เรียกว่ากลับมาได้แบบไม่น่าเชื่อเหมือนคนที่โดนบาทาจากคนเล่นเกมทั่วโลกรุมกระทืบจนเละไม่มีชิ้นดี แต่กลับฟื้นคืนชีพมาได้อย่างสง่างามของเกม ‘Cyberpunk 2077’ หรือที่บ้านเราเรียกเกมนี้ว่า “ไซเบอร์พังก์ 2022” ที่คนเล่นเกมจะทราบดีว่าตัวเกมนี้ถูกสร้างมายังไม่เสร็จแต่ก็ฝืนออกวางขาย จนทำให้คนที่ซื้อเกมไปสาปส่งด่าไปทาง ‘ CD Projekt Red’ ค่ายที่ผลิตเกมนี้ออกมาขาย จนเมื่ออนิเมะ ‘Cyberpunk Edgerunners’ ของ ‘Netflix’ ปล่อยออกมา ก็กู้ชื่อเสียงที่เคยตกต่ำของเกมนี้ขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด จนทำให้ตัวเกมมียอดคนเล่นและซื้อเกมนี้มากขึ้น บวกกับที่ตัวเกมก็ได้เพิ่มฉากเสื้อผ้าไปจนถึงสิ่งต่าง ๆ ในการ์ตูนเรื่องนี้ลงไปในเกม ทำให้เกมกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จนหลายคนอาจจะสงสัยว่าอนิเมะเรื่องนี้มีอะไรน่าสนใจทำไมคนถึงชอบกัน วันนี้เรามาวิเคราะห์เรื่องราวของ ‘Cyberpunk Edgerunners’ กันว่าจะมีประเด็นอะไรที่คุณคิดไม่ถึงบ้าง รวมถึงการเจาะลึกลงไปในปมของตัวละครที่แฝงอยู่ในเรื่องที่คุณอาจจะลืมคิดไป มาดูกันว่าเรื่องราวของเหล่าหนูขยะเหล่านี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็เขาระบบมาดูไปพร้อมกันเลย

คำเตือน เนื้อหาในบทความจะมีการเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดใน ‘Cyberpunk Edgerunners’ ใครที่ยังไม่เคยดูอาจจะถูกเปิดเผยเนื้อเรื่องได้ ควรไปดูมาก่อนแล้วจะอ่านบทความได้เข้าใจมากขึ้น

Cyberpunk Edgerunners

ทำความรู้จัก Cyberpunk Edgerunners และ Cyberpunk 2077

Cyberpunk Edgerunners

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาเรามาทำความรู้จักอนิเมะการ์ตูน ‘Cyberpunk Edgerunners’ กันก่อนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพื่อให้หลายคนได้รู้จักจักรวาลนี้มาขึ้น โดยเรื่องแรกที่คุณต้องรู้คืออนิเมะเรื่องนี้สร้างมาจากเกมในชื่อ ‘Cyberpunk 2077’ ซึ่งเรื่องราวใน ‘Cyberpunk Edgerunners’ จะเป็นเรื่องราว 1 ปีก่อนเรื่องราวในเกม ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องเล่นหรือรู้จักเกมนี้มาก่อนก็สามารถรับรู้เรื่องราวในอนิเมะเรื่องนี้ได้ ซึ่งตัวเกมได้สร้างเสียงก่นด่าให้กับแฟนเกมทั่วโลกเพราะปัญหาของเกมที่เหมือนยังทำไม่เสร็จแต่ก็วางจำหน่าย แม้ตัวเกมจะมี คีอานู รีฟส์ (KeanuReeves) พระเอกสุดหล่อมาเป็นตัวละครหลักในเกมก็ไม่ช่วยให้เกมนี้ถูกด่าน้อยลงไปเลย (นี่ยังไม่นับการโม้ของค่ายเกมว่าเกมเราจะมีแบบนั้นแบบนี้ก่อนเกมออกวางจำหน่าย แต่พอเกมออกมาจริง ๆ กลับทำได้ไม่ถึงครึ่งที่โม้ไป) แต่ทางค่ายเกมก็พยายามออกมาแก้ไขจนตอนนี้ตัวเกมสามารถเล่นได้เกือบสมบูรณ์ แต่ก็ยังเรียกความมั่นใจให้แฟนเกมไม่ได้ จนเมื่ออนิเมะ ‘Cyberpunk Edgerunners’ ออกมาก็ทำให้คนกลับไปเล่นเกมนี้อีกครั้ง เพราะเราจะได้เห็นฉากในอนิเมะอยู่ในเกมนี้มากมายที่นักพัฒนาใส่ลงไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านของ เดวิด มาร์ติเนซ (David Martinez) และชุดของเขาที่ถูกเพิ่มมา รวมถึงตัวละครหลาย ๆ คนที่อยู่ในเรื่องนี้ก็ไปปรากฏตัวในเกม โดยเฉพาะ อดัม สแมชเชอร์ (Adam Smasher) ที่หลายคนอยากไปแก้แค้นให้ รีเบคก้า (Rebecca) ที่คุณจะอินกับจักรวาลของเรื่องนี้มากขึ้นและตัวเกมยังมีซับภาษาไทยด้วย ลองไปหามาเล่นดูแล้วคุณจะรู้ว่า ‘Night City’ นั้นน่าอยู่ขนาดไหน

Cberpunk 2077 
Cyberpunk Edgerunners

Night City จักรวาลของ Cyberpunk Edgerunners และ Cyberpunk 2077

Cyberpunk Edgerunners

คราวนี้เรามาทำความรู้จักเมืองแสนสวยที่เป็นฉากของเรื่องราวในอนิเมะและเกมอย่างเมือง ‘Night City’ ที่เป็นโลกในอนาคตช่วงปี 2076 ที่เป็นโลกแนว ‘Dystopia’ ที่หมายถึง “สถานที่เลวร้ายแต่มนุษย์ก็สามารถอยู่ได้” ที่เต็มไปด้วยคอร์รัปชันอาชญากรรม ซึ่งเป็นโลกที่มนุษย์ทุกคนจะถูกปลูกฝังเครื่องจักรที่เรียกว่า ‘Cybernetic’ วิทยาการที่เกี่ยวกับการควบคุมติดต่อผ่านเครื่องจักร ที่มนุษย์ทุกคนจะถูกเปลี่ยนตัวเองให้มีชิ้นส่วนของเครื่องจักรเพื่อการอยู่รอด (บางคนก็เอาร่างเนื้อชิ้นส่วนร่างกายไปขายและสวมเครื่องจักรทดแทนสำหรับคนจน) ซึ่งก็มีคนบางส่วนที่ดัดแปลงตัวเองเพื่อการก่ออาชญากรรม ทั้งแบบทางตรงด้วยการติดตั้งอาวุธที่ผิดกฎหมายที่เรียกว่า ‘Cyberpunks’ ไปจนถึงการติดตั้งการเจาะข้อมูลของคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า ‘Netrunner’ ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในเมือง ‘Night City’ ที่ฉากหน้าก็ดูเป็นเมืองที่ผู้คนมีความสุขแต่ฉากหลังกลับเต็มไปด้วยผู้คนที่ไร้หนทางต้องเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ ขณะที่บริษัทใหญ่ก็กัดกินเมืองแบ่งปันผลประโยชน์จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ที่คนจนจะเป็นแค่คนไร้ค่าเป็นหนูในกองขยะ ส่วนคนรวยคือคนที่ควรรักษาเอาไว้ ที่ไม่ต่างอะไรกับโลกแห่งความจริงตอนนี้ ซึ่งเรื่องราวใน ‘Cyberpunk Edgerunners’ ต้องการบอกเราก็คือ “จงดิ้นรนต่อสู้เพื่อตัวเองแต่อย่าดิ้นรนเพื่อคนอื่นไม่อย่างนั้นคุณจะเป็นแค่เศษเนื้อในกองขยะที่ไร้ค่า”

