เป็นที่รู้กันว่า ‘Final Fantasy 7’ ฉบับรีเมกใหม่หมดจะถูกสร้างทั้งหมด 3 ภาค โดยตอนนี้ได้ออกวางขายภาค ‘Remake’ ไปแล้ว และกำลังจะออกภาค ‘Final Fantasy 7 Rebirth’ ในต้นปี 2024 บน PS5 และล่าสุดมีการบอกถึงเรื่องราวที่จะเชื่อมต่อกับเวอร์ชันภาพยนตร์ด้วย

โดยก่อนหน้านี้ เท็ตสึยะ โนมูระ (Tetsuya Nomura) ได้ออกมาบอกกับ The Guardian ว่าเรื่องราวในเกมจะเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ ‘Final Fantasy Advent Children’ และล่าสุดมีการตอกย้ำอีกครั้งจากปากของ โยชิโนริ คิทาเซะ (Yoshinori Kitase) ผู้อำนวยการผลิตซีรีส์ ‘Final Fantasy VII Remake’ ได้บอกกับ Games Radar ว่ามันจะเชื่อมต่อกับ ‘Advent Children’

อย่างไรก็ตามการนำเรื่องราวมาสานต่อกันทางค่าย Square Enix จะหารือเกี่ยวกับการสร้างสมดุลของเรื่องราวดั้งเดิมและต้องมีการแก้ไขเรื่องราวใหม่ในบางส่วน นอกจากนี้คิทาเซะได้บอกว่าในตอนท้ายมันจะเชื่อมกับ Advent Children ทำให้ความสมดุลของการเล่าเรื่องราวเป็นสิ่งสำคัญมาก

นอกจากนี้คิทาเซะได้กล่าวถึงภาค ‘Final Fantasy 7 Rebirth’ มันมันจะเป็นภาคที่ 2 ของซีรีส์และเขาได้เปรียบว่ามันเหมือนกับภาพยนตร์ ‘Star Wars: The Empire Strikes Back’ ที่จะทำให้เนื่องราวในเกมลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และมีการเล่าเรื่องผ่านความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากขึ้นกว่าภาคแรก

ส่วน นาโอกิ ฮามากุชิ (Naoki Hamaguchi) ผู้กำกับภาค ‘Rebirth’ ได้ออกมาบอกถึงความนำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและการหักมุมของเรื่องในในการรีเมกครั้งนี้ โดยเขาได้บอกว่าหากไม่เพิ่มอะไรเข้าไปเลยแฟนเกมคงจะคิดว่ารู้อยู่แล้วมันมันจะเกิดอะไรขึ้นในเกม และเขาไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นเขาอยากให้แฟนเกมต้องลุ้นและอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และนั้นคือสิ่งที่เขาได้ทำการเปลี่ยนแปลงในภาค ‘Remake’ และ ‘Rebirth’ โดยทำให้ทุกอย่างให้ยิ่งใหญ่ขึ้น, กว้างขึ้น และลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เกม ‘Final Fantasy 7 Rebirth’ วางขายบน PS5 วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024

ที่มา Eurogamer

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส