ปี 2020 เป็นปีที่ภัยพิบัติร้อนแรงยิ่งกว่าปีไหน ๆ และดูเหมือนจะยังร้อนแรงต่อไปทุกพื้นที่ทั่วโลก กับอีกหนึ่งเหตุการณ์ไฟป่าที่ไหม้มาหลายวันแล้วบริเวณตอนเหนือของประเทศยูเครน ซึ่งไฟก็กำลังคืบคลานเข้าใกล้เขตภัยพิบัตินิวเคลียร์อย่าง “เชอร์โนบิล” รวมถึงลุกลามเข้าใกล้เตาปฏิกรณ์ด้วยเช่นกัน ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจก่อให้เกิดปัญหาสารกัมมันตภาพรังสีฟุ้งกระจายสู่อากาศอีกครั้ง โดยเตาปฏิกรณ์ดังกล่าวถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่ปี 1986 หลังเคยเกิดอุบัติเหตุจากนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อ 34 ปีก่อน

ไฟป่ากำลังลุกไหม้อย่างมากในป่าของยูเครนเหนือ ซึ่งใกล้กับเขตที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เคยระเบิกเมื่อ 34 ปีก่อน

ไฟป่ากำลังลุกไหม้อย่างหนักในป่าของยูเครนเหนือ ใกล้กับเขตที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เคยระเบิกเมื่อ 34 ปีก่อน

รายงานล่าสุดของ BBC เปิดเผยว่า Yaroslav Emelianenko ผู้ดำเนินการจัดทัวร์นักท่องเที่ยวในเขตนี้ระบุว่า ไฟป่าได้ลามเข้าไปถึงเมืองร้างอย่าง Pripyat ในยูเครนที่เคยใช้รองรับการจ่ายพลังงานเข้าไปยังโรงไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าว โดยไฟป่าอยู่ห่างจากจุดที่กักเก็บของเสียอันตรายไว้เพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วน Greenpeace ก็เปิดเผยว่าเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้ใหญ่กว่าที่ทางการของยูเครนคาดการเอาไว้ โดยไฟป่าได้ขยายวงกว้างกินพื้นที่ถึง 34,000 เฮคเตอร์ (ประมาณ 204,000 ไร่) และไฟป่าที่ลามเข้าใกล้โรงไฟฟ้าร้างนั้นห่างเพียง 1 กิโลเมตรนั้น กินพื้นที่ 12,000 เฮคเตอร์ (ประมาณ 72,000 ไร่)

ไฟป่าอยู่ห่างจากจุดที่กักเก็บของเสียอันตรายไว้เพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น

ไฟป่าอยู่ห่างจากจุดที่กักเก็บของเสียอันตรายไว้เพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น

นอกจากนี้ Emelianenko ยังเผยอีกว่า หากไฟเข้าปกคลุมเมือง Pripyat ก็สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่เมืองร้างแห่งนี้ไปเป็นจำนวนมาก จากสถิติในปี 2018 มีนักท่องเที่ยวมาที่เมืองแห่งนี้ทั้งปีเกือบ 70,000 คน และปีที่แล้ว 2019 ตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างมากจากความสำเร็จของมินิซีรีส์คุณภาพทาง HBO เรื่อง Chernobyl ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีก

เจ้าหน้าที่ของยูเครนกำลังเร่งดับไฟในพื้นที่ที่เกิดไฟป่า

เจ้าหน้าที่ของยูเครนกำลังเร่งดับไฟในพื้นที่ที่เกิดไฟป่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจของยูเครนเปิดเผยว่า ไฟไหม้ครั้งเลวร้ายนี้เกิดขึ้นยาวต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน หลังจากที่ชายคนหนึ่งจุดเผาหญ้าแห้ง ตั้งแต่นั้นมันก็ลามเข้าใกล้โรงไฟฟ้าเข้าไปเรื่อย ๆ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 300 นาย เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินที่ใช้ดับไฟ กำลังเร่งทำงานในพื้นที่เพื่อหยุดการลุกลามของไฟป่าครั้งนี้ให้ได้ Keteryna Pavlova ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการดับไฟป่าในครั้งนี้ เผยว่า พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่า จะสามารถควบคุมยับยั้งไฟได้สำเร็จภายในเมื่อไร “เราทำงานกันทั้งคืนเพื่อขุดแนวกันไฟป้องกันจากไฟป่า” และยังชี้ให้เห็นอีกด้วยว่า ระดับการแผ่รังสีในพื้นที่นั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติแล้วในตอนนี้

ภาพจากเครื่องวัดรังสีที่แสดงให้เห็นว่า ระดับการแผ่รังสีในพื้นที่นั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติแล้ว

ภาพจากเครื่องวัดรังสีที่แสดงให้เห็นว่า ระดับการแผ่รังสีในพื้นที่นั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติแล้ว

อ้างอิง

อ้างอิง

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส