เหมือนว่ากรณีทวิตเตอร์และอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ที่ยื้อกันมาเป็นเดือนจะได้ไปลงเอยกันที่ศาลจริง ๆ เนื่องจากทวิตเตอร์ได้ยื่นฟ้องมัสก์ ด้วยข้อกล่าวหาว่าเขา ‘ไม่เคารพข้อตกลง’ และพยายามจะให้มัสก์ซื้อกิจการที่มูลค่า 44,000 ล้านเหรียญ (ราว 1,600,000 ล้านบาท) ตามที่เคยตกลงกันไว้ให้ได้ โดยมัสก์อ้างว่าทวิตเตอร์ไม่สามารถให้ข้อมูลเรื่องบัญชีสแปมกับเขาได้ เลยตัดสินใจยกเลิกดีลนี้

ในเอกสารยื่นฟ้องระบุว่าการยื่นฟ้องนี้เป็นการป้องกันไม่ให้มัสก์ละเมิดข้อตกลง และปฏิบัติตามข้อผูกมัดทางกฎหมายของเขาให้เสร็จสิ้น ในขณะที่โฆษกของทวิตเตอร์ไม่มีความคิดเห็นเพิ่มเติมใด ๆ เบรท เทย์เลอร์ (Bret Taylor) ประธานคณะกรรมการของทวิตเตอร์กล่าวในทวีตส่วนตัวของเขาว่าการยื่นฟ้องนี้มีจุดประสงค์ให้มัสก์ ‘รับผิดชอบ’ ต่อสัญญา

ทางทวิตเตอร์บรรยายถึงการกระทำต่าง ๆ ของมัสก์ที่ส่งผลเสียให้กับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการยื่นข้อเสนออย่างกะทันหันด้วยราคาที่น่าประหลาดใจจนทำให้ตลาดปั่นป่วน หลังจากนั้นก็เล่นตลกกับบริษัทด้วยการพูดถึงการยกเลิกข้อตกลงอยู่บ่อยครั้ง เมื่อราคาหุ้นเทคโนโลยีเริ่มตกลงอย่างมาก มัสก์ก็เริ่มหาทางที่จะหนีออกจากข้อเสนอนี้ด้วยการหาสิ่งที่นับว่าเป็นการ ‘ละเมิดข้อตกลงอย่างชัดเจน’ มาเป็นข้ออ้างในการยกเลิกดีลนี้

ทวิตเตอร์กล่าวว่ามัสก์ใช้ความกังวลเกี่ยวกับบัญชีสแปมบนแพลตฟอร์มของเขามาเป็นข้ออ้างในการยกเลิกการซื้อขาย แต่มัสก์ไม่ได้ถามถึงประมาณการของบัญชีสแปมด้วยซ้ำก่อนที่จะทำข้อตกลง แถมเขายังกำจัดเงื่อนไขที่จะทำให้เขาเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะของบริษัทอีกด้วย เพื่อทำให้ข้อเสนอนี้ดูดีขึ้นไปอีก ในขณะที่ปารัก อักราวัล (Parag Agrawal) ประธานบริหารของทวิตเตอร์ได้เขียนอธิบายถึงวิธีการที่ทวิตเตอร์คำนวณจำนวนผู้ใช้งานรายวัน และมีรายงานว่าทวิตเตอร์ได้บล็อกบัญชีสแปมกว่า 1,000,000 บัญชีต่อวัน

ในเอกสารยืนยันว่าทวิตเตอร์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบอทสแปมไปมากกว่าที่มัสก์ขอไว้ในตอนแรกเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่พอ เพราะที่ปรึกษาของมัสก์ได้เรียกร้องอีเมลและข้อความจากผู้บริหารที่พูดถึงประเด็นนี้ ซึ่งทนายความของทวิตเตอร์กล่าวว่าการเรียกร้องนี้ผิดปกติอย่างมาก เนื่องจากมันเกินกว่าข้อตกลงเรื่องข้อมูลที่เคยตกลงกันไว้

ติดตามกันต่อไป

ข้อตกลงในการซื้อขายกิจการมีเส้นตายอยู่ที่วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2565 และทางทวิตเตอร์ต้องการให้คดีนี้มีการไต่สวนก่อนหน้านั้น ซึ่งทางบริษัทกำลังผลักดันให้คดีนี้เข้าสู่ช่วงพิจารณาคดีในช่วงกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และสิ้นสุดภายใน 4 วัน

ทั้งหมดนี้คือเนื้อหาคร่าว ๆ ของสิ่งที่ทวิตเตอร์กล่าวเกี่ยวกับอีลอน มัสก์ และเป็นความพยายามที่จะปกป้องบริษัทของตนเอง ก็คงต้องตามดูกันต่อไปว่าเรื่องราวที่ยืดเยื้อกันมาหลายเดือนนี้จะจบลงอย่างไร ส่วนใครที่อยากอ่านเอกสารยื่นฟ้องแบบเต็ม ๆ สามารถอ่านได้ด้านล่างนี้เลย

ที่มา: TheVerge

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส