หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่าทางหน่วยงานได้สั่งปิดธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่ในอุตสาหกรรมคริปโท เบื้องต้นบอกว่าทำไปเพื่อป้องกันวิกฤตการธนาคารที่กำลังลุกลามอย่างหนัก

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลได้สั่งปิดธนาคารไปแล้วถึง 2 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารซิลเวอร์เกต (Silvergate Bank) และธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) โดยล่าสุด ธนาคารซิกเนเจอร์ เป็นรายที่ 3 ที่โดนสั่งปิด

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลกล่าวว่าผู้ใช้งานที่เคยฝากเงินไว้กับธนาคารซิกเนเจอร์ จะยังสามารถทำการฝากถอนเงินได้ตามปกติ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับเงินคืนแน่นอน ซึ่งส่วนนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่คล้ายกันกับธนาคารซิลิคอนวัลเลย์ทีเพิ่งถูกสั่งปิดไปก่อนหน้านี้

ธนาคารซิกเนเจอร์เป็นหนึ่งในธนาคารหลักของอุตสาหกรรมคริปโท ซึ่งถ้านับในวงการนี้แล้ว ซิกเนเจอร์ถือเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดรองจากธนาคารซิลเวอร์เกต โดยหากนับตามจำนวนการยื่นหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022 ทางธนาคารซิกเนเจอร์มีสินทรัพย์รวมราว 110,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ 3.8 ล้านล้านบาทและมีเงินฝากรวม 88,600 ล้านเหรียญหรือประมาณ 3 ล้านล้านบาท

ปัจจัยหลักที่ทำให้ธนาคารซิกเนเจอร์เกิดภาวะล้มละลายเป็นเพราะลูกค้าแห่เข้ามาถอนเงินฝากกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ด้านหน่วยงานกำกับดูแลก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว เพื่อยับยั้งความเสียหาย เช่น การสร้างกองทุนประกันเงินฝากให้กับผู้มาฝากเงิน เป็นต้น

ที่มา : CNBC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส