Deadline ได้รายงานว่า ‘Kung Fu Panda 4’ ได้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ในแฟรนไชส์แอนิเมชันกังฟูสุดฮิตของ DreamWorks Animation นี้ ที่ทำรายได้ในระดับน่าพึงพอใจ โดยครองอันดับที่ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และเก็บเพิ่มไปอีก 30 ล้านเหรียญ

นั่นส่งให้รายได้รวมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 107.7 ล้านเหรียญ คิดเป็นครึ่งหนึ่งของรายได้สุทธิในสหรัฐฯ ของ ‘Kung Fu Panda’ ภาคแรกเมื่อปี 2008 ที่ทำไว้ 215 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการกลับมาสู่แฟรนไชส์ได้อย่างน่าประทับใจอีกครั้ง ในขณะที่รายได้รวมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 176.5 ล้านเหรียญ โดยยังไม่นับรวมจากประเทศจีนที่จะเข้าฉายในวันที่ 22 มีนาคม 2024 นี้

Kung Fu Panda 4

อันดับที่ 2 ยังคงเป็น ‘Dune: Part Two’ ซึ่งเก็บรายได้ในสัปดาห์ที่ 3 เพิ่มไปอีก 29.1 ล้านเหรียญ ส่งให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น อยู่ที่ 205.3 ล้านเหรียญ และรายได้รวมทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 494.7 ล้านเหรียญ ซึ่งแซงหน้ารายได้รวมสุทธิทั่วโลกของภาคแรกเมื่อปี 2021 ที่ทำไว้ 433.9 ล้านเหรียญ และจะผ่านหลัก 500 ล้านเหรียญ ในเร็ว ๆ นี้

Variety ได้รายงานว่า ‘Dune: Part Two’ เป็นภาพยนตร์เพียงไม่กี่เรื่องในช่วงหลังมานี้ที่ทำรายได้ถึงหลัก 500 ล้านเหรียญ โดยเมื่อปี 2023 มีภาพยนตร์เพียง 9 เรื่อง ที่สามารถทำได้ในระดับนี้ รวมถึง ‘Barbie’ (1,450 ล้านเหรียญ), ‘Oppenheimer’ (953.8 ล้านเหรียญ) และเมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่าง ‘Wonka’ (628.1 ล้านเหรียญ) ที่นำแสดงโดย ทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet) เช่นเดียวกัน

Dune: Part Two

แต่น่าเสียงดายที่ ‘Arthur the King’ ผลงานแสดงนำล่าสุดของ มาร์ก วาห์ลเบิร์ก (Mark Wahlberg) ทำรายได้ผิดคาดไปมาก โดยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปเพียง 7.5 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 19 ล้านเหรียญ ทั้งที่เป็นผลงานเพียงไม่กี่เรื่องในช่วงหลังของวาห์ลเบิร์กที่ได้คะแนนวิจารณ์ในระดับ A จาก CinemaScore

Arthur the King

5 อันดับ บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ (15 – 17 มีนาคม 2024)

เรื่องรายได้ (ล้านเหรียญ)รายได้รวมสหรัฐฯ (ล้านเหรียญ)รายได้รวมทั่วโลก (ล้านเหรียญ)สัปดาห์ที่ ทุนสร้าง (ล้านเหรียญ)
1. Kung Fu Panda 430.0107.7176.5285.0
2. Dune: Part Two29.1205.3494.73190.0
3. Arthur the King7.5119.0
4. Imaginary5.619.121.8210.0
5. Cabrini2.813.013.092