เป็นเรื่องที่น่าฉุกคิดนะครับ สำหรับบรรดาทาสหมาทาสแมว เพราะเจ้าไวรัสโคโรนานี่ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากสัตว์ ซึ่งก็คือค้างคาวและงูนั่นเอง สำหรับข้อสงสัยแรก หมาและแมวติดไวรัสโคโรนาได้หรือไม่ คำตอบคือ “ติดได้” ส่วนข้อสงสัยที่สองแล้วสัตว์เลี้ยงจะถ่ายทอดเชื้อไวรัสมาสู่เจ้าของได้หรือไม่ คำตอบคือ “ไม่”

ทางการแพทย์ได้ตรวจพบไวรัสโคโรนาในสัตว์มาตั้งนานแล้ว และพบว่าไวรัสโคโรนาในสัตว์นั้น เป็นไวรัสที่จำเพาะเจาะจงในแต่ละสายพันธุ์ ไม่แพร่เชื้อข้ามสายพันธุ์สัตว์ ในนกนั้นจะมี avian coronavirus ส่วนหมูก็จะมี porcine coronavirus ในวัวจะชื่อว่า bovine coronavirus และในม้าก็คือ equine coronavirus ส่วนเจ้าตูบนั้นจะมีไวรัสโคโรนาเฉพาะสายพันธุ์สุนัขคือ canine coronavirus ส่วนแมวก็มี Feline coronavirus


แล้วโคโรนาไวรัสในหมาและแมวจะถ่ายทอดสู่กันได้หรือไม่

คำตอบคือ”ไม่” เพราะไวรัสโคโรนาในสัตว์จะจำเพาะเจาะจงแต่ละสายพันธุ์ (อ้างอิงจากหนังสือ Zoonoses : infectious diseases transmissible from animals to humans เขียนโดย ดร.ฮาร์ตมุต เคราส์)
นั่นแปลว่าถ้าน้องหมาที่บ้านคุณติดเชื้อโคโรนาไวรัสมันจะไม่ถ่ายทอดไปสู่น้องแมว ในทางตรงกันข้ามถ้าน้องแมวมีเชื้อโคโรนาไวรัส มันก็จะไม่ลามไปติดน้องหมาอย่างแน่นอน และสบายใจได้อย่างครับโคโรนาไวรัสในหมาและแมวไม่ติดต่อสู่มนุษย์

ส่วนเสริม : ไวรัสกลายพันธุ์

ดร.นีล ซี. เพนเดอร์สัน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ค้นพบเจอเรื่องที่น่ากลัวก็คือไวรัสร้ายนี้สามารถกลายพันธุ์ให้กระโดดข้ามสายพันธุ์ได้ แมวบางตัวอาจจะติดไวรัสโคโรนาจากหมูก็ได้ ส่วน ดร.ปีเตอร์ แดสแซก ประธานขององค์กร EcoHealth Alliance ได้อธิบายถึงการติดต่อข้ามสายพันธุ์เพิ่มเติมว่า ไวรัสจากสัตว์ที่สามารถถ่ายทอดสู่คนได้นั้นก็เพราะ ความบังเอิญที่เซลส์ตัวรับในร่างกายเราเกิดไปมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับสัตว์บางสายพันธุ์ ก็สามารถถ่ายทอดเชื้อไวรัสจากสัตว์ชนิดนั้นมาได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดและเกิดขึ้นแล้วก็คือ มนุษย์เรามีเซลส์ตัวรับที่คล้ายคลึงกับค้างคาว ที่เป็นพาหะหลักของไวรัสโคโรนานี่เอง แต่เรื่องหนึ่งที่ไม่ต้องห่วงก็คือ หมา – แมว – มนุษย์นั้น มีเซลส์ตัวรับที่แตกต่างกันมาก ไม่เคยมีรายงานการค้นพบว่าไวรัสจากมนุษย์จะลามไปติดต่อในสัตว์เลี้ยง หรือไวรัสจากสัตว์เลี้ยงจะถ่ายทอดมาถึงเจ้าของเช่นกัน


ถ้าน้องหมาน้องแมวติดเชื้อโคโรนาไวรัสจะมีอาการอย่างไร

จากข้อที่แล้วโคโรนาไวรัสในหมาและแมวนั้นคนละสายพันธุ์กัน ฉะนั้นหมาและแมวที่ติดเชื้อก็จะแสดงอาการต่างกัน

อาการในน้องหมา : ไวรัสโคโรนาจะมุ่งโจมตีที่ระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการไอ, จาม และมีเมือกและน้ำมูกมาก อาจมีอาการอื่นเช่น อาเจียน, ท้องเสีย, เซื่องซึม, เบื่ออาหาร
อาการในน้องแมว : ถ้าน้องแมวติดโคโรนาไวรัส อาการจะหนักหนา น่าสงสารกว่ามากครับ ไวรัสจะคุกคามระบบทางเดินหายใจของเหมียว รวมถึงระบบการย่อยอาหารด้วย อาการเริ่มต้นจะคล้ายป่วยเป็นไข้ทั่วไป น้องเหมียวจะจามบ่อย, ตาแฉะ, น้ำมูกไหล, ท้องเสีย, คลื่นไส้, น้ำหนักลด น้องเหมียวที่ติดไวรัสโคโรนาประมาณ 5% – 10% ไวรัสจะพัฒนาความรุนแรงให้น้องเหมียวมีอาการเยี่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis) ซึ่งถ้าถึงขั้นนี้ส่วนใหญ่จะถึงชีวิต โดยเฉพาะลูกแมว


ลักษณะการแพร่เชื้อ

พาหะนำหลักของโคโรนาไวรัสในน้องหมาน้องแมวนั้นมาจาก “อึ” ช่องทางที่หมาและแมวจะรับเชื้อไวรัสโคโรนาเข้าสู่ร่างนั้นแตกต่างกัน ในหมานั้นจะรับผ่านทางปาก ก็คือการไปกินหรือเลียอึของหมาตัวอื่นที่มีเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่แล้ว วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือจำกัดบริเวณน้องหมาไว้ในบ้านจะดีที่สุด ส่วนน้องแมวนั้นจะรับไวรัสโคโรนาเข้ามาทางระบบหายใจ และสารคัดหลั่งในช่องปากเช่น น้ำลาย, เสมหะ และน้ำเมือก ที่มีการเจือปนของอึที่มีเชื้อไวรัสโคโรนา


การดูแลรักษา

ข่าวร้ายนะครับถ้าน้องหมาน้องแมวติดเชื้อไวรัสโคโรนา ยังไม่มีวัคซีนที่รักษาได้โดยตรง เช่นเดียวกับไวรัสโคโรนาในมนุษย์ ต้องรักษาไปแต่ละอาการ เช่นท้องเสีย, รักษาระบบทางเดินหายใจ ถ้ามีอาการรุนแรงก็ต้องให้น้ำเกลือ และยาเข้าใต้ผิวหนัง โคโรนาไวรัสเป็นเชื้อโรคที่ร้ายแรงต่อชีวิตน้องหมาน้องแมว ทางที่ดีควรให้น้องหมาน้องแมวอยู่ในพื้นที่ปิด สะอาด ควรเลี้ยงไว้ภายในบ้าน หมั่นพาน้องแมวน้องหมาไปฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน อย่าให้ขาด

ให้น้องหมาน้องแมวได้ออกกำลังกายบ้างก็ดี แล้วอย่าให้พวกเขาเครียดนัก เพราะถ้าเป็นแล้วโอกาสที่เราจะสูญเสียเข้าไปค่อนข้างสูง เพราะไวรัสโคโรนาจะเป็นจุดเริ่มต้นที่พาน้องหมาน้องแมวไปสู่อาการต่อเนื่องที่รุนแรงขึ้น ในหมานั้นอาจจะมีอาการลุกลามไปสู่ภาวะลำไส้อักเสบ ส่วนน้องแมวนั้นจะลุกลามไปสู่โรค คือโรคช่องท้องอักเสบติดต่อในแมว feline infectious peritonitis (FIP) คนละตัวกับ เอดส์แมวนะครับ อันนั้น FIV (Feline Immunodeficiency Virus)