บริษัท IBM ยักษ์ใหญ่ด้านเทคฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดทั้งรายได้รวมและกำไรต่อหุ้น แต่หุ้นกลับร่วงแรงถึง 5.23% หลังตัวเลขรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจซอฟต์แวร์ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้เกิดแรงขายหลังปิดตลาด

ไตรมาสนี้ IBM มีรายได้รวมเติบโตเกือบ 8%YoY อยู่ที่ 16,980 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 560,340 ล้านบาท สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 16,590 ล้านเหรียญ ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.80 เหรียญ ดีกว่าคาดที่ 2.64 เหรียญ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2,190 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 72,270 ล้านบาท จาก 1,830 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว

ส่วนรายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์ ซึ่งรวม Red Hat เพิ่มขึ้น 10% อยู่ที่ 7,390 ล้านเหรียญ แต่ยังต่ำกว่าคาดการณ์ของ StreetAccount ที่ 7,430 ล้านเหรียญ ขณะเดียวกัน อัตรากำไรขั้นต้นของซอฟต์แวร์อยู่ที่ 83.9% ต่ำกว่าคาดเพียงเล็กน้อยที่ 84% โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์วินด์ กฤษณะ (Arvind Krishna) ให้ความเห็นว่า ลูกค้าหลายรายมีแนวโน้มเปลี่ยนงบประมาณไปลงทุนในฮาร์ดแวร์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอื่น ๆ ยังเติบโตดี รายได้จากการให้คำปรึกษา (Consulting) เพิ่มขึ้นเกือบ 3% อยู่ที่ 5,310 ล้านเหรียญ สูงกว่าคาดที่ 5,160 ล้านเหรียญ ส่วนธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เติบโตแรงถึง 14% อยู่ที่ 4,140 ล้านเหรียญ สูงกว่าคาดเนื่องจากบริษัทเปิดตัวเมนเฟรมรุ่นใหม่ z17 และประกาศเข้าซื้อกิจการ Hakkoda บริษัทที่ปรึกษาด้าน AI และข้อมูลในไตรมาสนี้

แม้รายได้ธุรกิจซอฟต์แวร์จะพลาดเป้าเล็กน้อย แต่ IBM ยังรักษาแนวโน้มการเติบโตได้แข็งแกร่งในหลายด้าน ทั้ง Consulting, Cloud, Infrastructure และ AI พร้อมส่งสัญญาณความเชื่อมั่นในยุคที่กฎระเบียบเอื้อต่อการขยายตัวของบริษัทเทคโนโลยีมากขึ้น