ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ใหม่ของเทสลา (Tesla) ในยุโรปยังคงร่วงแรงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยลดลงถึง 27.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือเพียง 13,863 คัน จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) สะท้อนถึงแรงกดดันจากทั้งด้านการแข่งขัน การเมือง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนกลับสวนทางสร้างยอดขายทะลุ 65,000 คัน พร้อมแย่งส่วนแบ่งตลาดในยุโรปได้ถึง 5.9% มากกว่าสองเท่าจากปีก่อน ทั้งที่ถูกเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปก็ตาม

ลูกค้าในยุโรปหันหลังให้เทสลา ส่วนหนึ่งเกิดจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่สั่นคลอนจากพฤติกรรมของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ที่แสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะการบริจาคเงินเกือบ 300 ล้านเหรียญ (ราว 9,900 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการพยายามลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดกระแสประท้วงในหลายโชว์รูมของเทสลาทั่วยุโรป

นอกจากปัญหาข้างต้น เทสลายังถูกบีบจากคู่แข่งทั้งฝั่งยุโรปและจีน โดยเฉพาะ BYD จากจีน ที่ขึ้นมามียอดขายใกล้เคียงกับเทสลาในเดือนพฤษภาคม และสามารถแซงหน้าไปแล้วในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ด้านราคาหุ้นเทสลาได้รับแรงกดดันทันทีหลังข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ โดยเช้าวันพุธ หุ้นร่วงลงเกือบ 5% และตลอดปี 2025 นี้ หุ้นเทสลาร่วงไปรวมแล้วกว่า 18%