แม้ว่าจะปิดตัวไปแล้วสำหรับจักรวาลหนังมนุษย์กลายพันธุ์อย่าง X-Men ที่อยู่ภายใต้การสร้างของค่าย 20th Century Fox หลังถูกควบรวมกิจการกับค่าย Disney และ X-Men ก็เตรียมตัว homecoming กลับมาอยู่ใต้ชายคามาร์เวลหลังจากหนัง MCU เฟส 5 เป็นต้นไป แต่วันนี้ความลับหรือ Easter Egg บางอย่างของก็เพิ่งถูกเปิดเผยจาก Simon Kinberg ผู้เขียนบทมาเกือบทุกภาค และกำกับภาคสุดท้าย Dark Phoenix เมื่อปีที่แล้ว

Easter Egg ที่ว่านี้เกี่ยวข้องกับตัวละคร “มิสทีค” ที่นำแสดงไว้โดย Jennifer Lawrence และมีบทบาทสำคัญตลอดทั้ง 4 ภาคหลังที่ก็ต้องยอมรับว่า เธอทำให้หนังมีการแสดงของตัวละครที่ดีมากขึ้น และโดยเฉพาะกับ Days of Futre Past (2014) ที่เธอทำให้หนังภาคนี้สนุกที่สุดของ X-Men โดยในไตรภาคแรกตัวละครนี้รับบทโดย Rebecca Romijn ที่เล่นเป็นตัวประกอบคู่กับ “แม็กนีโต” ที่รับบทโดย Ian McKellen

Rebecca Romijn ใน X-Men: The Last Stand (2006)
Rebecca Romijn ที่มารับเชิญเป็นหนึ่งในโฉมร่างที่มิสทีคแปลงร่างเป็นคนอื่นใน X: First Class (2011)

แต่พอมาใน 4 ภาคหลังสุด บทนี้มีความสำคัญมากขึ้น เมื่อ “เรเวน” อีกชื่อของมิสทีคกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของ “ชาร์ล เซเวียร์” (James McAvoy) ที่อยู่กันมาตั้งแต่แรกที่พวกเขาเป็นเด็กกำพร้ากันทั้งคู่ เป็นคนที่ “บีสต์” (Nicholas Hoult) หลงรัก และหนังก็เพิ่งมาเฉลยใน Dark Phoenix นี้เองว่า แม็กนีโต (Michael Fassbender) ก็รักเธอแต่เธอไม่รู้อยู่ด้วยอีกคน (จริง ๆ หนังก็ให้เบาะแสมาในทุกภาค แต่แม็กนีโตไม่เคยเอ่ยปากยอมรับตรง ๆ)

Jennifer Lawrence ใน First Class (2011)
มิสทีค ใน First Class (2011)

ความลับที่ผู้เขียนบทเพิ่งบอกให้โลกได้รู้ อยู่ในภาค 5 Days of Futre Past (2014) โดยเป็นฉากที่มิสทีคบุกเข้าไปในทราสค์ อินดัสทรี และค้นเจอไฟล์ลับของมนุษย์กลายพันธุ์ที่เสียชีวิตไปแล้ว หนึ่งในนั้นคือ “อาเซเซล” ลูกสมุนของตัวร้ายจากภาค First Class (2011) อย่าง “เซบาสเตียน ชอว์” (Kevin Bacon) Kinberg ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเรารู้กันทุกคนใช่ไหมว่าอาเซเซลคือพ่อของเรเวน แต่ว่าเธอไม่รู้หรอกนะ” เมื่อชอว์ตายในตอนจบของภาค First Class และแม็กนีโตตั้งตัวขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มวายร้ายคนใหม่ อาเซเซลเข้าร่วมกับแม็กนีโต ต่อมาตัวละครนี้ถูกตัดออกไปจากเรื่องในภาค Days of Futre Past โดยถูกอธิบายในฉากที่มิสทีคไปเจอไฟล์ลับนี้แค่ว่า เขาถูกจับและตายไปแล้ว

Jason Flemyng รับบท อาเซเซลในภาค First Class (2011)
แก๊งตัวร้ายในภาค First Class (2011)

ในภาค First Class นั้นมีฉากที่ทีม X-Men สู้กับฝั่งวายร้ายของชอว์ แต่ก็ไม่มีฉากไหนที่จะบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ในฐานะพ่อลูกของอาเซเซลและมิสทีคเลย แฟน ๆ ของคอมิกอาจจะพอจำเนื้อหาในฉบับการ์ตูนได้ว่า อาเซเซลและมิสทีคนั้นเป็นคู่รักกัน ก็เลยพากันเดาไปว่าตัวละคร “ไนท์ครอว์เลอร์” (Kodi Smit-McPhee) ที่ปรากฎตัวในภาค Apocalypse (2016) เป็นครั้งแรกนั้นน่าจะเป็นลูกของทั้งคู่ (เพราะไนท์ครอวเลอร์เทเลพอร์ตย้ายตัวเองได้เหมือนอาเซเซล แต่ตัวสีฟ้าเหมือนมิสทีค) แต่ในฉากที่ถูกตัดทิ้งไปของภาค Apocalypse มีช่วงที่มิสทีคแซวไนท์ครอว์เลอร์ว่า เขาเป็นลูกของเธอกับบีสต์ซึ่งก็อาจจะเป็นการพูดจริง ๆ ไมได้แซว

ไนท์ครอว์เลอร์และมิสทีค ใน X-Men: Apocalypse (2016)
มิสทีคและบีสต์อาจจะเป็นแม่และพ่อของไนท์ครอว์เลอร์จริง ๆ (ภาพจากภาค First Class)

อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยเนื้อหาเกี่ยวกับครอบครัวของ มิสทีคกับอาเซเซล และไนท์ครอว์เลอร์นี้ ไม่กระทบกับเส้นเรื่องหลักที่ได้ชมกันไปแล้วทั้งหมด เพียงแค่เป็นเกร็ดเสริมให้แฟน ๆ คอมิกหายคาใจและให้แฟนหนังได้รู้รายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นเท่านั้น และก็เป็นการดีที่แฟน ๆ จะไม่ได้ต้องมีประเด็นนี้มาดึงความสนใจไปจากเนื้อหาหลักของเรื่องด้วย

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส