ในสัปดาห์หน้านี้ HBO Max จะปล่อยตัวอย่างใหม่ของมินิซีรีส์ Zack Snyder’s Justice League ทั้งหมด 4 ตอน ตอนละ 1 ชั่วโมงซึ่งจะปล่อยให้ได้ชมกันปีหน้า ในช่วงที่ผ่านมามีรายงานความเคลื่อนไหวมากมายที่น่าสนใจ ทั้งการกลับมารับบท Joker อีกครั้งของ Jared Leto รวมถึงบท Deathstroke ของ Joe Manganiello นอกจากนี้ ประเด็นดราม่าของนักแสดงกับผู้กำกับคนเก่าอย่าง Joss Whedon ก็ดูเหมือนจะไม่ได้หยุดลงแต่อย่างใด

ผู้กำกับ Zack Snyder ตอนยังไม่ถอนตัวจาก Justice League (2017)
ผู้กำกับ Zack Snyder ตอนยังไม่ถอนตัวจาก Justice League (2017)

มีรายงานว่า ผู้กำกับ Zack Snyder ได้ถ่ายฉากใหม่เพิ่มเติมของตัวละคร The Flash ของ Ezra Miller ร่วมกับนักแสดงชุดเก่าอยู่หลายคน Miller นั้นอยู่ระหว่างถ่ายทำหนัง Fantastic Beasts 3 อยู่ที่ลอนดอนตอนนี้ Snyder เล่าให้สื่ออย่าง Beyond the Trailer ฟังว่า เขาถ่ายทำฉากใหม่ของ The Flash ผ่านโปรแกรม Zoom แทน ทำให้คอหนังได้เห็นวิธีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการกำกับภาพยนตร์ที่ล้ำไปอีกขึ้น

ผมต้องถ่ายฉากของ Ezra และตอนที่เราถ่าย มีทางเดียวคือต้องเอาเขาออกจากกองถ่าย Fantastic Beasts ซึ่งอยู่ในลอนดอนมาให้ได้ แต่โชคร้ายที่พวกเราก็เดินทางไปลอนดอนไม่ได้ เราก็เลยเจอเขาและทีมงานของ Fantastic Beasts ใน Zoom…

ผมอยู่ต้นทางและเขาอยู่ที่กองถ่ายของเขาที่ปลายทาง เรามีจอมอนิเตอร์ 3 ตัวสำหรับผมเพื่อให้ผมเห็นกองถ่าย Ezra และกล้องไปพร้อม ๆ กัน ผมเดาว่าทางโน้นเขาคงติด iPad ที่มีผมอยู่ไว้บนขาตั้ง ผมเลยเหมือนกับอยู่บนรถควบคุมทางไกลที่สามารถเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ได้ สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี” Snyder ให้สัมภาษณ์ไว้

และเมื่อมีการถามถึงเรื่องการถ่ายซ่อมในมินิซีรีส์ที่จนถึงตอนนี้มีนักแสดงกลับมาเข้าฉากไปแล้ว 5 คน คือ Ben Affleck, Amber Heard และ Ray Fisher (อีก 2 คนตามที่บอกไปแล้วตอนต้น) อย่างไรก็ตาม การถ่ายซ่อมครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะ Snyder เล่าว่า เป็นฟุตเตจที่ถ่ายเพิ่มมาแค่ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้แฟน ๆ รู้จริง ๆ อย่างที่เข้าใจมาตลอดว่า Justice League ฉบับ Snyder’s Cut นั้นมีอยู่จริงมาตลอด (จึงแทบไม่ต้องถ่ายใหม่เพิ่มในที่นี้)

แต่ที่ฟุตเตจส่วนใหญ่ไม่ได้นำมาใช้เลยในฉบับฉายโรง ก็เป็นเพราะการตัดสินใจของผู้กำกับคนใหม่ที่มาคุมงานในเวลานั้นอย่าง Joss Whedon ที่มองเห็นหนัง Justice League เป็นคนละทางกับ Snyder เลย สำหรับงบประมาณสำหรับมินิซีรีส์ฉบับนี้อยู่ที่ 70 ล้านเหรียญฯ ที่ครอบคลุมทั้งค่าจ้างนักแสดงกลับมาถ่ายซ่อม ค่าโพรดักชันต่าง ๆ และการทำวิชวลเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ด้วย

นอกจากนี้ Snyder ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Nerd Queens กับคำถามที่ว่าถ้าหนัง Justice League จะมีภาค 2 เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ซึ่งฟังดูคำตอบแล้วก็ดูกึ่งแบ่งรับแบ่งสู้และต้องถือว่าไม่ค่อยจะได้คำตอบนัก แต่ก็พอทำให้รู้ว่า จริง ๆ แล้วเขาเองก็มีแผนการสำหรับภาค 2 ไว้แล้วเหมือนกัน

ผมจะบอกแก่โลกว่ายังไง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ Darkseid (ตัวร้ายของเรื่องในฉบับตัดต่อใหม่ตอนนี้ของเขา) มายังโลก จากนั้นจะเป็นยังไงต่อ ความจริงแล้ว ผมได้คิดเรื่องที่สมบูรณ์ไว้ไหมเหรอ? ผมรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Darkseid มา คำตอบคือใช่ ผมรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ส่วนนักแสดงที่ดูจะมีปัญหามากในการถ่ายทำสมัย Whedon ก็คือ Ray Fisher เจ้าของบทคนครึ่งหุ่นยนต์อย่าง Cyborg ตัวละครที่มีปมเรื่องของความเป็นมนุษย์อยู่มาก แต่ Whedon แทบจะเล่าเรื่องของตัวละครตัวนี้ออกมาอย่างกลวงเปล่า ซึ่งเขาก็ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Geek House Show ถึงประเด็นที่ตัวละครของเขาถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในหนังฉบับฉายโรงปี 2017

ผมบอกคุณได้แค่ว่าสิ่งที่คุณได้เห็นในหนังฉบับฉายโรง ผม่ไม่ต้องถ่ายซ่อมอยู่ฉากเดียวคือ ฉากดาดฟ้าสถานีตำรวจก็อตแธมที่ผมอยู่กับหมวด Gordon, Wonder Woman, Batman และ The Flash Fisher กำลังจะบอกว่าฉากอื่น ๆ ที่เขาปรากฏตัวในหนังนั้นล้วนมาจากการถ่ายซ่อม

https://twitter.com/Snyderspecific/status/1323323142689988611

Fisher ยังได้ออกมาโจมตี Joss Whedon ถึงวิธีการทำงานที่ไม่เป็นมืออาชีพและสร้างความอึดอัดใจให้กับทีมงานและนักแสดง แถมซ้ำอีกเรื่องถึงดราม่าที่เกิดขึ้นในกองถ่ายระหว่างผู้กำกับกับนักแสดงผิวดำอีกด้วย Fisher ให้สัมภาษณ์กับ Forbes ไว้ว่า

สิ่งที่ทำให้ผมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็เพราะว่า ผมรู้มาว่า Joss Whedon สั่งให้ทีมงานเปลี่ยนสีผิวของเหล่านักแสดงในช่วงกระบวนการตัดต่อ เพราะ Whedon ไม่ชอบสีผิวของพวกเขา คุณคิดดูสิ…นี่มันปี 2020 แล้วนะ ทำไมเขาถึงมีความคิดแบบนั้นละ?”

Ray Fischer โพสต์ภาพใหม่จาก Justice League

ในขณะที่ตัวแทนของ Joss Whedon ก็ออกมาตอบโต้ว่า

Whedon ขอยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่มันเป็นแค่หนึ่งในขั้นตอนของการผลิตภาพยนตร์ทุกเรื่องอยู่แล้ว การแก้สีของภาพยนตร์เพื่อกำหนดอารมณ์และโทนของภาพยนตร์เป็นเรื่องปกติ Zack Snyder ถ่ายทำ Justice League ด้วยระบบฟิล์ม ส่วนการถ่ายทำของ Joss Whedon นั้นถ่ายด้วยระบบดิจิทัล การแก้สีจึงต้องเกิดขึ้น เพื่อให้ภาพของทั้ง 2 ระบบกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์”

ซึ่งจากคำพูดของทั้งสองฝั่งก็อาจจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันจากคนละมุมมองก็เป็นได้ เพราะขั้นตอนเทคนิคของการแก้สีตามเหตุผลที่ตัวแทนของ Whedon ออกมาบอกนี้นั้นก็เป็นเรื่องปกติจริง ๆ ส่วน Fisher ก็อาจจะมีอคติมากเกินไปจากเหตุดราม่าต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ระหว่างเขากับ Whedon ก็เป็นได้ เพราะไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่า นักแสดงผิวดำคนไหนที่ถูกปรับแก้สีผิวมากไปกว่าการแก้สีของหนังทั้งฉาก แต่นี่ก็อาจเป็นการยืนยันถึงดราม่าของทีมงาน Justice League เวอร์ชัน 2017 ได้อีกประเด็น

Justice League Snyder Cut

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส