วันนี้ Synology ได้เปิดเผยถึงสถิติการใช้งานในช่วงปีที่ผ่านมานี้ พร้อมทั้งแง้มโซลูชันใหม่ที่จะได้เห็นกันในปี 2023 ที่จะถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ รวมถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงต้นปีหน้าด้วย

ปี 2022 ที่ผ่านมา Synology มีอัตราการเติบโตกว่า 20 – 30% ทำให้มีรายได้รวมทั่วโลกมากกว่า 21,600 ล้านบาท (600 ล้านเหรียญ) ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2025 จะมียอดเติมโตสูงถึง 36,000 ล้านบาท (1,000 ล้านเหรียญ) ที่ให้เป็นแบรนด์ NAS อันดับ 1 ในตลาดทั่วโลก

ในปีหน้า Synology มีแผนที่จะมุ่งเน้น 3 ด้าน ด้านการจัดการข้อมูล ด้านการปกป้องข้อมูล และด้านการรักษาความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการเปิดตัวโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะทำให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น

ในปี 2023 จะมีการเปิดตัว Synology Scale-out ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ แก้ปัญหาความพร้อมในการใช้งานเมื่ออุปกรณ์ที่เสียหาย ให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด ซึ่งเดิมทีใน Synology High Availability (SHA) จะต้องใช้เวลาในการกู้คืนกลับมาให้พร้อมใช้งานในช่วงเวลาหนึ่ง

ด้วยคลัสเตอร์ Synology Scale-out นี้ จะสามารถขยายพื้นที่จัดเก็บได้สูงสุดถึง 12PB (12,000,000 GB) ทำความเร็วในการเขียนได้มากกว่า 60 GB/s และเชื่อมต่อใช้งานได้พร้อม ๆ กันมากกว่า 80,000 การเชื่อมต่อ

การอัปเดตจะมีการผลัดกันอัปเดตระหว่าง Node ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่ง Synology ก็ยังได้การันตีอีกด้วยว่าโซลูชันใหม่นี้จะมีความพร้อมในการใช้งานถึง 99.99%

สำหรับ Active Backup Suite โซลูชันสำหรับการสำรองข้อมูล ในปัจจุบันสามารถใช้ได้บนแพลตฟอร์มหรือบริการต่าง ๆ อย่าง Windows, File Server, VMWare, Microsoft 365, และ Google Workspace ซึ่งภายในสิ้นปี 2022 นี้ จะเพิ่มการรองรับการใช้งานบน macOS ด้วย

ส่วนในปีหน้า จะมีการเปิดตัวคลาวด์สำหรับ Active Backup บน C2 Cloud ในชื่อ (อย่างไม่เป็นทางการ) Synology Backup Cloud สามารถจัดการได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการสำรองข้อมูลที่อยู่บน Synology NAS หรืออยู่บน C2 Cloud

ในด้านของการรักษาความปลอดภัย Synology มีการเปิดตัว Synology Camera กล้องวงจรปิดที่ทำมาเพื่อใช้งานกับ Surveillance Station โดยเฉพาะ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างชาญฉลาด ผู้ใช้สามารถเพิ่มตัวกล้องเข้ากับระบบได้อย่างง่ายดาย (ไม่ต้องใช้ Surveillance License สำหรับ Synology Camera)

ตัวกล้องมี AI ในตัว ทำให้สามารถประมวลผลได้โดยตรงผ่านตัวกล้อง พร้อมแจ้งเตือนโดยตรงหากมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น รวมถึงยังสามารถทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ แม้เซิร์ฟเวอร์จะไม่สามารถใช้งานได้ก็ตาม โดยจะมีการบันทึกใน microSD Card และอัปโหลดขึ้นเซิร์ฟเวอร์ในภายหลังด้วย

นอกจากนี้ยังเปิดตัว Synology DS923+ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในบ้านและสำนักงานขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่มาแทน Synology DS920+ เดิมด้วย (อ่านรีวิวที่นี่) โดยรุ่นใหม่นี้ปรับไปใช้หน่วยประมวลผล AMD Ryzen R1600 แบบ Dual Core มาพร้อมแรม 4 GB ที่สามารถขยายได้สูงสุด 32 GB และสามารถอัปเกรดพอร์ตเป็น 10 GbE ได้ด้วย