“เด็กวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” เป็นวลีที่เรามักจะได้ยินบ่อย ๆ ช่วงวันเด็กแห่งชาติ อย่างในวงการฮอลลีวูด จากอดีตถึงปัจจุบัน ก็มีเด็กจำนวนมากที่สามารถก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดได้ ผ่านการแสดงที่เกินวัยของพวกเขา แม้จะมีบ้างที่มาดับตอนโต แต่ก็มีไม่น้อยที่เติบโตมาเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการ จวบจนถึงทุกวันนี้  

วันนี้ beartai BUZZ จะพาไปดู 10 ดาราดัง เล่นหนังตั้งแต่เด็ก จะมีใครบ้างไปดูกันเลย

นาตาลี พอร์ตแมน 

ตอนเธออายุได้ 11 ขวบ นาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman) ถูกแมวมองมาพบขณะกำลังนั่งกินพิซซ่าอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งในลองไอส์แลนด์ หลังจากนั้นหนึ่งปี เธอก็ได้มารับบทเป็นตัวละครที่ชื่อว่า มาทิลดา ในหนังคลาสสิกเรื่อง ‘Léon: The Professional’ พอร์ตแมนต้องมาประกบคู่กับ ฌอง เรโน (Jean Reno) ที่รับบทเป็น ลีออง นักฆ่าฝีมือเยี่ยมที่ภายนอกดูโหดเหี้ยม แต่ภายในมีจิตใจอ่อนโยน และเป็นคนที่คอยปกป้องมาทิลดาจากภัยอันตรายต่าง ๆ

หลังแจ้งเกิดกับบทดังกล่าว ในวัย 16 ปีพอร์ตแมนก็กลับมาโด่งดังอีกครั้ง กับบทเจ้าหญิงแพดเม่ อมิดาลา แห่งหนัง ‘Star Wars Episode 1-3’

พอร์ตแมนก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของการเป็นนักแสดงได้สำเร็จ หลังสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง ‘Black Swan’ เมื่อปี 2010 ปัจจุบันพอร์ตแมนยังคงเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมีผลงานดัง ๆ มากมายทั้ง ‘Jackie’ , ‘Lucy in the Sky’ และผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง ‘Thor: Love and Thunder’ กับบท ดร. เจน ฟอสเตอร์

ดรูว์ แบร์รีมอร์ 

ในวัย 6 ขวบ ดรูว์ แบร์รีมอร์ (Drew Barrymore) สามารถแจ้งเกิดบนเส้นทางนักแสดงได้ จากหนังเรื่อง ‘E.T.’ ของผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) และเมื่ออายุได้ 7 ขวบ เธอกลายเป็นพิธีกรที่อายุน้อยที่สุดในรายการโทรทัศน์ Saturday Night Live แต่แล้วชื่อเสียงและความโด่งดังเกินวัยของแบร์รีมอร์ ก็นำพาเธอให้หลงผิด

แบร์รีมอร์กลายเป็นเด็กที่ติดโคเคนและดื่มแอลกอฮอลล์ตั้งแต่อายุยังน้อย จนสุดท้ายเธอต้องเข้ารับการบำบัดในเวลาต่อมา แต่เมื่อรักษาตัวจนหาย แบร์รีมอร์ก็สามารถเติบโตจนเป็นดาราที่มีผลงานแสดงฮิต ๆ หลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่ ‘Scream’, ‘The Wedding Singer’, ‘Charlie’s Angels’ และ ’50 First Dates’ อีกทั้งชื่อของเธอยังได้ถูกประดับลงบนถนนแห่งดวงดาว หรือ Hollywood Walk of Fame อีกด้วย

คริสเตียน เบล

คริสเตียน เบล (Christian Bale) มักจะถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน ‘แบทแมน’ ที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? นานมาแล้วก่อนที่เขาจะสวมผ้าคลุมสีดำออกล่าเหล่าวายร้าย หนังที่แจ้งเกิดให้กับเขาก็คือเรื่อง ‘Empire of the Sun’ ผลงานการกำกับของ ของสตีเวน สปีลเบิร์กในปี 1987

หนังเรื่องนี้เบลรับบทเป็น เจมี แกรมห์ เด็กหนุ่มจากครอบครัวชาวอังกฤษที่ร่ำรวยในเซี่ยงไฮ้ ที่ต้องมาเป็นเชลยศึกในค่ายกักกันของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เบลได้รับคำชมอย่างมากจากการแสดงอันเกินวัยของเขาในหนังเรื่องนี้  ซึ่งย้อนกลับไปตอนนั้นเบลเพิ่งจะมีอายุแค่ 13 ปีเท่านั้นเอง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เบลได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม ผ่านผลงานการแสดงที่สุดลึกล้ำของเขา ไม่ว่าจะเป็น ’American Psycho’, ‘The Machinist’ จนไปถึงหนังฮีโรขึ้นหิ้งอย่าง ‘The Dark Knight’ ก่อนที่เขาจะมาได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากบทบาทในหนังเมื่อปี 2010 อย่าง ‘The Fighter’

เจค จิลเลนฮาล

เจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) เป็นอีกหนึ่งนักแสดงดังที่แจ้งเกิดตั้งแต่อายุยังน้อย จิลเลนฮาลในวัย 11 ขวบ ได้มีโอกาสแสดงหนังเรื่องแรก ก็คือ ‘City Slickers’ ซึ่งเป็นหนังที่เขาต้องมาเล่นเป็นลูกชายของ บิลลี คริสตัล (Billy Crystal) ที่รับบทเป็นนักขายโฆษณา 

หลังจากหนังเรื่องแรก ไม่กี่ปีต่อมา จิลเลนฮาลก็เริ่มมีผลงานที่โดดเด่นทั้ง ‘October Sky’ และ ‘Donnie Darko’ หากพูดถึงผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมของผู้ชายคนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นบท แจ็ก ทวิสต์ ในหนัง ‘Brokeback Mountain’ ปี 2005 ที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมบทชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ รวมถึงบท หลุยส์ บลูม นักข่าวหิวแสงผู้ไร้ซึ่งจรรยาบรรณใน ‘Nightcrawler’

ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ

ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo Dicaprio) มีอายุได้เพียง 17 ปี นับตั้งแต่เขาเริ่มปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสยองขวัญเรื่อง ‘Critters 3’ ก่อนที่ดิแคพรีโอในวัย 18 ปี จะโด่งดังขึ้นมาจากบทน้องชายที่ป่วยเป็นออทิสติก ของ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) ในหนัง ‘What’s Eating Gilbert Grape’ ซึ่งจากการแสดงในครั้งนั้น ก็ส่งให้เขาได้เข้าชิงออสการ์และลูกโลกทองคำเป็นครั้งแรกอีกด้วย

ช่วงกลางทศวรรษ 90s ดิแคพรีโอก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกดาวค้างฟ้าเต็มตัว จากสองหนังรักชีวิตเล่นตลกอย่าง ‘Romeo + Juliet’ และ ’Titanic’ นับตั้งแต่นั้นเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขาก็พุ่งสูงขึ้นจวบจนถึงปัจจุบัน ดิแคพรีโอมีผลงานโดดเด่นมากมายทั้ง ‘Catch Me If You Can’, ‘Django Unchained’, ‘The Wolf of Wall Street’ รวมไปถึงผลงานที่ส่งให้เขาได้ออสการ์สมใจอย่าง ‘The Revenant’

โจดี้ ฟอสเตอร์

ในวัย 12 ปี โจดี้ ฟอสเตอร์ (Jodie Foster) กลายเป็นนักแสดงเด็กที่โด่งดังชั่วข้ามคืน จากบทโสเภณีเด็ก ในหนังเรื่อง ‘Taxi Driver’ ของผู้กำกับมาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) บทดังกล่าวส่งให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

แม้จะอกหักไม่ได้รางวัล แต่หลายปีต่อมาฟอสเตอร์ในวัย 26 และ 29 ปี ก็สามารถคว้าสองรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมได้สำเร็จ จากหนังเรื่อง ‘The Accused’ และ ‘The Silence of the Lambs’

นอกจากนี้เธอยังมีผลงานชวนระทึกอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น ‘Panic Room’ หรือ ‘Flight Plan’ ปัจจุบันฟอสเตอร์หันมารับงานแสดงน้อยลง และมุ่งมั่นกับการทำงานเบื้องหลังมากขึ้น ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของเธอก็คือ ‘The Mauritanian’ เมื่อปี 2021

คริสเตน สจวร์ต 

คริสเตน สจวร์ต (Kristen Stewart) มีอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้นตอนถ่ายทำหนังเรื่อง ‘The Safety of Objects’ และ ‘Panic Room’

การรับบทเป็นลูกของ โจดี ฟอสเตอร์ ใน ‘Panic Room’ ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงเด็กที่ได้รับการจับตามอง ก่อนที่หลายปีต่อมาสจวร์ตจะสามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวกับบท เบลล่า สวอน ในแฟรนไชส์หนังแวมไพร์เรื่อง ‘Twilight’ ช่วงปี 2008-2012 และการพลิกโฉมเป็นเจ้าหญิงไดอาน่าในหนัง ‘Spencer’ ที่ส่งให้เธอได้เข้าชิงออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมปี 2022

เคิร์สเตน ดันสต์

หนังเรื่อง ‘Interview with a Vampire’ ในปี 1994 ซึ่งนำแสดงโดย แบรด พิตต์ (Brad Pitt) และ ทอม ครูซ (Tom Cruise) ทำให้ เคิร์สเตน ดันสต์ (Kirsten Dunst) ที่รับบทเป็น ‘คลอเดีย’ กลายมาเป็นที่รู้จักด้วยวัยเพียง 12 ปี และจากการแสดงในหนังเรื่องนี้ ก็ส่งให้เธอมีชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเมื่อปี 1995

ตั้งแต่นั้นมาดันสต์ ก็มีงานแสดงอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนังตลกวัยรุ่นเรื่อง ‘Bring It On’ รวมถึงบทบาทฐานะ แมร์รี เจน วัตสัน ในหนัง ‘Spider-Man’ ของแซม ไรมี ช่วงต้นยุค 2000 

แม้เส้นทางอาชีพนักแสดงของดันสต์จะมีทั้งขึ้นและลง แต่ในปี 2022 การแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในหนัง ‘The Power of the Dog’ ก็ทำให้เธอมีชื่อเข้าชิงออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

เอ็มมา วัตสัน

เอ็มมา วัตสัน (Emma Watson) เป็นหนึ่งในนักแสดงเด็กที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย หลายคนจดจำเธอได้จากการแสดงเป็น เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ในหนังแฟรนไชส์ ‘Harry Potter’ ทั้ง 8 เรื่อง ย้อนกลับไปตอน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ เข้าฉาย เธอมีอายุได้เพียง 10 ขวบเท่านั้น

หลังบอกลาบทบาทแม่มดน้อย วัตสันก็มีผลงานเด่นอีกหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ ‘The Perks of Being a Wallflower’, ‘The Bling Ring’ รวมไปถึงการรับบทเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์เวอร์ชันไลฟ์แอ็กชัน อย่าง ’Beauty and The Beast’ 

สการ์เลตต์ โจแฮนสัน

สการ์เลตต์ โจแฮนสัน (Scarlett Johansson) แสดงหนังครั้งแรกตอนอายุได้ 9 ขวบ โดยเธอรับบทเป็นลูกสาวของ จอห์น ริทเทอร์ (John Ritter) ในหนังที่มีชื่อว่า ‘North’ ซึ่งเรื่องนี้เธอได้มีโอกาสประกบคู่กับนักแสดงรุ่นราวคราวเดียวกัน อย่าง เอไลจา วูด (Elijah Wood) ที่ตอนนั้นอายุ 12 ปี และกำลังอยู่ในช่วงแจ้งเกิดเหมือนกันกับเธอ

พอตัวเองอายุได้ 12 ปี โจแฮนสันก็ได้แสดงหนังเรื่อง ‘Manny & Lo’ ซึ่งเธอรับบทเป็น อแมนด้า เด็กน้อยที่หนีออกจากบ้านอุปถัมภ์พร้อมกับพี่สาว ก่อนจะลักพาตัวผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งการแสดงของโจแฮนสันในเรื่องนี้ กลายเป็นก้าวสำคัญของเธอในวงการฮอลลีวูด 

โจแฮนสันมีผลงานเด่นอีกหลายเรื่องในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็นผลงานสุดคลาสสิกอย่าง ‘Lost in Translation’, ‘Lucy’, ‘Marriage Story’ และบทบาทฮีโรหญิงหนึ่งเดียวของกลุ่ม Avengers อย่าง นาตาชา โรมานอฟ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส