หนึ่งในเหตุผลที่คุณเลือกอนิมะมาดู มักจะเริ่มจากความชอบของลายเส้นตัวละครเนื้อเรื่อง หรือกระแสที่คนพูดถึงในช่วงนั้น ๆ ที่ทำให้เราตัดสินใจหาอนิเมะเรื่องนั้นมาดู ซึ่งอนิเมะหลายเรื่องก็มีการดำเนินเรื้อเรื่องที่ดีสนุกน่าติดตาม แต่ก็มีสิ่งที่ทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกขัดใจ นั่นคือสิ่งที่ตัวเอกหรือตัวละครที่มีบทบาทในตอนนั้น ๆ ที่มักจะมาทำลายอารมณ์ความรู้สึกของคนดู ให้ไม่ชอบ ไปจนถึงรำคาญกับนิสัยตัวละครหรือสิ่งที่พวกเขาหรือเธอทำ แบบเอาอีกแล้วทำแบบนี้อีกแล้ว หรือจะยึดติดอะไรนักหนา คือรู้ว่าเป็นอย่างไรรู้สึกอย่างไรเจออะไรมาถึงเป็นแบบนี้ แต่ช่วยเลิกพูดหรือทำแบบนี้เสียทีมันน่าเบื่ออะไรแบบนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่ามีตัวละครไหนจากเรื่องใดบ้าง ที่คนดูอนิเมะรู้สึกรำคาญตอนดูมารำคาญไปพร้อมกันเลย

นิสัยเลือดร้อนดูน่ารำคาญรวมถึงสิ่งที่เลือกทำอีก Eren Yeager จาก Attack On Titan

Attack On Titan

เริ่มต้นตัวละครแรกที่น่ารำคาญแบบเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงตอนนี้ กับชายผู้มีความฝันและความหวังที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จากสิ่งที่เขาได้เห็นมาในชีวิต กับ เอเรน เยเกอร์ (Eren Yeager) จากซีรีส์คนฆ่ายักษ์ ‘Attack On Titan’ ที่ในตอนแรกนั้นสิ่งที่เอเรนต้องการ คือการออกไปนอกกำแพงเพื่อเห็นโลกอันกว้างใหญ่ ตามภาษาเด็กน้อยที่อยากออกจากกรงที่เรียกว่ากำแพง พอโตมาก็มีความฝันที่จะปกป้องทุกคนจากยักษ์ไททันที่ไล่กินคน พอวันเวลาผ่านไปเมื่อทราบความจริงเกี่ยวกับโลกใบนี้ เอเรนเราก็เปลี่ยนเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นกับการทำลายโลกนี้ทิ้ง ซึ่งกว่าจะมาถึงตรงนี้เราต้องทนดูนิสัยเลือดร้อนไม่คิดหน้าคิดหลัง ที่ถ้าพี่แกไม่พอใจก็พร้อมพุ่งเข้าไปบวกโดยไม่สนใจอะไรเลย และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาเกือบตายมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่แทนที่เอเรนจะจำกับตรงข้ามเขายิ่งเลือดร้อนกว่าเดิม แถมยังคิดทำอะไรก็ไม่สนใจใคร  เรียกว่าน่ารำคาญกับสิ่งที่ตัวละครนี้เป็นแบบสุด ๆ ซึ่งคนเขียนก็น่าจะทราบเรื่องนี้ (ที่คนดูไม่ชอบตัวละครเอเรน) จึงได้สร้างตัวละคร อาร์มิน อาร์เลิร์ต (Armin Arlert) มาถ่วงสมดุลของเรื่อง ให้คนอ่านคนดูสามารถดูเรื่องนี้ได้จนจบ โดยไม่ปิดทิ้งเพราะรำคาญเอเรนไปเสียก่อน และด้วยเหตุผลเหล่านี้เอเรน เยเกอร์จึงติดอันดับตัวละครน่ารำคาญเป็นอันดับต้น ๆ ของแฟนอนิเมะนั่นเอง

Attack On Titan

แกจะกากไปไหน Takemichi Hanagaki จาก Tokyo Revengers

Tokyo Revengers

ถ้าให้พูดถึงความดีงามของ ‘Tokyo Revengers’ เราคงจะเอามามาพูดถึงได้อีกหนึ่งบทความเลยทีเดียว เพราะทุกอย่างในอนิเมะเรื่องนี้เต็มไปด้วยมิตรภาพของเพื่อน การเสียสละ น้ำตาลูกผู้ชาย ไปจนถึงการต่อสู้ที่หลายคนถึงกับงงว่าเด็กอายุ ไม่ถึง 20 ที่ตั้งตัวเป็นนักเลงเขาอัดกันขนาดนี้เลยหรือ ไปจนถึงบั้นปลายของชีวิตของเหล่านักเลง ที่ไม่ได้จบสวยหรือดูดีแบบที่เห็นในอดีต แต่สิ่งที่หลายคนไม่ชอบในเรื่องนี้ก็มีอยู่อย่างเดียวคือตัวของ ทาเคมิจิ ฮานากากิ (Takemichi Hanagaki) พระเอกของเรื่อง ที่ถ้าไม่นับความโชคดีในหลาย ๆ ครั้งที่ต้องกลับไปเปลี่ยนแปลงอดีตสมัยเป็นวัยรุ่น เขาก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเป็นกระสอบทรายให้ตัวละครอัด กับตะโกนแล้วก็ร้องไห้ซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ซึ่งซีนที่ทำให้ดูเป็นพระเอกก็มีอยู่บ้าง แต่ก็นิดเดียวก่อนจะโดนขโมยซีนไปอย่างรวดเร็ว และพอมีภารกิจต้องทำก็มัวแต่บ่นว่า ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ไหว มันเป็นไปไม่ได้หรอก ซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนี้จนคนดูรำคาญ ซึ่งถ้าไม่มีตัวละครคนอื่นมาช่วยดึงความสนใจคนดู เชื่อว่าหลายคนคงจะเลิกดูเรื่องนี้เพราะรำคาญเจ้าทาเคมิจิแน่นอน

Tokyo Revengers

ที่ควรชนะก็ไม่ชนะที่ไม่ควรแพ้ดันแพ้ขัดใจแฟน ๆ Satoshi จาก Pokemon

Pokemon

ความรู้สึกแรกเมื่อพูดถึง ซาโตชิ (Satoshi) ตัวเอกจากอนิเมะที่สร้างจากเกมอย่าง ‘Pokemon’ เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อพูดถึงตัวละครตัวนี้ เพราะตั้งแต่ที่เรารู้จักกับชายคนนี้ เขาไม่เคยทำให้คนดูรู้สึกภูมิใจเลย ทั้งที่เราก็ติดตามชีวิตของเขามาอย่างยาวนานหลายต่อหลายภาค และลุ้นการแข่งขันชิงแชมป์ต่าง ๆ มาตลอดตั้งแต่ภาคแรกจนมาถึงภาคต่อมาเรื่อย ๆ เจ้าซาโตชิก็ไม่เคยได้แชมป์จากการแข่ง ‘Pokemon’ เลย ซึ่งหลาย ๆ ครั้งที่พลาดแชมป์ยังพอเข้าใจได้ว่าซาโตชิอาจจะฝีมือไม่ถึงขั้น แม้จะเคยสู้กับ ‘Pokemon’ ในตำนานมาแล้วมากมายก็ตาม จนมาถึงศึกการแข่งขัน ‘Lumiose’ ของภูมิภาค ‘Kalos’ ในภาค ‘Pokemon XY’ ที่คราวนี้ซาโตชิมี ‘Pokemon’ ที่สามารถรวมร่างสื่อใจกันได้อย่าง ‘Gekkoga’ ที่ไม่ว่ายังไงก็สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ แถมพอขึ้นภาคใหม่พี่ซาโตชิก็ปล่อย ‘Gekkoga’ ไปเสียอย่างนั้น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแฟน ๆ มาก ๆ จนมาถึงภูมิภาค ‘Alola’ ซาโตชิเราก็สามารถคว้าแชมป์ได้เสียที แต่มันก็เป็นเพียงการแข่งครั้งแรกของภูมิภาคนี้ ซึ่งดูไม่สมศักดิ์ศรีความเป็นพระเอกของเรื่องเลย แต่ที่เรายังทนดูก็เพราะความสนุของการได้เห็น ‘Pokemon’ ใหม่ ๆ ที่เชื่อมกับเกม คงต้องรอดูว่าคราวนี้พี่ซาโตชิเราจะได้แชมป์อีกไหม

Pokemon

เป็นคนอื่นจะวิ่งไปขับหุ่นแล้วไม่มาเรื่องมากแบบนายหรอก Shinji Ikari จาก Neon Genesis Evangelion

Neon Genesis Evangelion

สมมุติว่าคุณเป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับญาติ และวันหนึ่งพ่อก็เรียกเราเข้ามาในเมืองแล้วบอกว่า “จงขึ้นไปขับหุ่นยนต์สุดเท่สู้กับสัตว์ประหลาดซะ” อย่างในเรื่อง ‘Neon Genesis Evangelion’ เป็นคุณจะทำอย่างไร แน่นอนว่าร้อยทั้งร้อยต่างก็ต้องตอบว่า “ขับซิครับรออะไร” ด้วยกันทั้งนั้น เพราะชีวิตเราจะมีกี่ครั้งที่ได้ขึ้นไปขับหุ่นยนต์สีม่วงสุดเท่แบบนั้น แต่ตรงข้ามกับ ชินจิ อิคาริ (Shinji Ikari) ที่ลีลาไม่ยอมขึ้นหุ่น แถมยังเถียงพ่อทั้งที่ตอนนั้นสัตว์ประหลาดกำลังพังบ้านเมืองอย่างสนุกสนาน แต่ชินจิกับมาเถียงกับพ่อว่า “เรียกผมมาทำไมตอนนี้ทั้งที่ตั้งนานไม่เรียก พอตัวเองมีปัญหาก็มาเรียกผมเนี้ยนะ” มาดราม่าซีนอารมณ์แบบไม่ดูสถานการณ์ ที่กว่าจะขึ้นขับได้ก็เล่นเอาคนดูรู้สึกหงุดหงิดกับความงี่เง่าเรียกร้องความรักของหมอนี่แบบไม่ดูเวลา นี่ยังไม่นับครั้งอื่น ๆ อย่างการทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาเหมือนโลกทั้งใบไม่มีใครเข้าใจตัวเอง ทั้งที่เรื่องของชินจินั้นเล็กน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในเรื่อง แต่คนเหล่านั้นก็พร้อมจะเข้มแข็งสู้ต่อไป แต่ชินจินี่แค่พ่อทิ้งตอนเด็กก็ดราม่าจะเป็นจะตาย ที่ยิ่งดูยิ่งหงุดหงิดจนอยากกดข้ามตอนดู ซึ่งถ้าไม่ได้การต่อสู้ของหุ่นกับเนื้อเรื่องที่สนุกละก็หลายคนคงเลิกดูเพราะรำคาญชินจิไปแล้ว

Neon Genesis Evangelion

พี่จะปราบแต่ Goblin คิดถึงแต่ Goblin ไม่ได้นะ Goblin Slayer จาก Goblin Slayer

Goblin Slayer

เมื่อพูดถึงอนิเมะที่ตอนแรกก็เล่นเอาคนดูอึ้งทึ่ง กับการเล่นใหญ่เล่นแรงจนคนดูตาค้างใน ‘Goblin Slayer’ ก็ทำเอาอนิเมะเรื่องนี้ติดกระแสไปในทันที ซึ่งถ้าเราคิดว่าในอนิเมะแรงแล้ว ต้องไปอ่านฉบับมังงะที่แรงยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า แต่สิ่งที่ทำให้คนดูเรื่องนี้รู้สึกรำคาญคือพ่อพระเอกของเรื่อง ที่เราไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไรและชื่ออะไร แต่ทุกคนเรียกเขาว่า ‘Goblin Slayer’ เพราะในทุกภารกิจที่มีให้นักผจญภัยไปทำ ทั้งการปราบมังกร สู้กับปีศาจ ล่ามอนสเตอร์โหด ๆ แต่ ‘Goblin Slayer’ ก็ไม่สนใจภารกิจไหนเลยนอกจากภารกิจปราบ ‘Goblin’ อย่างเดียว แบบก็รู้นะว่าพี่แกมีความแค้นกับปีศาจเผ่าพันธุ์นี้จึงอยากฆ่าให้หมด แต่การพูดถึงแต่เรื่องนี้คิดแต่จะฆ่า ‘Goblin’ ให้หมดตลอดเวลาที่ออกมาในช่วงแรกของเรื่อง มันก็ทำให้คนดูรู้สึกรำคาญในความแน่วแน่ของเขาไปเหมือนกัน จนเริ่มมีตัวละครอื่น ๆ เข้ามาเราจึงได้เห็นมุมมองอื่นที่น่าสนใจไปบ้างมากกว่าแค่แค่ ‘Goblin’ ซึ่งถ้าตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็น ‘Goblin Slayer’ สู้แต่กับ ‘Goblin’ แบบนี้คงเลิกดูไปก่อนแน่นอน

Goblin Slayer

จะแหกปากไปไหนหนวกหู Zenitsu Agatsuma จาก Kimetsu no Yaiba

Kimetsu no Yaiba

คงไม่ต้องเอ่ยอะไรกันมาก เมื่อพูดถึงตัวละครที่คนไม่ชอบมากที่สุดในเรื่อง ‘Kimetsu no Yaiba’ หรือ “ดาบพิฆาตอสูร” ใน ‘Season’ แรก กับชายผู้แหกปากตะโกนตลอดเวลา ทั้งตอนดีใจก็แหกปาก เสียใจก็แหกปาก กลัวก็แหกปาก ตกใจก็แหกปาก แบบแหกปากตลอดเวลา จนคนดูรู้สึกรำคาญว่าเอ็งจะแหกปากทำไมนักหนา กับชายผู้ใช้ปราณอัสนี อากาสึมะ เซ็นนิตสึ (Agatsuma  Zenitsu) ชายขี้กลัว แต่พอเขาสลบหรือหลับความสามารถที่แท้จริงจะออกมา แต่ก่อนจะถึงซีนเก่งของพี่แก เราต้องทนฟังเสียงแหกปากของพี่แกที่เยอะมาก ๆ จนมาถึง ‘Season 2’ การแหกปากของเซ็นนิตสึก็น้อยลงแต่ก็ยังน่ารำคาญอยู่ จนทำให้คนดูรู้สึกสงสารคนพากย์เสียงตัวละครนี้เลย (ทั้งเสียงญี่ปุ่นและเสียงไทย) ว่าต้องดื่มน้ำมะนาวไปกี่แก้วตอนให้เสียงตัวละครนี้ตอนตะโกน

Kimetsu no Yaiba

จะโมโหตลอดเวลาเลยรึไง Bakugo Katsuki จาก My Hero Academia

My Hero Academia

ถ้ามีการจัดอันดับตัวละครที่มีการเติบโตเร็วและเห็นชัดที่สุดในอนิเมะ บาคุโก คัตสึกิ (Bakugo Katsuki) จาก ‘My Hero Academia’ จะต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะครั้งแรก ๆ ที่เราได้ดูอนิเมะเรื่องนี้เราจะได้เห็นภาพของบาคุโกที่เป็นชายขี้โมโหดูหงุดหงิดตลอดเวลาจนน่ารำคาญ แถมบทของพี่แกในตอนแรกก็ดูเป็นตัวโกงคู่แข่งกับ มิโดริยะ อิสึคุ (Midoriya Izuku) ขนาดที่ว่ากระทืบกันแบบเอาเป็นเอาตายในหลาย ๆ ครั้งกันเลยทีเดียว จนคนดูอนิเมะหลาย ๆ คนในตอนนั้นรู้สึกหงุดหงิดไม่ชอบตัวละครนี้เลย แบบออกมากี่ครั้งก็จะโกนหงุดหงิดแบบนี้ดูไม่ค่อยมีมิติให้น่าค้นหา ก่อนที่ตัวละครหนุ่มระเบิดคนนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนตัวเองให้คนดูรักมากขึ้น แถมยังมีมิติมุมมองที่น่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ ต่างกับแต่ก่อน ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับคนเขียนเรื่องที่วางบทได้น่าสนใจมาก ๆ แต่ช่วงแรกของเรื่องเราต้องยอมรับว่าบาคุโกน่ารำคาญจริง ๆ

My Hero Academia

นายจะเบื่อทุกอย่างทุกคนไม่ได้นะ Kusuo Saiki จาก Saiki Kusuo no Psi Nan  

Saiki Kusuo no Psi Nan  

ปิดท้ายกับตัวละครที่ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนเบื่อโลกตลอดเวลา อย่าง คูซูโอะ ไซกิ (Kusuo Saiki) จาก ‘Saiki Kusuo no Psi Nan’ หรือชื่อไทย “ไซคิหนุ่มพลังจิตอลเวง” ที่เมื่อคุณเห็นหน้าปกอนิเมะเป็นรูปชายสวมแว่นคนนี้ คุณอาจจะไม่อยากดูการ์ตูนเรื่องนี้ไปเลยก็ได้  และเมื่อคุณเปิดใจหลงเข้าไปดู คุณก็จะรู้สึกแบบเดิมเหมือนครั้งแรกที่เห็นหน้านายไซกิคนนี้  เพราะตลอดทั้งเรื่องนั้นเขาแทบจะไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย แม้แต่จะเอ่ยปากพูดก็ไม่ทำจะเน้นแต่การคิดในใจ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ไซกิเป็นแบบนี้ก็เพราะเขามีโคตรพลังจิต ที่รู้เห็นและเข้าใจทุกอย่างในโลกของอนิเมะเรื่องนี้ ซึ่งเมื่อคุณรู้เห็นทุกอย่างเข้าใจทุกเรื่องคุณคงจะไม่ตื่นเต้นกับอะไรอีกแล้ว (แม้จะมีเรื่องให้ต้องตกใจก็ตามแต่ไซกิเราก็เฉย) แต่ความนิ่งของไซกินั้นกลับเป็นความสนุกเฮฮาไปเสียอย่างนั้น เพราะตัวของไซกิที่นิ่งเฉยกลับเป็นจุดเด่นที่เสริมให้ตัวละครเพื่อน ๆ หรือคนรอบตัวของเขาที่ไม่เต็มบาท ได้มีบทเด่นจนหลายคนหลงรักเรื่องนี้ ซึ่งถ้าถามว่าจุดไหนที่ไม่ชอบในเรื่องนี้ ทุกคนก็คงจะตอบแบบเดียวกันว่าตัวไซกินั่นละที่เป็นจุดน่ารำคาญของเรื่อง เพราะพี่แกจะเบื่อจะไม่ชอบอะไรไปทุกเรื่องจนน่ารำคาญ ซึ่งถ้าไม่ได้เพื่อน ๆ มาช่วยดึงอนิเมะเรื่องนี้คงจะไม่น่าดูอย่างแน่นอน

Saiki Kusuo no Psi Nan  

ก็จบกันไปแล้วกับเรื่องราวของอนิเมะสนุกน่าติดตามแต่ตัวเอกในเรื่องน่ารำคาญไปหน่อย ที่เราหยิบยกมานำเสนอหวังว่าจะถูกใจกัน ซึ่งตัวละครแต่ละคนนั้นก็จะมีปมมีความคิด มีความรู้สึกที่ในเรื่องจะบอกกับเราอยู่แล้ว ว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นคนแบบนี้นิสัยอย่างนั้น ซึ่งเราที่เป็นคนดูต่างก็เข้าใจปมและความรู้สึกของตัวละครนั้นอยู่แล้ว แต่บางทีสิ่งที่ตัวละครเหล่านี้ทำหรือคิด มันดูขัดแย้งดูไม่สมเหตุผลและไม่เข้าท่าในความรู้สึกของคนดู จนเราที่เป็นคนดูรู้สึกหงุดหงิดตัวละครเหล่านี้จนไม่อยากดู แต่เพราะเนื้อเรื่องของอนิเมะเหล่านี้ที่ดูสนุกน่าติดตาม เราจึงดูต่อจนจบด้วยดี และถ้าใครมีอนิเมะแนว ๆ ตัวเอกน่ารำคาญแต่เนื้อเรื่องดีซีรีส์ไหนอีกก็เอามาบอกกันได้ ส่วนคราวนี้จะเป็นเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวกับเกมอนิเมะภาพยนตร์ ก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว  รับรองไม่พลาดบทความแปลก ๆ ที่น่าสนใจอย่างแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส