หากพูดถึงการออกกำลังกายง่าย ๆ ได้ที่บ้านตนเอง นอกจากการคาดิโอด้วยการเต้นแอโรบิก หรือบริหารร่างกายด้วยท่าทางง่าย ๆ ตามคลิปวิดีโอที่มีสอนตามอินเทอร์เน็ตแล้ว การออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันนั่นก็คือ การเล่นโยคะ และการเล่นพิลาทิส ซึ่งการออกกำลังกายทั้ง 2 ประเภทนี้มีลักษณะที่คล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ บางคนอาจจะยังสงสัยว่าโยคะกับพิลาทิสต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อเท็จจริงความแตกต่างของการออกกำลังกายทั้ง 2 ชนิดนี้ เพื่อให้คุณได้เลือกแนวทางที่ใช่สำหรับตนเอง

โยคะ (Yoga)

การเล่นโยคะ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียเมื่อหลายพันปีมาแล้ว เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการยืดหยุ่นและความอ่อนตัวของกล้ามเนื้อ โฟกัสที่ลมหายใจไปพร้อมกับการขยับร่างกาย ประโยชน์ของโยคะ คือช่วยเรื่องสุขภาพทำให้การไหลเวียนเลือดดี ช่วยคลายเครียด และช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

การเล่นโยคะ ได้รับความนิยมในกลุ่มของผู้หญิง เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้แรงมาก แถมไม่ต้องมีอุปกรณ์มากมายก็สามารถเล่นได้ที่บ้าน เพียงแค่คุณมีเสื่อโยคะผืนเดียวเท่านั้น แต่ทั้งนี้การฝึกโยคะก็มีหลายระดับ หากเป็นผู้เริ่มต้นต้องศึกษาท่าทางให้ดี หรืออาจจะต้องเล่นควบคู่ไปกับการมีผู้เชี่ยวชาญดูแล 

นอกจากนี้ การเล่นโยคะยังมีประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่แม้ว่าจะตั้งครรภ์อยู่ก็สามารถออกกำลังกายแบบเบา ๆ ได้ เพราะการเล่นโยคะเป็นการออกกำลังกายที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยผ่อนคลายในระหว่างตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถช่วยเตรียมร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ให้เตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ที่สำคัญการหายใจช้า ๆ ระหว่างเล่นยังช่วยบรรเทาความเครียดได้อีกด้วย

พิลาทิส (Pilates)

การเล่นพิลาทิส ถูกคิดค้นในปี ค.ศ.1920  โดยโจเซฟ พิลาทิส (Joseph Pilates) เป็นการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อยืด และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างความสมดุลของร่างกายควบคู่ไปกับการฝึกลมหายใจ มีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น ได้แก่ เครื่องรีฟอร์มเมอร์  (Reformer) คาดิลแลค (Cadillac) และเก้าอี้วุนดา (Wunda Chair) โดยอุปกรณ์เหล่านี้มีคุณสมบัติในการช่วยยืดและดึงตามแรงโน้มถ่วง เพื่อให้ร่างกายได้ออกแรง ขณะเดียวกันก็สามารถใช้เสื่อลักษณะเดียวกับเสื่อโยคะในการเล่นพิลาทิสได้เช่นกัน

การเล่นพิลาทิสส่วนใหญ่ ผู้คนมักจะไปฝึกกับผู้เชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์ที่อาจจะดูยาก ทำให้หลายคนกลัวและคิดว่าการเล่นพิลาทิสจะต้องเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง แต่ในความเป็นจริงแล้วพิลาทิสเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้ แต่ทั้งนี้หากมีผู้เชี่ยวชาญเป็นคนฝึกสอนก็จะทำให้ผู้เล่นโฟกัสกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ถูกจุด และเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่เล่นผิดท่า

แม้จะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายในท่วงท่าที่หนักมากนัก แต่ใครจะเชื่อว่าพิลาทิสสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะการฝึกพิลาทิสจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นและขับเหงื่อออกมา ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ พิลาทิสยังมีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงพร้อมกับสร้างความยืดหยุ่นของร่างกาย และลดความเครียดให้จิตใจผ่อนคลายได้อีกด้วย

โยคะ vs พิลาทิส เลือกอะไรดี ?

คุณสามารถเลือกได้จากความต้องการของตนเอง หากคุณต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อหรือฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อก็อาจจะชื่นชอบการออกกำลังกายประเภทพิลาทิสมากกว่า

แต่หากว่าคุณชอบการออกกำลังกายที่เน้นการยืดหยุ่นของร่างกาย ไปพร้อมกับการฝึกสมาธิการเล่นโยคะก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่านั่นเอง

ทั้งนี้ การเล่นพิลาทิสและโยคะต่างมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าคุณจะชื่นชอบการออกกำลังกายลักษณะใดมากกว่ากัน โดยส่วนมากมักจะเริ่มจากการเล่นโยคะก่อนจะหันไปเล่นพิลาทิส ซึ่งก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เล่นทั้งโยคะและพิลาทิสควบคู่ไปด้วยกัน สำคัญที่สุดคือ คุณจะได้ดูแลสุขภาพของตนเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนักและหักโหมแต่อย่างใด

ที่มา healthywomen insider

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส