Tenet ที่กำลังเข้าฉายในโรงและปลุกความเงียบเหงาของทั้งโรงภาพยนตร์และในหมู่นักดูหนังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในรอบ 5-6 เดือนหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้ต้องยอมรับในฝีมือและหัวจิตหัวใจของผู้กำกับ Christopher Nolan ที่ขอเป็นผู้ออกหน้ายอมให้หนังเจ๊ง แต่ทำให้ผู้คนกลับมาดูหนังในโรง ต่อชีวิตผู้ประกอบการโรงหนังทั่วโลกอีกครั้ง (เขาต่อสู้กับผู้บริหารค่าย Warner Brothers อย่างมาก เพราะค่ายไม่อยากให้ฉายหนังปีนี้ด้วยซ้ำ และเสี่ยงอย่างมากที่หนังทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญฯ จะไม่ได้ทุนสร้างกลับคืน ถ้าฉายในช่วงเวลาอย่างนี้)

What the Fact ขอพาย้อนกลับไปดูความรอบจัด และฝีมือที่เรียกได้ว่ายืนหนึ่งของวงการฮอลลีวูดยุคปัจจุบัน (ยิ่งถ้าได้ไปดู Tenet ก็จะยิ่งตอกย้ำทั้งหมดที่พูดไปนี้มากขึ้นไปอีก) ตลอด 22 ปีกับหนังขนาดยาว 10 เรื่อง ทุกเรื่องคือหนังที่ได้รับการพูดถึงว่าแตกต่างและมีสไตล์ที่ไม่มีใครเคยเห็น และไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ ทั้งหนังสงคราม หนังซูเปอร์ฮีโร หนังโจรกรรมอาชญากรรม หนังนักมายากล และหนังทริลเลอร์สุดวกวนที่เล่นกับความคิดคนดูอย่างน่าอัศจรรย์

DUNKIRK (2017)

Kenneth Branagh in Dunkirk (2017)

อิงจากเหตุการณ์อพยพที่ Dunkirk หรือยุทธการไดนาโมในสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นยุทธการสำคัญของฝ่ายอังกฤษในการช่วยชีวิตทหารฝ่ายสัมพันธมิตรกว่า 330,000 นาย จากหาดและท่าเรือ Dunkirk ให้พ้นจากการปิดล้อมของฝ่ายเยอรมัน ”ความหวัง”ในสถานการณ์วิกฤตนี้ เมื่อทหารถูกล้อมกรอบ และถูกเครื่องบินข้าศึกบินมาโจมตี ซึ่งหนทางรอดเดียวมาจากชาวบ้านกับกองทัพช่วยกันนำเรือมารับ ทั้งเรือขนาดเล็กและเรือหาปลาออกสู่ทะเลใหญ่ ขับไปขับกลับซึ่งไม่ง่ายเลยเมื่อเทียบกับทหารนับแสนคน

  • นักแสดง: Tom Hardy, Kenneth Branagh, Cillian Murphy, Mark Rylance, Harry Styles, Jack Lowden
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 100 / 526 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์:
    • ชนะ 3 สาขารางวัล (ลำดับภาพยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม และผสมเสียงยอดเยี่ยม)
    • เข้าชิง 5 สาขารางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และองค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม)

ความแปลกใหม่ของ Dunkirk สำหรับการนำเสนอแบบ Nolan ก็คือ การเล่าผ่านจากสามมุมมอง บนอากาศ (เครื่องบิน), บนแผ่นดิน (ชายหาด) และบนทะเล (การอพยพโดยกองทัพเรือ) ซึ่งสำหรับทหารที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นในเส้นเวลาที่แตกต่างกัน รวมถึงความยาวของเหตุการณ์ทั้ง 3 มุมมองก็ไม่เท่ากันแต่มาเหลื่อมทับซ้อนกัน บนแผ่นดิน บางคนติดอยู่บนชายหาดร่วมสัปดาห์ บนน้ำ เหตุการณ์ยาวนานที่สุดก็ราวหนึ่งวัน และถ้าคุณบินไปยังดันเคิร์ก เครื่องบินรบของอังกฤษจะบรรทุกเชื้อเพลิงที่บินไปได้ราวหนึ่งชั่วโมง แต่เวลาสำหรับผู้ชมหนังแล้ว หนังความยาวเพียง 107 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 47 นาที ถือว่าเป็นหนังที่สั้นที่สุดในผลงานเกือบทั้งหมดของโนแลน ยกเว้น Following ที่เป็นผลงานเรื่องแรกในปี 1998 ที่ยาว 69 นาที

Tom Hardy ยังได้กลับมาร่วมงานกับ Nolan เป็นครั้งที่ 3 และต้องใส่หน้ากากนักบินแสดง ปกปิดใบหน้าเหมือนเมื่อตอนเล่นบท Bane ใน The Dark Knight Rises Nolan บอกว่าสำหรับ Hardy สิ่งที่เขาแสดงด้วยตาข้างเดียวก็เหนือกว่าใคร ๆ ที่ใช้ทั้งร่างกายแสดง นักแสดงที่ได้กลับมาร่วมงานกับ Nolan เป็นครั้งที่ 6 คือ Cillian Murphy ส่วนนักแสดงที่มารับบททหารวัยรุ่นซึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง Nolan เลือกใช้นักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด แต่ก็มี Harry Styles ศิลปินชื่อดังจากวง One Direction มาร่วมแสดงด้วย เขาไม่เคยเล่นหนังมาก่อนและก็เข้ามาทดสอบหน้ากล้องเหมือนกับคนอื่น ๆ จนได้รับบทไป

Aneurin Barnard, Harry Styles, and Fionn Whitehead in Dunkirk (2017)
Harry Styles, Aneurin Barnard และ Fionn Whitehead

Nolan ได้ค่าเหนื่อยจากการกำกับเรื่องนี้ 20 ล้านเหรียญฯ บวกกับส่วนแบ่งจากรายได้อีก 20% ซึ่งเป็นข้อตกลงเดียวกับเมื่อตอน Interstellar แต่หนังไม่ได้ทำรายรับทั่วโลกมากเท่า เรื่องน่ารู้ก็คือ 20 ล้านเหรียญฯ นั้น Nolan ให้ค่าย Warner จ่ายทั้งก้อนก่อนเริ่มถ่ายทำหนังด้วย (รายได้เฉลี่ยของผู้กำกับหนังฮอลลีวูดทั่วไปอยู่ที่ 750,000 เหรียญฯ) อย่างไรก็ตาม อาจด้วยเพราะหนังเน้นเล่าบรรยากาศของสงครามมากกว่าเนื้อเรื่อง ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในคนดูวงกว้าง ถึงอย่างนั้นก็มีคนแซวว่า อาจเพราะขาดนักแสดงนำโชคประจำหนังของ Nolan อย่าง Michael Caine มาร่วมแสดง หรือบทหนังไม่ได้ถูกเขียนโดย Jonathan Nolan

INTERSTELLAR (2014)

ในโลกอนาคตอันใกล้ โรคพืชเป็นสาเหตุที่จะทำให้มนุษย์อาศัยอยู่บนโลกไม่ได้อีกต่อไป อดีตนักบิน NASA อย่าง Cooper ที่ทำไร่อยู่กับครอบครัวของเขามีลูกสาวชื่อ Murph วัย 10 ขวบ เธอเชื่อว่าห้องของเธอถูกผีสิง โดยผีพยายามจะติดต่อสื่อสารกับเธอ ต่อมาพวกเขาไปเจอกับอากาศยานไร้คนขับของอินเดียที่พวกเขากู้มาเพื่อเอาอะไหล่ ไม่นานพวกเขาค้นพบว่า “ผี” ของ Murph ก็คือสิ่งที่ทรงภูมิปัญญาที่ไม่รู้จัก ส่งข้อความเข้ารหัสมาโดยใช้คลื่นความโน้มถ่วง ทิ้งพิกัดเลขฐานสองไว้บนฝุ่น ซึ่งได้นำพวกเขาไปสู่สถานที่ลับของ NASA นำโดยศาสตราจารย์ Brand

Brand เล่าให้ฟังว่า รูหนอนถูกสร้างโดยสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา ได้เปิดออกใกล้ ๆ กับดาวเสาร์ และเป็นทางนำไปสู่ดาวเคราะห์ใหม่ ๆ ในอีกกาแล็กซีหนึ่ง ซึ่งอาจให้ความหวังกับมวลมนุษย์ในการอยู่รอด นำไปสู่ “ภารกิจลาซารัส” ได้ระบุโลกที่มีโอกาสอยู่อาศัยได้สามดวง ซึ่งโคจรอยู่รอบหลุมดำมวลยวดยิ่งที่มีชื่อว่า กาแกนทัว ซึ่งตั้งชื่อตามนักบินอวกาศที่ออกสำรวจพวกมันไปแล้วแต่ไม่ได้กลับมา Brand ให้ Cooper มาเป็นผู้ขับยานอวกาศ “เอ็นดูแรนซ์” เพื่อเก็บกู้ข้อมูลของนักบินอวกาศชุดนั้น เดิมพันด้วยถ้าดาวเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งสามารถอยู่อาศัยได้ มนุษยชาติจะตามไปด้วยสถานีอวกาศ การออกเดินทางของ Cooper ทำลายความรู้สึกของ Murph ที่ดูเหมือนจะต้องสูญเสียพ่อไปตลอดกาล

Interstellar (2014)

บนยานเอ็นดูแรนซ์ Cooper เข้าร่วมกับลูกสาวของ Brand ที่เป็น นักเทคโนโลยีชีวภาพ นักวิทยาศาสตร์ Romilly และ Doyle รวมทั้งหุ่นยนต์ TARS และ CASE พวกเขาเดินทางไปดาวเสาร์ และเข้าไปในรูหนอนเพื่อมุ่งหน้าไปยังดาวมิลเลอร์ แต่พวกเขาพบว่าดาวเคราะห์นั้นอยู่ใกล้กับกาแกนทัวมากจนกระทั่งมันประสบกับการยืดของเวลาจากความโน้มถ่วงอย่างรุนแรง แต่ละชั่วโมงบนพื้นผิวดาวจะเท่ากับ 7 บนโลก ทีมได้ลงไปที่ดาวเคราะห์ซึ่งพิสูจน์ว่าไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย และ เมื่อพวกเขากลับมาที่เอ็นดูแรนซ์ เวลาก็ผ่านไปแล้ว 23 ปี

ส่วนบนโลก Murph ในวัยผู้ใหญ่กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ NASA ที่กำลังช่วย Brand แก้สมการที่จะทำให้ NASA ปล่อยสถานีอวกาศโดยใช้แรงโน้มถ่วงได้ Brand ถอดใจไปแล้วว่าสิ่งที่เตรียมการมาตลอดจะไม่มีวันได้ผล แต่ Murph ก็อาจจะค้นพบการแก้ปัญหาด้วยหลักซิงกูลาริตี้ของหลุมดำเชื่อมโยงกับ “ผี” ในห้องนอนของเธอตอนเด็กอย่างไม่คาดคิด

  • นักแสดง: Matthew McConaughey, Anne Hathaway, Jessica Chastain, Wes Bentley, Matt Damon, Michael Caine, Timothée Chalamet, Casey Affleck, Mackenzie Foy
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 165 / 705 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์:
    • ชนะ 1 สาขารางวัล (วิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม)
    • เข้าชิง 4 สาขารางวัล (เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผสมเสียงยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม และองค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม)

ความพิเศษของ Interstellar ที่มีมากไปกว่าความเป็นหนังท่องอวกาศ คือการพูดไปถึงเรื่องของหลุมดำและมิติพิเศษของสิ่งทรงภูมิปัญญานอกโลก ที่ทำให้ผู้ชมที่ดูในโรงหนัง ถ้าไม่อึ้งหรืองงเพราะไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเดินทางผ่านรูหนอนและมิติกาลเวลาที่ซับซ้อน Interstellar ยังเล่าเรื่องของเวลาที่ไม่เท่ากันระหว่างเดินทางในแต่ละดาว (แนวคิดคล้าย ๆ ในฝันแต่ละชั้นของ Inception) หรือคอมพิวเตอร์แท่งสี่เหลี่ยมสีดำที่ชื่อ TARS หรือ CASE ที่อดนึกถึง HAL 9000 ใน 2001: Space Odyssey (1968) ไม่ได้ แต่ Nolan ก็ยังไม่ทิ้งความสนุกแบบภาพยนตร์กับตัวละครเซอร์ไพรส์ และดราม่าความรักระหว่างพ่อลูกที่เอามาขยี้ให้ซาบซึ้ง

หนังที่มีเนื้อหาคล้ายกับ Contact (1997) หนังของ Robert Zemeckis ก็ถูกอธิบายได้ด้วยการที่หนังมี Producer คนเดียวกันนั่นคือ Lynda Obst ตอนเรื่อง Contact นั้นดัดแปลงจากนักเขียนนิยายวิทยาศาตร์ชื่อก้อง Carl Sagan แต่เขาเสียชีวิตในปี 1996 เธอจึงต้องไปขอคำปรึกษา Kip Thorne นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ที่รู้เรื่อง “การเดินทางข้ามรูหนอน” ดีที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ (หุ่นยนต์ของ Dr. Mann ตัวละครของ Matt Damon ที่ชื่อ KIPP มาจากชื่อของ Kip)

เมื่อได้พูดคุยกัน ทั้งคู่จะเริ่มเขียนบทร่างแรกของ Interstellar เพื่อหวังว่าสักวันจะถูกสร้างเป็นหนังจนกระทั่งบทร่างนี้ไปเตะตา Steven Spielberg ในปี 2006 และมอบหมายให้ Jonathan Nolan น้องชายของ Christopher เป็นคนเขียนบท แต่ Spielberg คิวแน่นมากจนกำกับไม่ได้ Jonathan ก็เลยเอาโพรเจกต์นี้ไปเสนอพี่ชายจนตกลงกำกับ (บทร่างแรกที่ Spielberg จะกำกับนั้นแตกต่างจากของ Nolan เช่น บทของ Murph จะเป็นผู้ชาย ฐานลับของ NASA จะซ่อนอยู่ในเกาะลับที่ต้องดำน้ำเข้าไป และมีกลุ่มนักบินลึกลับของจีนมาจอดบนดาวน้ำแข็งก่อนจะหายสาบสูญไปอย่างลึกลับ)

สถิติน่ารู้ของหนังเรื่องนี้ยังมีอีกว่า Nolan ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการจากหนังเรื่องนี้ โดยแบ่งเป็นค่าตัว 20 ล้านเหรียญฯ บวกกับ 20% ของรายได้รวม ซึ่งทำให้สุดท้ายแล้วเขาได้รับไป 121 ล้านเหรียญฯ หรือราว 3,600 ล้านบาท) หนังยังเป็นหนังที่ยาวที่สุดของ Nolan กับความยาว 169 นาที นอกจากนั้นหนังยังมีนักแสดงออสการ์มาแสดงมากคนที่สุดในเรื่องเดียวของ Nolan ถึง 6 คน ด้วยความที่ Nolan ไม่ชอบถ่ายหนังด้วยเอฟเฟกต์ ฉากไร่ข้าวโพดจำนวน 500 เอเคอร์ (1,265 ไร่) ภายหลังมีการนำข้าวโพดไปขายและทำกำไรได้เสียด้วย หรือฉากพายุฝุ่นในหนังไม่ได้สร้างจาก CG แต่ทำมาจากน้ำตาลเซลลูโลสแล้วใช้พัดลมขนาดใหญ่เป่าเข้าไปในฉาก

THE DARK KNIGHT RISES (2012)

Christian Bale and Tom Hardy in The Dark Knight Rises (2012)

8 ปีหลังจากเหตุการณ์ภาคที่แล้ว เมืองก็อตแธมกลายเป็นเมืองที่สงบสุข ด้วยอำนาจจากกฎหมายของ Dent ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจ Gordon สามารถกำจัดอาชญากรได้อย่างราบคาบ แต่ Gordon ยังคงรู้สึกผิดกับการปกปิดสิ่งที่ Harvey Dent ตอนที่เป็นมนุษย์สองหน้าทำเอาไว้ เขาตั้งใจที่จะเปิดเผยความจริงแต่ก็เปลี่ยนใจในที่สุดเพราะคิดว่าเมืองนี้ยังไม่พร้อมจะรับรู้ความจริง ต่อมา ระหว่างการติดตามเบาะแสคดีลักพักตัว ส.ส. จากงานเลี้ยง Gordon ถูกลูกน้องของ Bane จับตัว สุนทรพจน์ที่ Gordon เตรียมไว้เพื่อเปิดเผยความจริงจึงตกไปอยู่ในมือของ Bane Gordon มาได้แต่ถูกยิง

ในช่วงเวลาที่ Batman หายตัวไปจากเมืองก็อตแธม Bruce Wayne ก็หายตัวไปเช่นกัน เขาขังตัวเองอยู่ในคฤหาสน์ Wayne Enterprise ก็กำลังตกอยู่ในภาวะถดถอยหลังจากที่เขาลงทุนไปในโครงการพลังงานสะอาดของ Miranda Tate ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้กำเนิดพลังงานฟิวชัน แต่ Bruce ตัดสินใจปิดโครงการลงเนื่องจากได้ยินมาว่าแกนของเตาปฏิกรณ์สามารถถูกนำไปดัดแปลงกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์ได้ เมื่อ Bane ปรากฎตัวขึ้น Bruce จึงอยากจะกลับมาเป็น Batman อีกครั้ง แต่พ่อบ้าน Alfred ที่รู้จัก Bruce ดีที่สุด คัดค้านเรื่องนี้เนื่องจากเป็นห่วงอนาคตของ Bruce และตัดสินใจลาออกจากการเป็นพ่อบ้าน

Morgan Freeman and Christian Bale in The Dark Knight Rises (2012)

Bane กับพรรคพวกบุกตลาดหุ้นเพื่อสวมรอยเป็น Bruce Wayne และใช้สินทรัพย์ทั้งหมดของเขาลงทุนในหุ้นกลุ่มเสี่ยง ทำให้ Bruce Wayne ล้มละลายและเสียตำแหน่งบริหารใน Wayne Enterprise ไป แต่ดีที่ได้ Miranda Tate ยื่นมือเข้ามาช่วย ส่วน Batman ตามรอย Selina หรือ Catwoman หัวขโมยตีนแมวไปหา Bane ก่อนจะพบว่าเป็นกลลวง Batman ได้เผชิญหน้ากับ Bane ที่บอกว่าตัวเองเป็นหัวหน้าของพันธมิตรแห่งเงาตั้งแต่ตอนที่ Ra’s Al Ghul ตาย Bane เปิดเผยว่าเขากำลังปล้นแผนกวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ซึ่งเป็นที่รวบรวมอุปกรณ์ไฮเทคของ Batman พวกเขาต่อสู้กันและ Bane เอาชนะ Batman ได้ และทำการหักสันหลังของ Batman ก่อนจะนำเขาไปขังคุกหางไกลที่ว่ากันว่าไม่มีใครเคยหลบหนีออกไปได้ Batman จึงต้องหาทางออกจากหลุมนั้นและกลับมากู้เมืองที่ Bane ยึดไว้เป็นตัวประกันให้ได้

  • นักแสดง: Christian Bale, Tom Hardy, Anne Hathaway, Gary Oldman, Morgan Freeman, Marion Cotillard, Liam Neeson, Joseph Gordon-Levitt, Michael Caine, Cillian Murphy, Ben Mendelsohn
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 250 / 1,081 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์: ไม่ได้เข้าชิงรางวัล

ภาคต่อและภาคปิดท้ายที่ทุกคนรอคอย หลังจาก The Dark Knight สร้างปรากฏการณ์ไว้อย่างมากมาย แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีคนร้ายก่อเหตุกราดยิงในโรงหนังของเมืองออโรรา รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ในวันฉายวันแรกของหนัง The Dark Knight Rises 20 กรกฎาคม 2012 มือปืนเปิดฉากยิงใส่ผู้ชมภาพยนตร์ รอบปฐมทัศน์ตอนเที่ยงคืน ที่โรงภาพยนตร์ Cinemark ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บอีก 58 คน มือปืนสวมชุดเกราะกันกระสุนทั้งตัว และลงมือคนเดียวโดยเดินเข้าไปในโรงปล่อยระเบิดแก๊สน้ำตา จากนั้นจึงเปิดฉากยิงใส่ผู้ชมภาพยนตร์ด้วยอาวุธปืนหลายประเภท หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถจับกุมมือปืนได้หลังโรงภาพยนตร์โดยมือปืนชื่อ นายเจมส์ อีแกน โฮมส์ เป็นนักศึกษาปริญญาเอกอายุ 24 ปี การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์กราดยิงที่มีเหยื่อ (รวมผู้บาดเจ็ดและผู้เสียชีวิต) มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯและทำให้ Nolan และ Warner Brothers เลือกจะไม่ประกาศรายได้ของหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์ 3 วันของหนัง

Wally Pfister and Christopher Nolan at an event for The Dark Knight Rises (2012)
Tom Hardy in The Dark Knight Rises (2012)
Tom Hardy

Christian Bale กลายเป็นนักแสดงที่รับบท Batman มากที่สุดคือ 3 ครั้ง (แต่กำลังจะถูกทำลายสถิตินี้เมื่อ Ben Affleck กลับมารับบท Batman ในหนัง The Flash ที่มีการประกาศสร้างแล้ว) นักแสดงคนอื่น ๆ ก็มีทั้งที่เป็นขาประจำเจ้าเก่าในหนังของ Nolan ทั้ง Tom Hardy ที่ตอบรับเล่นหนังเรื่องนี้ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้รับบท Bane หรือตัวละครตัวไหน ระหว่างหนังสร้าง มีข่าวลือว่า จะมีการนำฟุตเตจของ Heath Ledger ในบท Joker กลับบมา และอาจมีตัวร้ายอย่าง Penguin ปรากฎตัวโดยนักแสดง Philip Seymour Hoffman (เสียชีวิตในปี 2014 จากการเสพยาเกินขนาด) แต่ Nolan ออกมายืนยันว่า Joker จบบทบาทไปแล้ว และ Penguin ก็ไม่เหมาะกับหนังของเขา

ส่วน Anne Hathaway ที่ได้ร่วมงานกับ Nolan ต่อไปใน Interstellar ก็ต้องไปศึกษาการแสดงของ Hedy Lamarr ที่เธอเลือกให้เป็นต้นแบบของตัวละคร Selina หรือ Catwoman โดยในบทนี้ เคยมีนักแสดงที่ถูกพิจารณาให้มารับบทไล่ตั้งแต่ Natalie Portman, Keira Knightley, Kate Mara, Gemma Arterton, Blake Lively รวมถึงมีนักแสดง 2 คนที่มาทดสอบหน้ากล้องบทนี้แล้วด้วยคือ Jennifer Lawrence และ Chloë Grace Moretz ส่วนบท Blake ผู้ช่วยของ Batman ที่เป็นของ Joseph Gordon-Levitt นั้นเคยถูกเสนอให้กับ Ryan Gosling มาก่อน นอกจากนั้น หนังยังเป็นการรวมตัวของนักแสดงศิษย์เก่า Inception ถึง 5 คน ได้แก่ Tom Hardy, Joseph Gordon-Levitt, Michael Caine, Marion Cotillard และ Cillian Murphy

Anne Hathaway in The Dark Knight Rises (2012)
Anne Hathaway
Joseph Gordon-Levitt

ระหว่างการถ่ายทำภาคนี้ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกเหมือนภาค 2 เมื่อสตันท์แมนของ Anne Hathaway ขับรถแบทพอดไปชนเข้ากับกล้องถ่าย IMAX เข้าอย่างจัง โดยในภาคนี้มีกล้อง IMAX พังไปถึง 2 ตัว ทำลายสถิติภาคก่อน The Dark Knight ที่พังไป 1 ตัว สนนราคากล้องต่อตัวราคา 500,000 เหรียญฯ หรือราว 1,500,000 บาท ซึ่งไอเดียการเอากล้อง IMAX มาใช้ถ่ายในกองเลย ก็เพราะ Nolan เชื่อมั่นในการถ่ายทำแบบ Old School ทั้งการถ่ายทำด้วยฟิล์ม ไม่ใช้กล้องดิจิทัล หรือการใช้กล้อง IMAX รวมถึงการไม่ใช้เอฟเฟกต์ ดังนั้นในฉากเดอะ แบท หรือเครื่องบินของมนุษย์ค้างคาวภายในเรื่อง จึงเป็นการเอาเดอะ แบท ไปแขวนด้วยลวดสลิงกับเครนหรือเฮลิคอปเตอร์จริงทั้งหมด นอกจากนั้น Nolan ก็ยังมีวิธีกำกับแปลก ๆ ตามสไตล์ก็คือ ไม่เขียนตอนจบของหนังไว้ในบท แต่ใช้วิธีบอกปากเปล่ากับนักแสดงทีละคน

(อ่านต่อหน้าถัดไป)

INCEPTION (2010)

Leonardo DiCaprio and Ellen Page in Inception (2010)

Copp ก่อตั้งทีมจารกรรมความคิด เขาและทีมงานจะเจาะเข้าไปในจิตใจของเป้าหมายผ่านทางการร่วมแชร์ความฝัน เพื่อดึงเอาข้อมูลลับที่เป้าหมายเก็บงำไว้ในจิตใต้สำนึกออกมา ซึ่งโดยมากแล้วจะเป็นการล้วงความลับทางธุรกิจ เป้าหมายรายล่าสุดของ Copp และทีมงานคือ Saito นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น Copp ล้วงข้อมูลของ Saito ผ่านทางความฝันซ้อนฝัน ซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลว แต่ Saito กลับยื่นข้อเสนอว่าจ้างทีมของ Copp ทำ Inception กับเป้าหมายของ Saito แทน

Inception คือวิธีแทนที่จะล้วงลึกไปถึงข้อมูลที่เป้าหมายเก็บซ่อนไว้ กลายเป็นการนำเอาข้อมูลที่ต้องการลงไปวางไว้ในจิตใต้สำนึกของเหยื่อแทน แม้จะไม่อยากทำเพราะเป็นงานยาก แต่ Saito ก็ยื่นข้อเสนอตอบแทนเป็นการล้มล้างความผิดที่ Copp เคยโดนข้อหาฆาตกรรมภรรยาตนเองในอดีต และจะได้สิทธิ์กลับเข้าสหรัฐฯ เพื่อเจอหน้าลูกอีกครั้ง Copp จึงตกลงและเริ่มต้นวางแผนการทำงานทันทีกับทีมงานระดับพระกาฬ

  • นักแสดง: Leonardo DiCaprio, Tom Hardy, Ken Watanabe, Joseph Gordon-Levitt, Cillian Murphy, Ellen Page, Marion Cotillard, Michael Caine, Pete Postlethwaite
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 160 / 833 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์:
    • ชนะ 4 สาขารางวัล (ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, ผสมเสียงยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม และวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม)
    • เข้าชิง 4 สาขารางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และองค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม)

ที่สุดแห่งหนังไซไฟในทศวรรษนี้ ซึ่งก็คงไม่เกินเลยไปจากความจริงที่ว่า นี่คือหนังที่สดใหม่ มาจากแนวคิดดั้งเดิมแท้ ๆ ของผู้กำกับ Christopher Nolan ที่สร้างหนังเรื่องนี้โดยได้เแรงบันดาลใจจาก James Bond รวมเข้ากับแนวคิดจิตวิทยา Inception ประกอบไปด้วยหลากหลายองค์ประกอบของความไซไฟ ไล่ตั้งแต่ การเดินทางเข้าไปในฝันซ้อนฝัน การขโมยความลับจากจิตใต้สำนึกระหว่างที่เหยื่อกำลังหลับ และหว่านจิตใต้สำนึกปลอมเพื่อเปลี่ยนความเป็นจริง หนังยังเต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนให้คนเดาว่านี่คือความฝันหรือเรื่องจริง ไปจนถึงฉากสุดท้ายที่กลายเป็นหนึ่งในฉากจบที่ชวนสงสัยที่สุดตลอดกาล

Leonardo DiCaprio and Christopher Nolan in Inception (2010)

Inception คือโพรเจกต์ในฝันของ Nolan ที่อยากจะทำมาตั้งแต่หนังเรื่องแรก ๆ แต่เขาก็รู้ว่า ในตอนนั้นบารมีของเขายังมีไม่มากพอจะขอทุนสร้างระดับ 160 ล้านเหรียญฯ จากค่ายหนัง หลังจากเสร็จ Insomnia (2002) เขาเริ่มเขียนโครงเรื่องของหนัง ความยาว 80 หน้าเกี่ยวกับจอมโจรขโมยฝัน Emma Thomas ภรรยาของโนแลนและนั่งแท่นโปรดิวเซอร์หนังทุกเรื่องของเขายังไม่ค่อยมั่นใจในตอนได้อ่านโครงเรื่องว่า สามีของเธอจะขายโพรเจกต์ผ่าน และเมื่อเขาได้ผ่านการทำหนังอย่าง The Prestige (2006) ที่ขายการเล่าเรื่องนักเล่นกลได้อย่างหักมุมซับซ้อน และหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์อย่าง The Dark Knight (2008) แล้ว เขาก็กลับมาจับสิ่งที่เขาใฝ่ถึงความฝันเสียที

Leonardo DiCaprio, Cillian Murphy, and Christopher Nolan in Inception (2010)

ตามสไตล์ผู้กำกับหนังแบบ Old School ที่ต้องคุมถ่ายเองทุกซีน นอกจากนั้นเขายังถ่ายหนังด้วยสถานที่จริงมากที่สุดอย่างแทบจะไม่พึ่ง CG เลย ดังนั้นฉากห้องโรงแรมที่ยกพื้นขึ้นให้เอียง 25 องศา ซึ่งนักแสดงและทีมงานก็ต้องเอียงตามตอนถ่ายทำกันไปด้วย หรือฉากโถงทางเดินหมุน 360 องศาที่เห็นจึงเป็นฉากที่ถูกสร้างขึ้นมาจริง ๆ (Joseph Gordon-Levitt ต้องซ้อมแสดงฉากเดินไปมาในฉากหมุนนั้นฉากเดียวอยู่ 2 สัปดาห์ก่อนแสดงจริง) หรือฉากรถไฟที่ชนแหวกแถวรถยนต์บนท้องถนนนั้น Nolan ก็ใช้รถไฟจริง ๆ มาถ่าย

ชวนอ่าน “ครบรอบ 10 ปี Inception ของ Christopher Nolan หนังไซไฟโจรกรรมที่ดีที่สุดตลอดกาล”

THE DARK KNIGHT (2008)

Heath Ledger in The Dark Knight (2008)

Batman ร่วมมือกับสารวัตร Gordon ออกกวาดล้างเหล่าทรชนในเมืองก็อตแธมจนเป็นที่โจษจัน คุณภาพชีวิตเมืองก็อตแธมก็ดีขึ้นมาก แต่ก็ยังมีชาวเมืองบางส่วนที่ไม่ชอบใจกับการตั้งตนเป็นศาลเตี้ยพิพากษาคนร้ายของเขา ต่อมาก็อตแธมก็ปรากฏวีรบุรุษคนใหม่ที่เล่นตามกติกาของบ้านเมือง นั่นคือ Harvey Dent อัยการหนุ่มไฟแรงที่ไม่เกรงกลัวต่อผู้ร้ายหน้าไหน แถมยังเป็นคนรักใหม่ของ Rachel แฟนเก่าของ Bruce Wayne ด้วย ขณะเดียวกันทางฝั่งของแก๊งต่าง ๆ ที่กำลังอยู่ไม่สุข ก็ปรากฏตัววายร้ายคนใหม่ที่ฝีมือสูสีกับ Batman อย่าง Joker

Joker อาสาจะกำจัดแบทแมนให้โดยไม่เลือกวิธีการ Joker ก่อวินาศกรรมป่วนไปทั่วเมืองอย่างคาดเดาไม่ได้ และสังหารผู้บริสุทธิ์ไปหลายคนโดยเรียกร้องให้แบทแมนออกมาเผยโฉมหน้าของตัวเอง มิฉะนั้นจะต้องมีคนตายทุกวัน หลังจากหารือกันแล้ว ระหว่าง Wayne, Gordon และ Dent เขาจึงตัดสินใจจะเผยตัวเอง แต่ Dent กลับชิงแกล้งเผยตัวไปก่อนว่าตนเองคือ Batman และยอมโดนจับไปเพื่อให้ Joker หยุดก่อการ

Christian Bale in The Dark Knight (2008)

แต่ Joker วางแผนจับตัว Dent ไปในระหว่างการส่งตัว Dent เข้าสู่ที่คุมขัง แต่นั่นกลับเป็นแผนการของทาง Batman และกรมตำรวจเองที่จัดฉากเพื่อล่อ Joker ออกมาติดกับ แต่ Joker ก็มีแผนตลบหลังพวกเขาอีกที ด้วยการจ้างตำรวจเลวในสถานีตำรวจลักพาตัว Dent และ Rachel ไปซ่อนไว้ในสถานที่ 2แห่ง และอาศัยช่วงที่แบทแมนและตำรวจออกไปช่วยทั้งคู่ ระเบิดสถานีตำรวจหลบหนีออกมาได้ ทั้ง Wayne และ Dent ต้องพบกับความสูญเสียคนที่รักที่สุด และ Dent ก็ถูกไฟไหม้ไปครึ่งตัวเนื่องจากแผนร้ายของ Joker ขณะเดียวกันชาวเมืองก๊อตแธมก็ถูกทดสอบศีลธรรมในจิตใจครั้งใหญ่ ที่ลำพังแต่เพียง Batman ก็คงไม่อาจต้านทั้ง Joker และด้านมืดของมนุษย์เมืองก็อตแธมได้พร้อมกัน

  • นักแสดง: Christian Bale, Heath Ledger, Aaron Eckhart, Michael Caine, Maggie Gyllenhaal, Gary Oldman, Morgan Freeman, Cillian Murphy
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 185 / 1,005 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์:
    • ชนะ 2 สาขารางวัล (นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Heath Ledger) และผสมเสียงยอดเยี่ยม)
    • เข้าชิง 6 สาขารางวัล (ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, ตัดต่อยอดเยี่ยม, องค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม, แต่งหน้าทำผมยอดเยี่ยม, ผสมเสี่ยงยอดเยี่ยม และวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม)

หนังที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรที่ดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งของโลก ถึงขนาดการไม่ได้เข้าชิงสาขารางวัลาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของหนัง กลายเป็นกระแสกดดันคณะกรรมการออสการ์ ทำให้หลังจากปี 2008 เป็นต้นมา หนังที่เข้าชิงสาขานี้จะไม่ถูกจำกัดจำนวนไว้ที่ 5 เรื่องอีกต่อไป นอกจากนั้น หนังก็เป็นหมุดหมายในการเรียกหนังซูเปอร์ฮีโรยุคหลังที่เน้นด้านมืดหม่นและความรุนแรงของเนื้อเรื่องว่า Post The Dark Knight ด้วย

Christian Bale, Heath Ledger, and Christopher Nolan in The Dark Knight (2008)

หนังได้ยกระดับการเป็นหนังฮีโรไปเป็นหนังอาชญากรรมที่ใช้จิตวิทยาในการเล่าเรื่องอย่างเข้มข้น ซึ่งองค์ประกอบสำคัญก็คือการแสดงเป็นวายร้ายหลักของเรื่องอย่าง Joker โดย Heath Ledger ที่กลายเป็นบทบาทที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา ที่แม้ว่าเขาจะไม่เสียชีวิตไปก่อนหนังฉายก็น่าจะได้รับรางวัลออสการ์จากบทนี้ไปครองอยู่ดี เขาทำการบ้านอย่างหนักเพื่อจะมารับบท อ่านนิยายภาพ Arkham Asylum และศึกษาหนัง A Clockwork Orange (1971) ของ Stanley Kubrick เพื่อนำมาออกแบบ Joker ส่วนแรงบันดาลในการออกแบบภาพลักษณ์ของ Joker ในเวอร์ชันนี้ของทีมงานก็มาจากใบหน้าของ Brandon Lee จาก The Crow (1994) ซึ่งเขาก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะถ่ายทำหนังเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน ส่วนแรงบันดาลใจต่อการนำเสนอ Joker ในมุมมองของเขามาจากหนัง The Testament of Dr. Mabuse (1933)

Aaron Eckhart and Christopher Nolan in The Dark Knight (2008)

ความสำเร็จของหนังสะท้อนผ่านตัวเลขรายได้ที่กลายเป็นหนัง Batman ที่ทำรายได้สูงสุดในทุกฉบับ กลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรที่รายรับทั่วโลกข้ามหลักพันล้านเหรียญฯ ได้เป็นเรื่องแรก และเพียงแค่ 6 วัน หนังก็สามารถทำรายได้ในสหรัฐฯ แซง Batman Begins ภาคแรกทั้งโปรแกรมฉาย ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังเกิดเรื่องราวเหมือนมีอาถรรพ์ตลอดการถ่ายทำ ทั้งการเสียชีวิตของ Ledger และ Conway Wickliffe ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนจนเสียชีวิต Bale ถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกายแม่และพี่สาว (เขาออกมาปฏิเสธ) รวมถึง Morgan Freeman ก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำแต่รอดมาได้

THE PRESTIGE (2006)

2 นักมายากลที่เคยเป็นเพื่อนกันอย่าง Alfred Borden และ Robert Angier เกิดต้องมาแตกหักกัน เมื่ออัลเฟรดทำให้คนรักของ Robert ต้องจบชีวิตอย่างไม่ตั้งใจ Robert จึงหาทางล้างแค้นทำลายการแสดงของ Alfred ก่อเกิดเป็นการจองเวรทำลายการแสดงของอีกฝั่งกันไปกันมา ทั้งด้วยเล่กลมนตร์คาถาชนิดที่เกทับบลัฟแหลก จนกลายเป็นสู้กันด้วยวิธีสกปรกไปในที่สุด

  • นักแสดง: Hugh Jackman, Christian Bale, Michael Caine, Scarlett Johansson, Rebecca Hall, David Bowie, Andy Serkis
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 40 / 109 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 2 รางวัลออสการ์ (ถ่ายภาพยอดเยี่ยม และองค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม)

The Prestige ดูเหมือนจะเป็นหนังที่ห่างไกลจากความเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดแล้วของ Nolan เพราะเล่ามาที่เรื่องราวโลกของนักมายากล 2คนที่เริ่มต้นจากความเป็นเพื่อนก่อนที่จะชิงดีชิงเด่นกันในท้ายที่สุด แต่ Nolan ก็ยังผูกเรื่องของวิทยาศาสตร์เข้ามาทำให้กลายเป็นหนังมายากลซับซ้อนและมีบทสรุปชวนหักมุม หนังสร้างจากแนวคิดพื้นฐานขั้นตอนการแสดงมายากล 3 ขั้น ได้แก่ The Pledge ตอนที่นักมายากลแสดงให้เห็นสิ่งของหรือเหตุการณ์ธรรมดาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, The Turn เมื่อนักมายากลแสดงให้เห็นถึงสิ่งผิดปกติที่เปลี่ยนไปของสิ่งของสิ่งนั้น และ The Prestige ตอนสุดท้ายเมื่อนักมายากลนำสิ่งของหรือเหตุการณ์ที่ผิดแปลกไปนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม (หนังเรื่องนี้ก็ใช้วิธีการนี้หลอกล่อคนดูจนจบเช่นกัน)

David Bowie in The Prestige (2006)
David Bowie

ความพิเศษหลายประการของหนังเรื่องนี้ ไล่ตั้งแต่การได้นักแสดงสุดหล่อมากฝีมือแห่งยุค 2คนโคจรมาเจอกัน อย่าง Hugh Jackman และ Christian Bale (Batman ของ Nolan) แล้วก็ยังได้ David Bowie ศิลปินนักร้องไอคอนระดับโลกผู้ล่วงลับที่ไม่ค่อยรับงานแสดงเท่าไร มารับบทเป็น Nikola Tesla ที่แต่งหน้าทำผมจนไม่เหลือเค้าเดิมของ Bowie เลย ปี 2006 ที่หนังเข้าฉายนั้นยังเป็นปีทองของหนังนักมายากล เพราะมี The Illusionist ที่นำแสดงโดย Edward Norton และ Scoop หนังของผู้กำกับ Woody Allen เข้าฉาย ซึ่งเรื่องหลังนี้ก็นำแสดงโดย Jackman และ Johansson เช่นกัน นอกจากนี้หนังมีฉากจัมพ์คั9 (ที่หมายถึงตัดต่อเปลี่ยนฉากไปจากฉากก่อนหน้า) มากถึง 146 ครั้ง แต่เชื่อว่า Tenet จะทำลายสถิติหนังที่มีจัมพ์คั9มากที่สุดของ Nolan แน่นอน

ชวนอ่าน “ดูครบทุกเรื่องหรือยัง? 12 “หนังหักมุม” ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล

BATMAN BEGINS (2005)

Bruce Wayne หวาดกลัวค้างคาวมาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งพ่อและแม่ของเขาได้พาเขาไปชมละครเวที ในละครเรื่องนั้นประกอบไปด้วยตัวละครที่มีลักษณะคล้ายค้างคาว เมื่อพวกมันปรากฏตัว Wayne ก็เกิดความกลัวและเร่งเร้าให้พ่อและแม่พาเขากลับบ้าน หลังจากที่เดินออกจากที่นั่น พ่อและแม่ของเขาก็ถูกสังหารโดยโจรจี้ปล้น Wayne เฝ้าโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อและแม่ของเขาเสียชีวิต หลายปีต่อมาหลังเรียนจบ เขากลับมายังเมืองก๊อตแธม เพื่อล้างแค้นฆ่าโจรคนที่ฆ่าพ่อแม่ แต่โจรคนนั้นได้ถูกกันไว้เป็นพยานให้การในคดีความของเจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ต่อมาเจ้าพ่อคนนั้นก็ก็ชิงสังหารโจรไปเสียก่อน Wayne ผิดหวังต่อตัวเองที่มุ่งแต่จะแก้แค้นโดยไม่สนใจความยุติธรรม เขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปในมุมต่าง ๆ ของโลก เพื่อทำความเข้าใจจิตวิญญาณของการเป็นอาชญากร

หลังจากนั้นถึง 7 ปี เขาถูกจับกุมที่ประเทศจีน โทษฐานที่เป็นขโมยและถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำของชาวภูฏาน เขาได้พบกับ Ducard ผู้เชิญให้เขาไปเข้าร่วมกับกลุ่มศาลเตี้ย “พันธมิตรแห่งเงา” (League of Shadows) ที่นำโดยหัวหน้ากลุ่มที่ชื่อ Ra’s Al Ghul ต่อมา Wayne ตอบตกลงเข้ากลุ่มฝึกวิชาการสู้รบร่วมกับกลุ่มทุกรูปแบบ โดยมีดูคาร์ดเป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอน จนเขาสามารถขจัดความกลัวในวัยเด็กของเขาได้ แต่เมื่อเขาได้รู้ว่า กลุ่มตั้งใจจะใช้เขาเพื่อเป็นเครื่องมือทำลายเมืองสกปรกโสมมอย่างก็อตแธม เขาจึงปฏิเสธความตั้งใจนั้นด้วยการทำลายฐานบัญชาการของกลุ่มและสังหาร Ra’s Al Ghul แต่เขาได้ช่วย Ducard เอาไว้ และกลับไปกำจัดอาชญากรและมาเฟียเพื่อฟื้นฟูก็อตแธมอีกครั้งในนาม Batman

  • นักแสดง: Christian Bale, Michael Caine, Gary Oldman, Liam Neeson, Katie Holmes, Cillian Murphy
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 150 / 373 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 1 สาขารางวัล (ถ่ายภาพยอดเยี่ยม)

ปฐมบทของหนังไตรภาคมนุษย์ค้างคาวอัศวินรัตติกาลที่ดีที่สุดจนถึงตอนนี้ และเป็นหนังที่ทำให้ Christopher Nolan กลายเป็นผู้กำกับสายเมนสตรีม กำกับการมาจับหนังแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร และนัยหนึ่งก็เป็นหนังที่กรุยทางให้หนังฮีโรกลายเป็นที่ยอมรับในเชิงคุณภาพด้วย (ต่อมาในปี 2008 ภาคต่อของเรื่องนี้และ Iron Man (2008) จากฝั่ง Marvel คือที่มา) ด้วยชื่อชั้นของ Nolan ทำให้หนังได้นักแสดงระดับแถวหน้าและได้ออสการ์ในเวลาต่อมาหลายคนมาร่วมงาน อย่าง Christian Bale เองที่ขอตั้งตนไม่รับเล่นหนังแฟรนไชส์ก็ยังมาเล่นหนังเรื่องนี้ด้วย ก่อนหน้านี้สองพี่น้อง Wachowski จาก The Matrix (1999) เคยถูกวางตัวให้มากำกับภาครีเมก Batman แต่พวกเขาเลือกจะไปทำภาคต่อหนังไซไฟเรื่องสร้างชื่อ

Christian Bale, Katie Holmes, and Jack Gleeson in Batman Begins (2005)

รายชื่อของนักแสดงที่เคยเกือบจะได้บท Bruce Wayne นี้ไปครองมีตั้งแต่ Aston Kutcher, Jake Gyllenhaal ซึ่งมือเขียนบท David S. Goyer เชียร์เป็นพิเศษ, Henry Cavil ที่ต่อมาได้มารับบท Superman, Heath Ledger ที่มารับบท Joker ในภาค2, Josh Hartnett และคนที่ Nolan เลือกก่อนจะเปลี่ยนใจเป็น Bale ก็คือ Cillian Murphy สุดท้าย Nolan ก็เลยมอบบทวายร้ายหุ่นไล่ก่าให้ และเป็นตัวร้ายเพียงตัวเดียวที่ปรากฏตัวตลอดทั้งไตรภาค

Bale คือคนแรกในทีมนักแสดงทั้งหมดที่ทดสอบบทผ่าน ส่วนคนสุดท้ายคือ Gary Oldman ที่ตอบตกลงมารับบท Jim Gordon ทั้งที่ยังไม่ได้อ่านบทเลย บทนี้เดิมที่ถูกเสนอให้ Chrirs Cooper มารับบท แต่เมื่อเขาปฏิเสธ Nolan จึงโยก Oldman จากเดิมที่ได้รับบท Ra’s Al Ghul (ภาษาอาระบิก แปลว่า หัวของปิศาจ) มาเล่นแทน ส่วนบทนี้ก็ตกเป็นของ Liam Neeson ในเวลาต่อมา Goyer มือเขียนบทบอกว่า บท Ra’s Al Ghu นั้นได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนบุคลิกและปูมหลังมาจากหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าน Osama bin Laden (บท Ra’s Al Ghu ยังเคยถูกเสนอให้ Daniel Day-Lewis กับ Viggo Mortensen ด้วย)

ความพิเศษของหนังเรื่องนี้อีกอย่างคือเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ได้สุดยอดนักทำเพลงถึง 2 คนมาทำ คนแรกคือ Hans Zimmer ที่เป็นขาประจำนักทำเพลงประกอบของ Nolan อยู่แล้ว ส่วนอีกคนที่ Zimmer ขอให้ Nolan มาช่วยทำเพลงด้วยคือ James Newton Howard ทั้งสองแบ่งพาร์ทการทำเพลงประกอบกันที่ช่วง Bruce Wayne กับ Batman (พวกเขาทำเพลงร่วมกันในภาค The Dark Knight ด้วย ก่อนที่ภาคสุดท้าย The Dark Knight Rises นั้น Howard ขอถอนตัวออกไปเพราะ “รู้สึกว่าเป็นส่วนเกิน” ตามเหตุผลที่แถลงออกมา)

(อ่านต่อหน้าถัดไป)

INSOMNIA (2002)

Al Pacino and Robin Williams in Insomnia (2002)

ตำรวจสืบสวนสองนายถูกส่งตัวจากลอสแอนเจลลิสเพื่อไปสืบคดีฆาตกรรมวัยรุ่นสาวคนหนึ่ง ณ เมืองที่ไม่มีกลางคืนในรัฐอะแลสกา ระหว่างการไล่ล่าคนร้าย ตำรวจอาวุโสเกิดพลั้งมือฆ่าตำรวจผู้น้อยที่กำลังมีปัญหาในการทำงานกันอยู่ คนร้ายเห็นเข้าจึงต้องการจะแบล็กเมล์ เรื่องราวตามล่าชิงไหวชิงพริบของหนึ่งตำรวจที่นอนไม่หลับเพราะแพ้แสงกับหนึ่งคนร้ายที่ดูจะมีแผนและเนื้อชั้นกว่าจึงเริ่มต้นขึ้น

  • นักแสดง: Al Pacino, Robin Williams, Hilary Swank, Katharine Isabelle, Maura Tierney
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 46 / 113 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์: ไม่ได้เข้าชิงรางวัล

ผลงานของ Nolan ที่ส่งให้เขาได้มากำกับ Batman Begins เป็นหนังอาชญากรรมตามแนวถนัดที่เขาทำมาทุกเรื่อง แต่เมื่อมากางผลงานดูก็พบว่าเรื่องนี้ มีชั้นเชิงในการนำเสนอน้อยที่สุดในบรรดาทุกเรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าหนังไม่น่าสนใจหรือต่ำกว่ามาตรฐาน เพียงแต่หนังไม่มีการหักมุม ไม่มีการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงตามลำดับเวลาไปมา Insomnia เป็นหนังดัดแปลงเรื่องเดียวที่ Nolan สร้าง (ไม่ใช่หนังที่เขาหรือน้องชายเขียนบทขึ้นมาเองตั้งแต่ต้น) เขาจึงไม่ได้รับเครดิตเขียนบท โดยดัดแปลงมาจากต้นฉบับหนังนอร์เวย์ชื่อเดียวกันของผู้กำกับ Erik Skjoldbjærg

Robin Williams and Christopher Nolan in Insomnia (2002)
Al Pacino, Hilary Swank, and Martin Donovan in Insomnia (2002)

หนังเป็นการรวมตัวของนักแสดงออสการ์ล้วนทั้ง 3 คนคือ Al Pacino, Robin Williams และ Hilary Swank โดยบท Will Dormer (ผันคำมาจาก dormir ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “นอนหลับ” เคยเกือบจะเป็นของ Harrison Ford ที่ปฏิเสธไป หนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังเพียง 2 เรื่องจากทั้งหมดของ Nolan ที่เป็นหนังที่สร้างโดยสตูดิโอและไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เลย (อีกเรื่องคือ The Dark Knight Rises (2012)) อย่างไรก็ตาม หนังก็ยังจัดเป็นหนังอาชญากรรมฟิล์มนัวร์มีสไตล์ที่ยังถูกพูดถึงและถูกตามหาดูมากที่สุดเรื่องหนึ่งมาจนถึงปัจจุบัน

MEMENTO (2000)

Leonard ชายหนุ่มความจำสั้น เขาต้องประสบกับเหตุคนร้ายบุกมาข่มขืนภรรยาตัวเอง และใช้ไม้ทุบหัวทำให้เขาความจำเสื่อม เป็นเหตุให้เขาสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ขึ้นมาไม่ได้ ภาพจำสุดท้ายของเขาก็คือ ฉากที่เห็นภรรยาของตัวเองกำลังโดนโจรทำร้าย Leonard จึงต้องใช้การถ่ายภาพ และรอยสักเป็นตัวเตือนความจำว่าตัวเองคือใคร กำลังทำอะไรอยู่ โดยมีเป้าหมายสำคัญก็คือ สืบหาตัวคนร้ายที่ฆ่าภรรยาเขาให้ได้

  • นักแสดง: Guy Pearce, Carrie-Anne Moss, Joe Pantoliano, Stephen Tobolowsky
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 9 / 39 ล้านเหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์: เข้าชิง 2 สาขารางวัล (บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และตัดต่อยอดเยี่ยม)

โรคที่ Leonard ตัวละครหลักของเรื่องเป็นนั้นมีอยู่จริง นั่นคือโรค Anterograde Amnesia หรือโรคภาวะสูญเสียความจำไปข้างหน้า นอกจากนี้ Memento ก็ยังเป็นหนังที่ Nolan เลือกจะเล่าแบบมีทั้งภาพสีและภาพขาวดำอย่างละครึ่งจากทั้งหมด 44 ซีน ทีแรก Nolan อยากจะใช้บริการตากล้องมือถ่ายทำอย่าง Peter Deming แต่เขาเกิดติดคิวงานถ่ายทำหนัง Scream 3 (2000) เลยทำให้ Nolan ได้รู้จัก Wally Pfister และกลายเป็นผู้กำกับคู่บุญกันตั้งแต่นั้นมา ส่วนบทนั้นเป็นเขียนโดยน้องชาย Jonathan Nolan (ต่อมาเป็นผู้สร้างซีรีส์ดัง Westworld) อ้างอิงจากเรื่องสั้น Memento Mori แต่เรื่องสั้นตีพิมพ์หลังหนังฉายไปแล้ว

Joe Pantoliano, Guy Pearce, and Christopher Nolan at an event for Memento (2000)

บท Leonard นั้นที่แรก Nolan หมายถึง Alec Baldwin เอาไว้ว่าอยากจะให้มารับบทนี้ ก่อนที่บทจะถูกเสนอไปให้นักแสดงอีกหลายคนเช่น Aaron Eckhart, Brad Pitt, Charlie Sheen และ Thomas Jane แต่สุดท้ายทุกคนบอกผ่าน จนบทนี้ตกมาถึงมือ Guy Peace

บท Natalie ของ Carrie-Anne Moss เธอใช้เวลาถ่ายทำไปทั้งหมดแค่ 8 วันเท่านั้น (จากทั้งหมด 25 วัน) ทีแรก Nolan ได้วางตัว Mary McCormack เอาไว้แล้วแต่โปรดิวเซอร์ของหนังที่ได้ดู The Matrix (1999) เกิดชอบการแสดงของเธอในเรื่องนั้น เลยมาแนะนำ Nolan จนเปลี่ยนใจในที่สุด และก่อนหน้านี้บทเคยถูกเสนอให้นักแสดงอย่าง Angelina Jolie, Ashley Judd และ Famke Janssen มาก่อน

FOLLOWING (1998)

Jeremy Theobald in Following (1998)

ชายคนหนึ่งเลือกจะมีอาชีพสะกดรอยผู้คนตามท้องถนนไปเรื่อย ๆ แต่แล้ววันหนึ่งดันไปสะกดรอยหัวขโมยใส่สูทผู้ไม่ได้ขโมยเงิน แต่ชอบจัดฉากหรือปลอมตัวเป็นคนอื่น ชายสะกดรอยจึงได้เรียนรู้การเป็นหัวขโมยพรีเมี่ยมและตกหลุมพรางโลกแห่งการหลอกลวงไปพร้อม ๆ กัน

  • นักแสดง: Jeremy Theobald, Lucy Russell, John Nolan
  • ทุนสร้าง/รายรับรวมทั่วโลก: 6,000 / 48,482 เหรียญฯ
  • รางวัลบนเวทีออสการ์: ไม่ได้เข้าชิงรางวัล

งานชิ้นแรกของ Nolan ที่เป็นเหมือนงานแนะนำตัว แต่ว่าไม่ได้ฉายเมนสตรีมหรือฉายในวงกว้างมากนัก หนังทำเป็นขาวดำ และใช้เวลาดำเนินเรื่องแค่ 69 นาที แต่ก็กระชับและเหมาะกับเนื้อหาของหนัง หลายสิ่งที่เป็นลายเซ็นหรือเอกลักษณ์ของเขาถูกวางไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่เรื่องแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในโลกอาชญากรรม การเล่าเรื่องไม่เรียงลำดับเวลา ตัวละครหลักเป็นผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมความคิดของคนอื่น ตัวละครหัวขโมยใส่สูทชื่อ Cobb (ชื่อเดียวกับบทของ Leonardo ใน Inception ซึ่งว่ากันว่ามีบุคคลิกลักษณะเหมือนตัวของ Nolan เอง) เงื่อนไขที่บอกว่าทุกคนมีกล่องซึ่งใส่ของที่เป็นสิ่งบ่งลักษณะเฉพาะของตัวและมีแต่ตัวเองเท่านั้นที่รู้ว่าของนั้นมีความหมายอย่างไร (เช่นเดียวกับ Totem ใน Inception) หรือที่น่าประหลาดใจโดยบังเอิญที่สุดคือ สติกเกอร์ Batman ที่ถูกแปะอยู่หน้าประตูของตัวละครหลัก ซึ่งขณะนั้น Nolan คงไม่รู้ว่าตัวเองจะได้มากำกับไตรภาค The Dark Knight

Following เรื่องนี้ที่เป็นหนังทุนต่ำที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล ครองตำแหน่งในอันดับ 17 โดย Nolan ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ชีวิตของผู้คนในลอนดอนและการลักเล็กขโมยน้อยในอพาร์9เมนต์ นักแสดงทุกคนในเรื่องล้วนเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของ Nolan เพราะต้องจำกัดงบในการสร้าง ยกเว้นนักแสดงสาวผมบลอนด์ที่ต้องจ้างมาก หนังจะใช้เวลาถ่ายทำแค่วันเสาร์ของทุกสัปดาห์เป็นเวลา 4 เดือน เพราะเป็นวันที่นักแสดงและทีมงานว่างจากวันทำงานประจำ

อ้างอิง: The Hollywood Reporter, Variety, Deadline, Screenrant, Screencrush, Movieweb

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส