เราไม่รู้จัก??

การลงชื่อเข้าใช้ที่ยากลำบาก

ขั้นตอนการลงชื่อเข้าใช้แบบง่าย ๆ โดยการลงชื่อเข้าใช้หรือสมัครเพื่อเข้าใช้งาน ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ มีเพียง 2 ขั้นตอนง่าย ๆ คือ กรอกเบอร์เพื่อรับ OTP และกรอก OTP เพื่อเข้าสู่ระบบได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับการที่มีร้านหารจอหรือเปิดบ้านเองก็จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนนี้เช่นกันทุกครั้งเมื่อเข้าสู่ระบบในอุปกรณ์ใหม่ ซึ่งในตรงนี้เองก็จะเป็นภาระให้สำหรับเจ้าของร้านหรือคนที่เป็นหัวบ้านนั้น ๆ โดยเฉพาะเจ้าของร้านที่มีการเปิดรับบัญชีหารหลายบัญชี

อย่างที่ทราบกันดีว่า 1 เบอร์โทรศัพท์ สามารถเปิดใช้งานดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น ดังนั้นร้านค้าต่าง ๆ ก็จำเป็นที่จะต้องเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ เพื่อนำมาใช้สมัครสมาชิกและรับ OTP ในการเข้าสู่ระบบ ซึ่งร้านค้าที่รับเปิดบัญชีจำนวนหลายบัญชี ก็จะต้องสลับเบอร์โทรศัพท์เพื่อรับ OTP ให้กับลูกค้าเพื่อเข้าสู่ระบบรับชมได้

ปัญหาสำหรับการเข้าระบบมันก็จะอยู่ตรงนี้ว่าถ้าหาเราต้องการออกจากระบบเพื่อเปลี่ยนเครื่องที่ใช้รับชมหรือหลุดออกจากระบบโดยที่ไม่รู้ตัว จะต้องทำการเข้าสู่ระบบใหม่ ซึ่งถ้าเจ้าของบัญชีเป็นคนที่เราไม่รู้จักหรือไม่สนิทด้วย การที่จะได้ OTP มา ก็อาจจะมีความล่าช้า ทำให้รหัส OTP หมดอายุอาจจะไม่สามารถใช้งานเข้าสู่ระบบได้ หรือร้านค้าที่อาจจะมีข้อกำหนดต่าง ๆ ในการรับ OTP ทำให้การลงชื่อเข้าระบบ แทนที่จะสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อสตรีมได้โดยทันที กลับมีความยากลำบากและล่าช้า

บอกหาร 2 จอ หารจริงกี่จอใครจะรู้??

ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ มีข้อกำหนดข้อหนึ่งว่า “สามารถสตรีมพร้อมกันจำนวน 2 จอเท่านั้น” นั่นหมายถึงการเล่นวิดีโอพร้อมกันเพียง 2 จอเท่านั้น ไม่ใช่จำนวนเครื่องที่ล็อกอินไว้พร้อมกัน ซึ่งบางร้านค้าที่เปิดหารก็อาจจะใช่ช่องว่างตรงนี้เพื่อหารมากคนขึ้น เพื่อจะได้กำไรมากขึ้น โดยถึงแม้จะลงชื่อเข้าสู่ระบบไว้มากกว่า 2 เครื่อง ผู้ใช้ก็ยังจะสามารถใช้งานรับชมได้ปกติ แต่ปัญหาจะเกิดเมื่อผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบที่หารกันไว้ต้องการรับชมพร้อมกันมากกว่า 2 จอ ผู้ใช้จอที่ 3 ที่ 4 เป็นต้นไปก็จะไม่สามารถรับชมได้นั่นเอง

ราคาประดุจมิจ…

มาดูในเรื่องของราคาค่าบริการอย่างเป็นทางการของดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ในปัจจุบันจะมีราคาใน 3 รูปแบบ รายเดือน 49 บาท และรายปี 499 บาท จาก AIS 5G และรายปี 799 บาท จากดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์โดยตรง

จากการตรวจสอบจากร้านต่าง ๆ ในทวิตเตอร์ที่มีการเปิดหาร พบว่ามีราคาการคิดบริการที่หลากหลาย แต่ล้วนแพงกว่าค่าบริการปกติที่มีให้สมัครในปัจจุบันสูงสุดกว่า 800% (เฉพาะที่ตรวจพบ) เราจะมายกตัวอย่างราคาที่พบเจอ และราคาต้นทุนพร้อมกับกำไรสูงสุดที่เป็นไปได้มาให้ลองพิจารณากัน

หาร 1 จอ 2 เดือน – 139 บาท

ในตอนนี้ยังไม่มีโปรโมชันที่มีการคิดค่าบริการราย 2 เดือน แต่โปรโมชันที่เป็นไปได้ที่สุดสำหรับการให้บริการ 2 เดือนในราคาประหยัดคือ การสมัครบริการผ่าน AIS ทั้งโปรโมชันรายเดือน 35 บาท และ 49 บาท ที่จะมีการแถมฟรีในเดือนที่ 2

ทำให้ต้นทุนของการสมัครในครั้งนี้ จะมีค่าบริการเพียง 35 บาท หรือ 49 บาทเท่านั้น ที่จะสามารถดูได้พร้อมกันถึง 2 จอ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับค่าบริการที่หารมาแล้วจอละ 139 บาท ใน 2 เดือน ก็จะได้ค่าบริการรวมถึง 278 บาท ซึ่งเทียบกับค่าบริการจาก AIS ก็จะเห็นได้ว่าสูงกว่าค่าบริการปกติถึงประมาณ 8 เท่า

ถ้าเราสมัครเองในตอนนี้ในราคา 49 บาท ผ่าน AIS 5G จะได้ใช้งานถึง 2 เดือน แถมได้รับชมพร้อมกันสูงสุดถึง 2 จอ

2 จอ 1 เดือน – 160 บาท

สำหรับการให้บริการรายเดือน จะสามารถสมัครผ่านทาง AIS เท่านั้น ซึ่งมีค่าบริการเพียง 35 บาท หรือ 49 บาทเท่านั้น สามารถดูได้พร้อมกันถึง 2 จอ ในการเก็บค่าบริการสูงถึง 160 บาท จึงสูงกว่าราคาปกติถึง 4.5 เท่า

จากที่ร้านต่าง ๆ คิดค่าบริการจะเห็นได้ว่า มีค่าบริการสูงกว่าราคาปกติอย่างมาก ในบางกรณีราคานั้น ๆ อาจจะพอ หรือสูงกว่าราคาที่เราสมัครเองด้วยซ้ำ อาจใช้งานสตรีมได้เพียง 1 จอ แทนที่จะสตรีมพร้อมกันได้ 2 จอ

โดนโกงมา ไม่มีใครช่วยนะ!?!

เมื่อไม่นานมานี้ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์หลาย ๆ คนออกมารายงานว่่ามีการโกงเกิดขึ้นเช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะการหารผ่านร้านค้าต่าง ๆ ในบางร้านหรือบางคน เราจะไม่สามารถระบุตัวตนจริง ๆ ได้ ทำให้ในกรณีหากเกิดปัญหา ทางร้านค้ามีโอกาสที่จะหนีและไม่รับผิดชอบได้

ไม่ได้ใช้ AIS แต่อยากประหยัดทำอย่างไรดี??

หลาย ๆ คนอาจจะตั้งคำถามว่าไม่ได้ใช้ AIS แล้วอยากประหยัดจะสามารถทำวิธีไหนได้บ้าง ตอนนี้มีอยู่อยู่ 2 วิธีเท่านั้นคือการย้ายค่ายเบอร์เดิมไป AIS หรือการสมัครเบอร์โทรศัพท์ AIS ใหม่

แต่ที่แนะนำมากที่สุดนั้นถ้าไม่สามารถย้ายค่ายได้ ก็จะเป็นการซื้อซิมเติมเงิน AIS ใหม่ สามารถซื้อได้ที่ AIS Shop, Telewiz รวมถึงร้านค้าออนไลน์ Shopee หรือ JD Central เพื่อสมัครสมาชิกในราคาโปรโมชัน เบอร์นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์ที่ใช้งานจริง เพียงแค่ในตอนเข้าสู่ระบบดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ทุกครั้ง จะต้องสลับซิมมาใช้เบอร์​ AIS เพื่อรับ OTP ในการเข้าสู่ระบบ ซึ่งวิธีการนี้ก็จะคล้าย ๆ กับขั้นตอนของการเข้าสู่ระบบของบัญชีของร้านค้า ซึ่งเมื่อเบอร์โทรศัพท์อยู่ที่เรา เราจะสามารถล็อกอินกี่เครื่องก็ได้ ย้ายเครื่องแบบไม่อั้น ไม่จำเป็นต้องรอร้านค้าในการส่ง OTP เพื่อเข้าสู่ระบบ

สมัครเอง ดีกว่า ประหยัดกว่า

ในขณะนี้สามารถสมัครได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์โดยตรง หรือผ่านพาร์ตเนอร์ AIS มีรายละเอียดค่าบริการดังนี้

  • ผ่่านดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ disneyplushotstar.com หรือแอป Disney+ Hotstar บนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต
    • รายปี 799 บาท สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งได้
  • ผ่านพาร์ตเนอร์ AIS สามารถสมัครได้ 3 ช่องทาง เว็บไซต์ ais.th/disney, กด *111# โทรออก, และแอป myAIS
    • รายเดือน 49 บาท (วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2564) รับสิทธิ์ชมฟรี 1 เดือนในเดือนที่ 2
    • รายปี 499 บาท (วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2564)

สุดท้ายนี้การสมัครใช้บริการดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ผู้ใช้จะสมัครสมาชิกด้วยวิธีใดก็ได้ เพียงแต่ถ้าเป็นการหารผ่านร้านค้า ขอให้คิดให้ดี ๆ ก่อนเสมอ เพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่เสียประโยชน์ที่สุดก็คือตัวเราเอง (ซื้อตรงถูกกว่าเยอะ!!)

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส