ก้องเกียรติ โขมศิริ เป็นผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์ที่ผมชื่นชอบที่สุด ติดตามผลงานมาตั้งแต่ยังใช้ชื่อโรนินทีมตอนกำกับ”ลองของ” แล้วก็ประทับใจมากกับ “ไชยา” ที่ดูแล้วเสียน้ำตาได้ แล้วก็ทำให้อึ้งได้กับเรื่องราวหักมุมใน “เฉือน” แม้จะฉีกแนวไปบ้างกับ “อันธพาล” และ “สุขสันต์วันกลับบ้าน” พอรู้ข่าวว่ามาทำหนังแอ็คชั่นฟอร์มใหญ่อย่าง “ขุนพันธ์” จึงเปิดใจรับชมด้วยใจเต็มร้อย

khun-pun-teaser-2

หนังเปิดตัวมาแบบคาวบอยตะวันตกด้วยภาพขุนพันธ์ขี่ม้ามีพระอาทิตย์ดวงโตเป็นฉากหลัง ก็ยังนึกว่า”เอ้อ แปลกใหม่ดี ได้ดูหนังไทยสไตล์คาวบอย” แล้วก็เริ่มสะดุดทีละเล็กละน้อย จากคะแนนที่เตรียมมาให้เต็มสิบ ก็ลดลงไปจนไม่เหลือ ผิดหวังสุดคือบทภาพยนตร์ฝีมือของก้องเกียรติเอง ที่ไม่น่าเชื่อว่ามือเขียนบทมือต้น ๆ ของวงการหนังไทยจะปล่อยบทที่มีแต่ช่องโหว่แบบนี้ออกมาได้ ตัวละครแบนราบ ไม่มีปูมหลังของขุนพันธ์ว่าเป็นใครมาจากไหน เขาเก่งกาจมีวีรกรรมอย่างไรทำไมถูกเลือกมาปราบ อัลฮาวี ยะลู ขุนพันธ์เป็นมือปราบ”อาคม”มาประมือกับจอมโจรที่แก่กล้าอาคมเช่นกัน ฉะนั้นเรื่อง “อาคม” น่าจะเปรียบได้กับตัวละครเด่นอีกตัวของเรื่องนี้แต่กลับแทบไม่ถูกพูดถึงที่ไปที่มาเลย ไม่มีการลงลึกแต่ละอาคม สิ่งที่ได้เห็นคือขุนพันธ์ใช้คาถาอาคมอยู่ 3 ครั้งได้แต่ก็เป็นการเล่าแบบผ่าน ๆ ไม่ได้ขับเน้นอย่างที่หน้าหนังใช้เป็นจุดขาย มีเล่าหน่อยก็คือฝั่งของอัลฮาวี ยะลู ไปสักกับพระอาจารย์ มีฉากโชว์ของขึ้นอยู่แพร๊บ ตามหาฟันวิเศษที่ขึ้นกลางเพดานปาก แล้วก็ถูกทิ้งหายไปไม่มีการพูดถึงอีก ตัวละครเสริมถูกใส่เข้ามาแบบลอย ๆ ไม่มีการแนะนำที่ไปที่มาตัวละครทั้งไข่โถ มาลัย อยู่ดี ๆ ขุนพันธ์ก็ไปอยู่กับไข่โถ ต้องค่อย ๆ เก็บรายละเอียดจากบทสนทนาอยู่นาน ๆ ถึงจะเข้าใจความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร

สนธยา ชิตมนี เดอะสตาร์คนแรกกลายมาเป็นดาราขาประจำของผู้กำกับก้องเกียรติ สนยังคงรักษามาตรฐานนักแสดงที่ดีไว้ได้ แล้วบทไข่โถหนุ่มใต้ก็เหมือนเขียนขึ้นมาเพื่อสนเลย เพราะเป็นคนใต้แหล่งใต้กันเยอะมากแล้วก็ไม่มีซับไตเติ้ลภาษากลางอีกก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง พอหนังขาดความลึกของตัวละครก็ขาดความรู้สึกร่วมจากคนดู ซีนดราม่าเวลาบางตัวตายก็เลยแห้งแล้งอารมณ์สุด ๆ แม้กระทั่งเลิฟซีนก็ยังดูตกใจว่าคู่นี้ไปรักกันตอนไหนจนดูเป็นส่วนเกินของหนัง

13434874_10154336169669214_8914271793495047264_n

สะดุดมากสุดคือการตัดต่อที่กระท่อนกระแท่น อารมณ์แต่ละฉากกระโดดมากตัดต่อเหมือนรีบไปไหน ฉากซีจีหยาบและดูหลอกตามาก มาตรฐานดีกว่าช่อง 7 หน่อย ฉากต่อสู้บนรถไฟขุนพันธ์ 1 ต่อ 10 กับแก๊งโจรก็มองเห็นชัดเจนว่าเตี๊ยมกันเป็นจังหวะขาดความรุนแรงสมจริง ทำไมวันที่หนังไทยขาดพันนา ฤทธิไกรทีมงานสตั๊นไทยถอยหลังถึงเพียงนี้ มีดูดีหนักหน่วงหน่อยก็ฉากที่สู้กับชูพงษ์ ช่างปรุง ยังดีที่ตัวละครหลักทั้งอนันดา และน้อย เล่นได้ดี พออุ้มหนังไว้ได้บ้าง กับบทตำรวจมือปราบไม่ใช่งานยากอะไรสำหรับอนันดา แต่ขัดตากับเคราปลอมของขุนพันธ์ในครึ่งแรกมาก เป็นเรื่องที่ชวนสงสัยในวงการหนังไทยละครไทยมาก ทำไมไม่มีใครทำหนวดเคราได้สมจริงสักที

น้อย ในภาพลักษณ์ของ อัลฮาวี ยะลู ดูเป็นการแปลงโฉมครั้งใหญ่มาก กับลุคที่ดูหยาบกร้านเครายาวรอยสักเต็มตัวที่ดูเป็นโจรจริง แต่เสียงพูดที่แหลมเล็กยังคงเป็นปัญหากับบทที่ต้องการพลังเช่นนี้ น้อยเล่นดีดูตั้งใจแต่บทและการกำกับไม่ได้ใช้งานเขาได้อย่างสัมฤทธิ์ผล ไม่สามารถสร้างรังสีอำมหิตให้กับตัวอัลฮาวี ไม่มีฉากเปิดเท่ ๆ หรือวีรกรรมโหดให้เห็น ไม่ให้ความรู้สึกว่านี่คือตัวละครอันตรายต่อคนรอบข้าง ลอยไปลอยมาอยู่ดี ๆ ก็โผล่มาตรงนั้นตรงนี้ บทภาพยนตร์ดูจะไปให้ความสำคัญกับตัวคุณหลวงโอฬารตัวร้ายอีกตัวของเรื่องที่ดูจะมีเวลาบนจอไม่น้อยกว่าอัลฮาวี กบ พิมลรัตน์ หายหน้าไปนานจากจอหนังกลับมาคราวนี้ดูสวยมากในบทบุหงา ลูกน้องของอัลฮาวี

13332892_10154142570975833_6014223830724517641_n

หนังถูกขายว่าเป็นหนังแอ็คชั่นก็ออกมาเป็นหนังแอ็คชั่นจริง งานฉากงานโปรดัคชั่นดูลงทุนตั้งใจ เสียงกระสุนดังลั่นมากยิงกันแทบทั้งเรื่อง ทั้งปืนสั้นปืนกล ฉากยิงแต่ละฉากยาวเป็นสิบนาทีแต่ไม่ได้มีความตื่นเต้นเร้าใจสามารถนั่งหลับตาหรือลุกไปห้องน้ำก็ได้แบบไม่ขาดสาระสำคัญไป ฉากขายจริง ๆ มีให้เห็นในตัวอย่างนั่นละครับ ตัดมาสั้น ๆ ดูได้พลังดีแต่พออยู่ในตัวหนังกลับโดนข้อด้อยกลบเสียหมด หลาย ๆ ฉากพอจะไปได้ดีก็เฉลยออกมาว่าเป็นภาพในภวังค์เสียงั้น ยี้สุดคือเอามุกจากใน The Revenant มาใช้ ไม่คิดว่าคนที่เคยดูเค้าจะรู้สึกแย่หรือ หนังมีฉากหลังเอนด์เครดิตแบบมาร์เวล เผยตัวร้ายของภาค 2 …..พอเถอะ  ผิด หวังสุด ๆ ครับ

Play video