ประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) เดินทางถึงกรุงเจนีวา (Geneva) เมื่อวานเป็นที่เรียบร้อย (อังคาร 15 มิ.ย. เวลาท้องถิ่น) ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ผู้นำของรัสเซีย หลังจากที่มีประเด็นความขัดแย้งมาเป็นระยะ ๆ

การประชุมครั้งนี้ มีไว้เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศลง อีกทั้งทางทำเนียบขาวหวังว่าจะกำหนดเส้นแดงเอาไว้อย่างชัดเจนและรัสเซียก็ไม่ควรข้ามเส้นแดงนั้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียที่ถูกติดไฟขึ้นมาแล้ว ได้เสื่อมลงไปมากกว่านี้อีก

“ผมพร้อมเสมอ” ไบเดนกล่าวกับนักข่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อถูกถามว่าเขาพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับปูตินในครั้งนี้หรือไม่

ไบเดนและปูตินจะปรึกษาหารือกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันนี้ (วันพุธ) ที่ลา แกรนช์ (La Grange) วิลล่าหรูหราในเจนีวา  คาดว่าจะเริ่มเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะคุยกันยาวนานถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งรายงานบอกว่าผู้นำทั้งสองจะไม่รับประทานอาหารร่วมกันหลังประชุมเสร็จ

หนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันคือความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับโซเวียต และทั้งสองชาติ ยังไม่มีเอกอัครราชทูตไปประจำการในประเทศของอีกฝ่าย เพราะเจ้าหน้าการทูตอาวุโสของรัสเซียถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร จากกรณีที่รัสเซียผนวกไครเมีย และการถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ

ความตึงเครียดในครั้งนี้ก่อตัวขึ้นหลังมีประเด็นเรื่องอาวุธนิวเคลียร์เชิงกลยุทธ์ สหรัฐฯ มองว่ารัสเซียเป็นผู้โจมตีทางไซเบอร์ต่อหน่วยงานของสหรัฐฯ และการเข้าไปยุ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2 ครั้งที่ผ่านมา ไปจนถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการรุกรานยูเครนและประเทศอื่นๆ ในยุโรปด้วย จนมาถึงจุดแตกหักจริง ๆ เมื่อไบเดนกล่าวหาว่าปูตินเป็น “ฆาตกร” จากกรณีที่มีการวางยาพิษผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส