จากข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน Angela Merkel นายกรัฐมนตรีประเทศเยอรมนีกล่าวถึงการประชุมในวันจันทร์กับอุตสาหกรรมรถยนต์ถึงวิธีเร่งให้เปลี่ยนไปใช้รถยนต์พลังงานแบตเตอรีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรักษางานในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนของรถยนต์ โดยจะสร้างสถานีชาร์จหนึ่งล้านจุดในปี 2573 และระดมทุนจ่ายเงินอุดหนุนในการซื้อรถอีกด้วย

อัปเดตหลังจากการหารือในที่ประชุมของเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงและบริษัทผลิตรถยนต์ในเย็นวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน แหล่งข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่าเยอรมนีมีมาตรการเร่งให้เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ปล่อยมลพิษต่ำ โดยใช้วิธีการระดมทุนเพิ่มเงินอุดหนุนให้ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามีแรงจูงใจในการซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีแผนจะเพิ่มเงินทุนอีก 50% จากที่ให้เงินอุดหนุนในช่วงปี 2549 จนถึง 2563

แหล่งข่าวยังอ้างถึงเอกสารจากที่ประชุมดังกล่าวว่าได้มีมาตรการให้เงินอุดหนุนในการซื้อรถยนต์ไฮบริดด้วยเงิน 151,000 บาท (4,500 ยูโร) เพิ่มจากเดิมที่เคยให้ที่ 101,000 บาท ส่วนรถราคาที่เกิน 1,300,000 บาท (40,000 ยูโร) จะให้เงินอุดหนุนถึง 168,000 บาท (5,000 ยูโร) เพื่อเพิ่มยอดการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 10 ล้านคันในปี 2573 และให้อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเยอรมนีเติบโตทัดเทียมกับอเมริกาและจีน

สำหรับประเทศใดที่ต้องการลดมลพิษในอากาศโดยพยายามเก็บภาษีเพิ่มจากผู้ใช้รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษปริมาณสูง ก็ขอเสนอให้เปลี่ยนมาใช้วิธีให้เงินอุดหนุนสร้างแรงจูงใจในการซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแทนน่าจะดีกว่า ส่วนในบ้านเราก็เคยมีมาตรการให้เงินอุดหนุนซื้อรถคันแรกกันมาแล้ว เชื่อว่าจะสามารถขยายสู่การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้เช่นกัน เพื่อเป้าหมายลดโลกร้อนและป้องกันน้ำท่วมเมืองที่พื้นที่ต่ำอย่างกรุงเทพมหานครเป็นต้น

อ้างอิง

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส