วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม เวลา 1:22 a.m. ET (12:22 น. ในประเทศไทย) สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) บริษัทขนส่งอวกาศได้ปล่อยภารกิจ Eutelsat HOTBIRD 13F ในการส่งดาวเทียมถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ไปยังวงโคจรดาวเทียมสำหรับเดินทางต่อไปยังวงโคจรพ้องคาบโลก (Geosynchronous orbit) ออกจาก SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ด้วยจรวด Falcon 9 ซึ่งเป็นภารกิจครั้งที่ 47 ของสเปซเอ็กซ์ในปีนี้

Hotbird 13F เป็นดาวเทียมถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์หลายร้อยช่องของ Eutelsat ผู้ให้บริการดาวเทียมสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย และอเมริกา จัดว่าเป็นผู้ให้บริการดาวเทียมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกในด้านรายได้

Hotbird 13F เป็นดาวเทียมดวงแรกที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Eurostar Neo แบบใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่พัฒนาโดยบริษัท Airbus ซึ่งทาง Eutelsat ได้สั่งให้ Airbus สร้างดาวเทียมชุดนี้ขึ้นมา 2 ดวง เมื่อเดือนสิงหาคม 2018 คือ Hotbird 13F และ 13G ซึ่งมีกำลังในการสื่อสารแรงสูง มีความต้านทานสัญญาณรบกวนเพิ่มขึ้น และใช้ย่านความถี่ Ku-band ที่มีความจุเท่ากับดาวเทียม Hotbird 8, 9 และ 10 ที่อยู่ในตำแหน่ง 13 องศา ตะวันออก ซึ่งจะนำมาใช้แทนดาวเทียมเก่าทั้ง 3 ดวงที่กล่าวมานี้

Eutelsat เริ่มต้นปล่อยดาวเทียม HOTBIRD 13F ออกมาเป็นดวงแรกก่อน และจะปล่อยดาวเทียม Hotbird 13G ตามมาในเดือนพฤศจิกายน ด้วยจรวด Falcon 9 ของสเปซเอ็กซ์เช่นกัน

ภารกิจ Eutelsat HOTBIRD 13F ได้ใช้บูสเตอร์ B1069 เป็นเที่ยวบินที่ 3 ซึ่งได้ผ่านภารกิจมาแล้ว 2 เที่ยวบิน คือ CRS-24 และการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ หลังจากแยกตัวจากจรวดท่อนที่ 2 บูสเตอร์ก็ได้บินกลับมาลงจอดในเรือโดรน Just Read the Instructions เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในครั้งต่อไป

https://youtu.be/kZEuwBMzR3Q

ที่มา : nextspaceflight และ spacex

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส