เศรษฐกิจฝืดเคือง มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ หรือยุคนี้ต้องเปลี่ยนไปเช่ารถถึงจะคุ้มกว่า !
เคยได้ยินไหมว่า ‘ยุคนี้อะไรประหยัดได้ ก็ต้องประหยัด’ แล้วยุคนี้เกิดอะไรขึ้น ? คำตอบของคำถามนี้ ไม่ยาก แน่นอนว่าไม่ต้องจบเศรษฐศาสตร์ หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ก็พอจะตอบได้ว่านี่เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยโตต่ำ ลงทุนหด นักท่องเที่ยวหาย กระทบทุกหย่อมหญ้า จนหลายคนเกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง และตามมาด้วยหนี้ก้อนโต
หนึ่งในปัญหาหนักใจของคนยุคนี้คือ รถยนต์ เพราะรถยนต์ก็คือทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดหนี้สิน อ้างอิงจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) พบว่ามี หนี้รถยนต์ถึง 269,675 ล้านบาท เพิ่ม 14.8% (ม.ค. 2025) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. 2024) ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตหนี้ครัวเรือน ทำให้บางรายผ่อนต่อไม่ไหว รถโดนยึด ประกอบกับแนวคิด “ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง” (Buy Now Pay Later) ที่อาจกลายเป็นระเบิดเวลาทางการเงินในอนาคต

เช่ารถ VS ซื้อรถ แบบไหนคุ้ม ?
เนื่องปัญหาทางเศรษฐกิจระดับมหภาคที่กระทบภาคครัวเรือนตามที่กล่าวไปข้างต้น จึงเป็นที่มาว่าหรือ เช่ารถ จะดีกว่าการ ซื้อรถ เพราะไม่ต้องกังวลกับปัญหาวางเงินดาวน์ และความเครียดที่ต้องหาเงินมาหมุนผ่อนรายเดือน ซึ่งในทางทฤษฎีก็ดูจะเป็นไปได้ ฟังดูน่าสนใจ แต่ว่าในทางปฏิบัติจะทำได้จริงหรือ ทดแทนได้แค่ไหน และคุ้มกว่าจริงไหม ?
สำหรับการเช่ารถ โดยทั่วไปแล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามระยะเวลาการเช่า ได้แก่ การเช่าระยะสั้น และการเช่าระยะยาว แต่ละประเภทมีลักษณะการให้บริการและกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกัน
- การเช่าซื้อระยะสั้น หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เหมาะกับคนที่ต้องการเช่ารถยนต์เพียงชั่วคราว เช่น การเช่าเพื่อท่องเที่ยว หรือเช่ารถขับเพื่อรอรถที่กำลังซ่อมในศูนย์ เป็นต้น ซึ่งการเช่ารูปแบบนี้ราคาจะคิดเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ ผู้ให้บริการมักมีรถหลายรุ่นให้เลือก เน้นความสะดวกและความยืดหยุ่นในการจองและคืนรถ
- การเช่ารถระยะยาว เป็นรูปแบบการปล่อยเช่ารถเป็นรายเดือน รายไตรมาส รายปี หรือหลายปี ขึ้นอยู่กับสัญญาที่ผู้เช่าและผู้ให้เช่าตกลงกัน หากมีเหตุให้ต้องใช้รถเป็นประจำ หรือแทนที่รถส่วนตัว หรือใช้ในแง่นิติบุคคล บริษัท หน่วยงาน การเช่ารถรูปแบบนี้ก็จะตอบโจทย์กว่า
โดยผู้ประกอบการธุรกิจรถให้เช่าจะมีโปรโมชันของการเช่าให้เราได้เลือกตามที่เราต้องการ ซึ่งรถแต่ละรุ่นก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งรุ่นใหม่สภาพเครื่องยนต์ดีราคาเช่าก็จะยิ่งสูง อ้างอิงตัวเลขเช่ารถจาก Siam Rent ผู้ให้บริการรถเช่า สำหรับเช่ารถ 1 ปี ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน
แต่ถ้าหากเลือกซื้อรถ มีค่าใช้จ่ายหลักคือ เงินดาวน์, ค่างวดผ่อนชำระ (ถ้ากู้ไฟแนนซ์), และ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ซึ่งรวมถึง ค่าจดทะเบียน, ค่าประกันภัย, ค่ามัดจำป้ายแดง (รถใหม่), และค่าโอนกรรมสิทธิ์ (รถมือสอง) ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อรถใหม่หรือมือสอง และวิธีการชำระเงินของคุณ

ยกตัวอย่างกรณีวางดาวน์รถยนต์คันแรก
การมัรถยนต์คันแรกจำเป็นต้องมีเงินก้อน ยิ่งดาวน์สูงก็ยิ่งช่วยให้ผ่อนต่ำ เนื่องจากดอกเบี้ยสินเชื่อรถเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ คำนวณครั้งเดียว มีผลไปจนถึงงวดสุดท้าย
เช่น รถยนต์ราคา 750,000 บาท หากเราวางเงินดาวน์ 250,000 บาท ก็ต้องกู้เพิ่มอีก 500,000 บาท หากสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ย 5% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายคือ 500,000 x 5/100 = 25,000 บาทต่อปี
แต่หากเราจ่ายเงินดาวน์รถมากกว่า 250,000 บาท อัตราดอกเบี้ยก็จะถูกลง เช่น วางเงินดาวน์ 300,000 บาท ดอกเบี้ยก็จะเท่ากับ 450,000 x 5/100 = 22,500 บาทต่อปี เป็นต้น (เมื่อวางเงินดาวน์เยอะอาจได้ดอกเบี้ยต่อปีถูกลง)
สำหรับการซื้อรถมือหนึ่ง โดยทั่วไปแนะนำให้ดาวน์ประมาณ 25-40% ของราคารถ เพื่อให้ยอดจัดไฟแนนซ์และยอดผ่อนไม่สูงจนเกินไป แต่ถ้าหากดาวน์น้อยกว่า 20% อาจต้องมีคนค้ำประกัน หรือหากรายได้ของคุณน้อยกว่า 2 เท่าของยอดผ่อนต่อเดือน การกู้ร่วมกับคนในครอบครัวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้การขอสินเชื่อผ่านง่ายขึ้น
สำหรับการซื้อรถมือสอง เงินดาวน์มักจะอยู่ที่ประมาณ 10% ของราคารถ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินด้วย หากรถยนต์มีอายุมากกว่า 7 ปี หรือผู้ซื้อมีความเสี่ยงสูง สถาบันการเงินอาจกำหนดให้วางเงินดาวน์สูงขึ้น เพื่อช่วยลดค่างวดและดอกเบี้ยรายเดือนให้คุณผ่อนหมดเร็วขึ้น

เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ซื้อรถ vs เช่ารถ
การซื้อรถมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าการเช่ารถ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ เพิ่มเติม หรือค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าประกันภัย ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด หรือแม้แต่ค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ที่ลดลงทุกปี ซึ่งแตกต่างจากการเช่ารถที่มีค่าใช้จ่ายคงที่ตามสัญญา
การทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก่อนตัดสินใจจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบและเลือกทางเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
เช่ารถระยะยาวดีกว่าซื้อรถ ?
หากกำลังลังเลว่าการเช่ารถระยะยาวแทนการซื้อรถจะดีกว่ายังไง เพื่อการพิจารณาที่ละเอียดขึ้น เรามาดูว่า ข้อดี-ข้อเสียของการเช่ารถระยะยาว คืออะไร ?
ข้อดีของการเช่าระยะยาว
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะสั้น โดยค่าเช่ารถมักมีราคาต่ำกว่าการผ่อนชำระรายเดือนผ่านไฟแนนซ์
- ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษา เพราะบริษัทให้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมบำรุงทั้งหมด
- เลือกประเภทรถได้หลากหลายตามการใช้งาน เช่น รถขนาดใหญ่สำหรับเดินทางไกล หรือรถเล็กสำหรับขับในเมือง
- ได้ใช้รถใหม่อยู่เสมอ เพราะบริษัทมักเปลี่ยนรถทุก 2-3 ปี
- ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเสื่อมราคาของรถ เพราะไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน
ข้อเสียของการเช่าระยะยาว
- มีข้อจำกัดด้านระยะทางและพื้นที่การใช้งาน ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาเช่า
- การจะยกเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนดเป็นเรื่องยาก อาจจะต้องเสียค่าปรับหากยกเลิกสัญญาก่อน
- ต้องระมัดระวังในการใช้งานเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับความเสียหาย
- ไม่มีโอกาสสร้างรายได้จากการขายรถเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าหรือเช่าซื้อเหมือนกับตอนที่เป็นเจ้าของรถ
การเช่ารถมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ท้ายที่สุดแล้วการตัดสินใจขึ้นอยู่กับงบประมาณของผู้ใช้งานและจำนวนครั้งที่จะใช้รถ หากตั้งใจจะขับรถรุ่นใหม่ที่ราคาสูงเกินงบประมาณ หรือต้องการใช้รถเพียงระยะเวลาหนึ่ง การเช่ารถระยะยาวอาจเหมาะกว่า และหากคุณใช้รถบ่อย ขับรถทางไกล และต้องการอิสระในการขายรถ การซื้อรถอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่อาจต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การจราจร และสภาพการเงินของตัวเองด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดหนี้เสียจากการซื้อรถยนต์ในอนาคต