หลังจากที่ Huawei ได้เปิดตัว MediaPad M3 แท็บเล็ตที่ร่วมพัฒนากับ Harman/Kardon เพื่อให้ได้ระบบเสียงบนอุปกรณ์พกพาที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น และวางขายในไทยเป็นประเทศที่สองในเอเชีย รองจากจีนเมื่องาน Thailand Mobile Expo ที่ผ่านมา เมื่อทีมงานเว็บแบไต๋ได้รับคำเชิญจากหัวเว่ยเพื่อร่วมทดสอบคุณภาพเสียงจาก Huawei MediaPad M3 กับอ. วิจิตร บุญชู กูรูเครื่องเสียงของเมืองไทย จึงไม่พลาดที่จะเก็บประสบการณ์มาเล่าให้ฟังกันครับ

ประวัติของ Harman Kardon

อ.วิจิตร บุญชู

อ.วิจิตร บุญชู

อ.วิจิตร บุญชู บรรณาธิการนิตยสารเครื่องเสียงหลายฉบับในไทยเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์เครื่องเสียง Harman/Kardon ให้ฟังกัน โดยประวัติของบริษัท Harman นั้นเต็มไปด้วยสีสันและทำในสิ่งที่ช็อคโลกมาแล้วหลายครั้ง เริ่มต้นจากผู้ก่อตั้งสองคน Sidney Harman และ Bernard Kardon รวมตัวกันเปิดบริษัท Harman/Kardon ในปี 1953 ในอเมริกาเพื่อผลิตเครื่องเสียง และเปลี่ยนชื่อเป็น Harman International ในปี 1956 หลัง Kardon ถอนตัวออกไป (แต่ตัวผลิตภัณฑ์ก็ยังใช้ชื่อ Harman/Kardon) จนในปี 1969 Harman ก็ได้เข้าซื้อกิจการของ JBL จนกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของเครือ

ในปี 1977 Sidney Harman ได้ขายกิจการของ Harman International ทั้งหมดให้กับ Beatrice Foods เพื่อเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลของประธานาธิบดี Jimmy Carter หลังจากลงจากตำแหน่งใน 1980 Sidney Harman จึงตั้งบริษัท Harman International Industries เพื่อซื้อกิจการทุกอย่างที่เขาขายออกไปกลับมา แต่ Beatrice Foods ดันขายกิจการในส่วนเครื่องรับหรือ Receiver ออกไปให้บริษัทญี่ปุ่น ซึ่งกว่า Harman จะซื้อกลับมาได้ก็ปี 1985 แล้ว

หลังจากบริหารเครือ Harman มายาวนาน Sidney Harman ก็เกษียณจากบริษัทในปี 2007 ด้วยวัย 88 และเสียชีวิตในปี 2011

Huawei MediaPad M3 ได้รับการปรับแต่งโดย Harman Kardon

m3-harman

MediaPad M3 นั้นมาพร้อมลำโพงคู่ 2 ด้าน ที่ทำงานร่วมกับ Harman/kardon เพื่อปรับจูนเสียงให้เหมาะสม ซึ่ง มาพร้อมเทคโนโลยี Super Wide Sound (SWS) 3.0 ทำให้เสียงมีมิติมากขึ้น และใช้ชิป DAC รุ่น AK4376 รองรับ 192 kHz/24 bit อ.วิจิตรให้ความคิดเห็นว่าเสียงจากลำโพงของ M3 นั้นให้เสียงกลาง และแหลมได้ดี แม้จะเร่งไปจนสุดก็ไม่แตกพล่าตามเอกลักษณ์ของ Harman ที่ทำเสียงช่วง 1 kHz ขึ้นไปได้ดี ไม่เพี้ยน นอกจากนี้ยังให้เสียงที่ดังกว่าแท็บเล็ตทั่วไป ทำให้ตัว MediaPad M3 นี้ได้รางวัล best of IFA 2016 ด้วย

ซึ่งทีมงานแบไต๋ก็ได้ทดลอง Blind test แท็บเล็ต MediaPad M3 กับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ที่ไม่ระบุยี่ห้อ ก็พบว่าเสียงลำโพงจาก M3 นั้นแตกต่างจากแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ได้ฟังได้ชัด ด้วยเนื้อเสียงที่คมกว่า ไม่แตกหรือเพี้ยนไป ส่วนในเรื่องของเสียงเบสนั้น ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องปกติของลำโพงขนาดเล็กครับ ที่จะไม่มีเสียงเบสเท่าใดนัก

ความสามารถของแท็บเล็ตที่ยังมาครบ

m3-device

นอกจากเรื่องเสียงแล้ว Huawei MediaPad M3 ยังต้องทำหน้าที่แท็บเล็ตที่ดีด้วย โดยจอภาพของ M3 มีขนาด 8.4 นิ้ว ให้ความละเอียด 2K 2560 x 1600 pixel 16:10 สัดส่วนพื้นที่จอ 82% ต่อพื้นที่เครื่อง มีระบบปรับภาพให้สีสดใส เร่ง contrast ให้สูงขึ้น ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ M3 สามารถปรับความสว่างแสงได้นุ่มนวลแบบ 12-bit หรือมีความละเอียดความสว่าง 4096 ระดับ พร้อมความสามารถลดแสงสีฟ้า ช่วยให้ใช้งานได้สบายตาขึ้นแม้อยู่ในยามค่ำคืน

ในเรื่องประสิทธิภาพ Huawei MediaPad M3 ใช้ชิป kirin 950 ที่ใช้ใน Mate 8 เป็น 8-แกน แรม 4GB รอม 32 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 128 GB รองรับ 4G ในตัว

แท็บเล็ตรุ่นนี้สามารถใส่ซิม และโทรออกได้นะครับ แต่ไม่สามารถยกเครื่องขึ้นแนบหูได้ เพราะไม่มีลำโพงสำหรับแนบหู ก็ใช้งานในแบบ Speaker Phone หรือใช้ผ่าน Bluetooth แทนแล้วกันนะครับ

ในส่วนแบตเตอรี่ 5100 mAh ดูหนัง fullHD ได้ 3 เรื่อง (11 ชั่วโมง) ฟังเพลงได้ 2 วัน นอกจากนี้ในตัวเครื่องยังมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือ และสามารถทำงานแทนปุ่มหลักของ android ได้ด้วย ส่วนของกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล f/2.0 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

ทีมงานเว็บแบไต๋และสื่ออื่นๆ ร่วมทดสอบคุณภาพเสียง

ทีมงานเว็บแบไต๋และสื่ออื่นๆ ร่วมทดสอบคุณภาพเสียง

Huawei MediaPad M3 ตั้งราคาไว้ 12,900 บาท