Cberpunk 2077 
Cyberpunk Edgerunners

David Martinez ชายผู้ไร้ความฝันที่แบกความฝันของคนอื่น

Cyberpunk Edgerunners

คราวนี้มาดูการวิเคราะห์เจาะลึกเข้าไปในตัวละครกันบ้าง ซึ่งคนที่น่าสนใจในการวิเคราะห์ก็คือตัวเอกของเรื่องอย่างเดวิด มาร์ติเนซ ชายหนุ่มที่เกิดและเติบโตมาในโลกที่เต็มไปด้วยความโสมมของผู้คนในเมือง ‘Night City’ แต่ตัวของเดวิดก็ยังคงยืนอยู่บนพื้นฐานของคนดี แม้มีนอกลู่นอกทางไปบ้างเพื่อหารายได้ แต่เขายังคงไปเรียนหนังสือและเรียนได้ยอดเยี่ยมสมกับที่ผู้เป็นแม่คาดหวัง ที่อยากให้ลูกชายของตนจบการศึกษาในโรงเรียนแพง ๆ เพื่อจบออกมาจะได้มีหน้าที่การงานที่ดีไม่ต้องมาลำบากแบบตน ซึ่งเดวิดผู้ที่ไม่มีความฝันอะไรเลยก็พร้อมจะแบกรับสิ่งนั้นที่แม่มอบให้อย่างเต็มใจ แม้จะถูกเพื่อนในโรงเรียนแกล้งว่าเป็นแค่คนจนมาเรียนโรงเรียนคุณหนู โดยที่เดวิดไม่รู้สึกว่ามันเป็นภาระหรือสิ่งที่ต้องแบก เพราะเขาทำไปเพราะรักแม่อยากให้แม่ภูมิใจในตัวเขาซึ่งนั่นคือสิ่งที่เดวิดต้องการ

จนเมื่อผู้เป็นแม่จากไปเดวิดจึงไม่รู้ว่าจะต้องตามความฝันของผู้เป็นแม่ไปอีกทำไม เพราะเขาไม่มีคนที่รอดูความสำเร็จอีกแล้ว เดวิดจึงรู้สึกไร้จุดหมายและทำเรื่องโง่ ๆ เพราะในเมื่อสิ่งที่หวังมันพังไม่แล้วก็ระเบิดไปให้มันไม่เหลือซากไปเลย ซึ่งยังโชคดีที่เดวิดยังไม่ทำอะไรโง่ ๆ เพราะเส้นแบ่งของคำว่าศีลธรรมที่อยู่ในตัวที่ตัวละครน้อยคนจะมี จนเขามาเจอหลักหมายใหม่ในชีวิตนั่นคือการปกป้องดูแล ลูซีน่า คุชินาดะ (Lucyna Kushinada) ในเรื่องจะเรียกว่า ลูซี่ (Lucy)  หญิงสาวที่เป็นหมุดหมายใหม่ในชีวิตเขา ซึ่งถ้าใครที่ได้ดูจะเห็นเลยว่าทุกวินาทีหลังจากที่เดวิดได้เจอกับลูซี่ เดวิดก็เปลี่ยนเป้าหมายที่จะปกป้องเธอโดยที่ไม่สนใจแม้แต่ตัวเองจนวินาทีสุดท้าย ซึ่งสำหรับคนที่ไม่มีความฝันและเกิดมาเพื่อช่วยเติมเต็มคนอื่นแล้ว อาจจะไม่มีทางเข้าใจเลยว่าการได้เห็นคนที่เรารักยิ้มให้เมื่อเราเติมเต็มความฝันของคนเหล่านั้นจนเต็ม มันดูน่ายินดีอิ่มเอมและดูโง่เง่าไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว

Cyberpunk Edgerunners

Lucyna Kushinada หญิงสาวผู้หลบหนีทุกสิ่งก่อนจะแบกความฝันของคนอื่น

Cyberpunk Edgerunners

อีกหนึ่งตัวละครที่ปมน่าสนใจกับสาวน้อย ‘Netrunner’ อย่างลูซีน่า คุชินาดะหรือลูซี่หญิงสาวผู้มีความฝันที่จะหนีจากโลกใบนี้เพื่อใช้ชีวิตบนดวงจันทร์ ซึ่งในตอนแรกนั้นเราแทบจะไม่รู้จักตัวละครสาวสวยคนนี้เลย เรารู้แค่ว่าเธอนั้นมีความสามารถในการเจาะระบบต่าง ๆ และทำงานหาเงินเพื่อจะหนีไปจากโลก โดยที่เธอนั้นสามารถทำได้ทุกอย่างทั้งการปล้นฆ่าหรือหลอกคนอื่นเพื่อให้ได้เงินมา จนเรามาทราบภายหลังว่าตัวของลูซี่นั้นคือหนึ่งในเด็กกำพร้าที่ถูกฝึกมาเพื่อเจาะระบบข้อมูลในยุคอดีต จนเมื่อเธอสามารถหนีออกมาจากที่คุมขังลูซี่ก็หวาดกลัวไปเสียทุกอย่างบนโลกใบนี้ จึงทำให้เธอไม่รู้สึกไว้วางใจใครจนมาเจอกับเดวิดผู้ไร้ความฝันและคอยเติมเต็มให้ทุกคน ที่เริ่มจากการเติมเต็มความฝันให้แม่ ตามมาด้วยการช่วยเติมเต็มความฝันของ เมน (Maine) และเพื่อน ๆ ที่ลูซี่มองว่ามันช่างโง่เง่าที่คน ๆ หนึ่งจะทำเพื่อคนอื่นในโลกที่ทุกคนต่างหาประโยชน์จากอีกฝ่าย

จนเมื่อลูซี่ได้รับการเติมเต็มจากเดวิดเธอจึงรู้ว่าสิ่งที่เดวิดทำนั้นไม่ใช่ความโง่เง่า แต่มันคือการช่วยเหลือคนที่เขารักให้มีความสุข ซึ่งเมื่อลูซี่รับรู้เธอจึงพยายามตอบแทนความรักนั้นกลับ โดยที่ลูซี่ก็รู้ดีว่าคนที่คอยเติมเต็มคนอื่นมักจะไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจากคนอื่น จนเธอเจอสิ่งที่สามารถทำให้เดวิดมีความสุขได้โดยการตามเก็บคนที่รู้ข้อมูลของเดวิดที่เป็นตัวทดลองของบริษัท ‘Arasaka’ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นมันคือการทำร้ายคนที่เธอรักโดยที่ไม่รู้ตัว ทั้งการฆ่าประธานของ ‘Arasaka’ จนทหารรู้ที่ซ่อน ไปจนถึงการพยายามช่วยเดวิดจนตัวเองเป็นเป้าในการถูกจับจนเดวิดต้องไปช่วยและสละชีวิตตัวเอง ซึ่งถ้าเรามองย้อนกลับไปสิ่งที่ลูซี่ทำมันคือการหวังดีจนเกินไป จนลืมไปว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นจะสร้างผมเสียตามมา ต่างกับเดวิดที่ช่วยทุกคนโดยรู้ว่าทำได้ถึงตรงจุดไหนและอะไรควรไม่ควร (ลองไปย้อนดูจะเห็นเลยว่าเดวิดยั้งการกระทำทุกครั้งเมื่อเรื่องจะไปถึงจุดที่เกินควบคุม) การกระทำของคนที่ไม่เคยช่วยเหลือใครมาก่อนพอลงมือช่วยก็กลายเป็นหายนะไปเสียอย่างนั้น นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอย่างลูซี่คนที่ได้รับมาตลอดพอจะเป็นคนให้ก็ให้โดยไม่คิดจนมีผลตามมา

Cyberpunk Edgerunners

Gloria Martinez ความหวังดีหรือสิ่งที่ตัวเองต้องการ

Cyberpunk Edgerunners

ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้วเกี่ยวกับการสานฝันของผู้เป็นแม่ของเดวิดอย่าง กลอเรีย มาร์ติเนส (Gloria Martinez) เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอแบบที่เดวิดเจอ กับการฝากความหวังและอนาคตเอาไว้ที่ลูกโดยการส่งให้เขาไปเรียนโรงเรียนดี ๆ ให้เขาทำหลาย ๆ สิ่งโดยที่เราก็บอกลูกไปว่านี่คือความหวังดีของผู้เป็นพ่อแม่ที่ทำให้ลูก เพื่อให้ลูกมีอนาคตสุขสบายต่างกับตนที่ลำบาก ซึ่งมันถูกแล้วจริง ๆ หรือที่ผู้เป็นพ่อแม่ทำแบบนี้กับลูกกับการยัดเยียดสิ่งที่ตนเองต้องการให้ลูกทำต่อ แบบที่กลอเรียทำกับเดวิดที่พยายามส่งเสียลูกให้ไปเรียนโรงเรียนคุณหนู โดยการแลกกับการโหมทำงานอย่างหนักจนสุดท้ายเธอก็ตายเพราะร่างกายที่อ่อนแอจนต้านทานอาการบาดเจ็บไม่ไหว ซึ่งถ้ามองกันตามหลักแล้วกลอเรียถือว่าโชคดีที่มีลูกชายอย่างเดวิด ที่พร้อมจะแบกรับและทำตามความฝันของผู้เป็นแม่แบบไม่มีขัดขืน แต่เดวิดกลับน่าสงสารที่มีแม่อย่างกลอเรียซึ่งเหมือนพ่อแม่รังแกฉันที่ยัดสิ่งที่ตนเองต้องการให้ลูก โดยอ้างว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเพื่ออนาคตของลูก ซึ่งเนื้อแท้แล้วกลอเรียไม่ได้ต้องการอยากสบายในบั้นปลาย แต่เธอแค่อยากให้ลูกชายเป็นสิ่งที่ดีกว่านี้ในเมืองเน่า ๆ แบบนี้ แต่นั่นมันคือระเบิดเวลาที่สุดท้ายเดวิดก็ระเบิดความอัดอั้นที่อยู่ในใจออกมา เมื่อขาดแม่ที่เป็นกำแพงของความหวังหายไป อ่านมาถึงตรงนี้คุณคิดว่าสิ่งที่กลอเรียทำนั้นมันถูกหรือผิด

Cyberpunk Edgerunners

เพื่อนความรักความผูกพันหน้าที่ภาระสิ่งที่ David ต้องแบกต่อมาจาก Maine

Cyberpunk Edgerunners

อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องหยิบมาพูดถึง นั่นคือการตามความฝันของเมนที่เดวิดก็รับช่วงต่อมาแบบที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว ตั้งแต่ที่เดวิดเริ่มมาเข้ากลุ่มของเมนตัวของเดวิดก็เริ่มซึมซับสิ่งที่เรียกว่าเพื่อนความเชื่อใจและการแบ่งปัน ที่ในมุมมองของเรามันคือความรักความผูกพันที่ยิ่งแน่นแฟ้นก็ยิ่งมั่นคง เพราะเพื่อนจะคอยดูแลระวังข้างหลังให้ แต่ในมุมของศัตรูยิ่งมิตรภาพแน่นแฟ้นก็ยิ่งเปราะบางและเจาะได้ง่าย เพราะในบางครั้งคนที่เราเรียกว่าเพื่อนรักคนที่เราไว้ใจจริง ๆ เราอาจจะคิดไปฝ่ายเดียวก็ได้ อีกฝ่ายอาจจะแค่ตีหน้ายิ้มใส่แต่จริงแล้วเขาไม่ได้คิดว่าเราเป็นเพื่อนเลยด้วยซ้ำ อย่างที่ กีวี่ (Kiwi) ที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองหรือสิ่งที่ลูซี่ทำในตอนแรก ที่ทุกคนสามารถหลอกคนอื่นได้เป็นเรื่องปกติ แต่คนที่ถูกหลอกเองต่างหากที่เป็นคนโง่ เหมือนในโลกแห่งความเป็นจริงที่เราไม่รู้เลยว่าคนที่เราเรียกว่าเพื่อนสนิทเขาสนิทกับเราจริง ๆ หรือเพื่อผลประโยชน์ ที่เราไม่ได้บอกว่าการไว้ใจคนอื่นผิดเพราะแม้เดวิดจะเจอกับคนที่หักหลังแต่เขาก็มีเพื่อนแท้ที่พร้อมช่วยเหลือสละชีวิต ที่เป็นเหมือนใจแลกใจก็ได้ใจคืนมา ซึ่งถ้าเราไปบอกว่าเดวิดกับเมนว่าเพื่อนที่นายกำลังคบอาจจะหักหลังนายนะ ตัวของเดวิดกับเมนคงหัวเราะและไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะเขาให้ใจเพื่อนไปต้องได้ใจกลับมาซึ่งเราก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่เสมอไป

Cyberpunk Edgerunners

มันไม่ผิดหรอกนะที่เราจะหลอกคนอื่นเพื่อความอยู่รอดแต่คนที่ถูกหลอกต่างที่ผิด

Cyberpunk Edgerunners

ต่อเนื่องจากหัวข้อก่อนกับคำพูดที่กีวี่พูดกับลูซี่ว่า “มันไม่ผิดหรอกนะที่เราจะหลอกคนอื่นเพื่อความอยู่รอดแต่คนที่ถูกหลอกต่างที่ผิด” คำพูดที่เสียดสีที่ทั้งถูกและผิดจนเราไม่สามารถพูดได้เลยว่าสิ่งที่กีวี่พูดนั้นมันผิด 100% เพราะในโลกที่ทุกคนต้องดิ้นรนเอาตัวรอด คำว่าเพื่อนมันก็เป็นแค่เกราะป้องกันเพื่อคุ้มกะลาหัวเราเมื่อตอนเดือดร้อนและหาเงินมาให้เท่านั้น ซึ่งถ้าเราเริ่มไว้ใจและทำตามความฝันของคนอื่นเราก็จะมีบั้นปลายชีวิตแบบเดวิด หรือลูซี่ที่ถูกจับเพราะเชื่อใจกีวี่ที่มองดูแล้วการไว้ใจคนอื่นมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การฝากใจไว้กับคนอื่นมันคือสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะอย่างที่บอกว่าใจแลกใจมันซื้อใจไม่ได้ทุกคน แต่ถ้าได้มามันก็คุ้มค่ากับความเสี่ยง แต่ถ้าเราไม่อยากเสี่ยงก็อย่าไปไว้ใจใครจะดีที่สุด ซึ่งเราไม่มีคำตอบของสิ่งนี้ตัวคุณเองที่ต้องเป็นคนตัดสินเอง โดยเรื่องราวใน ‘Cyberpunk Edgerunners’ ก็เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างที่ถูกเอามานำเสนอ เพื่อบอกคุณว่าในความหมายของมิตรภาพอันสวยงามก็แอบแฝงความเน่าเหม็นของจิตใจคนเอาไว้เช่นกัน

Cyberpunk Edgerunners

สรุปโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจเลี่ยงเส้นทางที่ถูกกำหนดเมื่อเราดันไปแบกฝันคนอื่น

Cyberpunk Edgerunners

มาถึงจุดนี้เราคงจะมองเห็นมุมมองอีกด้านที่ตัวอนิเมะเรื่องนี้พยายามนำเสนอกับเรา ที่ถ้าตัดเรื่องของฉากต่อสู้เนื้อหาการเสียดสีสังคมที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนในเรื่อง สิ่งที่เราพูดมาทั้งหมดในบทความนี้ก็คืออีกมุมที่ทีมสร้างต้องการบอกและถามเราคืนไปว่า “ตัวคุณตอนนี้กำลังทำความฝันของตัวเองหรือกำลังทำเพื่อฝันคนอื่นอยู่ และมันคุ้มค่าไหมกับการไล่ตามฝันนั้น แล้วเพื่อนของคุณที่คุณไว้ใจ เขาคือเพื่อนแท้หรือแค่คนที่หาประโยชน์จากคุณ” เพราะคุณอาจจะเป็นแค่คนโง่แบบเดวิดที่ทำเพื่อความฝันคนอื่น แต่มันก็คือความจริงใจที่สุดท้ายการให้ใจก็ได้ใจคืนมา อย่างที่เดวิดได้มาจากเพื่อน ๆ ในกลุ่ม หรือคุณจะไม่ไว้ใจใครเลยและมองว่าทุกอย่างคือผลประโยชน์ที่ควรมีไว้ ลองถามตัวเองดูว่าคุณจะเป็นคนแบบเดวิดที่ทำเพื่อคนอื่น เป็นลูซี่ที่สุดท้ายก็ทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก จะเป็นคนที่ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายอย่างเมน เป็นคนปากร้ายใจดีอย่างรีเบคก้าที่เอาใจฝากไว้ที่คนอื่น หรือจะเป็นคนที่มองว่ามิตรภาพคือสิ่งเปราะบางกับการหาประโยชน์จากมันแบบกีวี่ทำ คุณเป็นคนเลือกเองเราคงจะตอบแทนคุณไม่ได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ ‘Cyberpunk Edgerunners’ บอกกับคุณให้ไปลองคิดดู เพราะทุกสิ่งที่เราบอกมานั้นในอนิเมะมันมีตอนจบของสิ่งที่ทำให้คุณได้เห็น

Cyberpunk Edgerunners

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการวิเคราะห์เรื่องราว ‘Cyberpunk Edgerunners’ ในมุมมองต่าง ๆ ที่ตัวอนิเมะบอกกับเราที่เป็นคนดู ทั้งทางตรงและทางอ้อมแบบที่เรียกว่ากระแทกเข้าไปถึงกึ๋นกันเลยทีเดียว ใครที่ดูไปแล้วและคิดว่าขาดตกตรงไหนไปก็ไปหามาดูอีกรอบ แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่ในบทความนี้บอกมันคือมุมมองที่คุณคิดไม่ถึงจริงรึเปล่า ส่วนคนที่ยังไม่ได้ดูแต่อ่านมาถึงตรงนี้ก็บอกเลยว่าคุณได้พลาดของดีไปแล้ว เพราะฉาบหน้าของเรื่องราวหนูขยะที่ทำตามความฝันคนอื่นมันได้ซ่อนสิ่งต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ถ้าคุณลองคิดตามในสิ่งที่ตัวละครเหล่านี้พูดและกระทำคุณจะมองเห็นแบบที่บทความนี้บอก ซึ่งในอนิเมะก็ไม่ได้ชี้นำหรือบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้มันถูกต้อง เราห้ามไว้ใจใครหรือทำเพื่อคนอื่น แต่สิ่งที่อนิเมะเรื่องนี้บอกคือคำถามที่ว่า “คุณเป็นเหมือนตัวละครคนไหนในอนิเมะเรื่องนี้” และถ้าคุณรู้ว่าตัวเองเป็นตัวละครไหนก็จงรับรู้ผลที่ตามมาของสิ่งที่ตัวละครนั้นทำ ว่าถ้าคุณยังทำต่อไปจะจบลงประมาณนี้แน่นอน (ไม่ถึงตายแต่ก็หนักในแบบที่คุณคิดไม่ถึง) หรือถ้าไม่รู้ก็ลองคิดดูดี ๆ ว่าลึก ๆ คุณคิดอย่างไรกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าตัวเองเหมือนใครในอนิเมะเรื่องนี้ และถ้าใครมีปมที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ‘Cyberpunk Edgerunners’ ก็เอามาพูดคุยกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นการวิเคราะห์เรื่องราวอะไรอีกก็รอติดตามที่แบไต๋ได้เลย เพราะคุณจะเจอบทความแปลก ๆ ที่น่าสนใจได้จากที่นี่ที่เดียวแน่นอนกดติดตามเอาไว้ได้เลย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส