หลังจากที่เปิดตัว Galaxy Note 5 ไปได้เพียงคืนเดียวทาง Samsung ประเทศไทยก็ได้จัดงาน The Next Galaxy Note 5 TH เปิดตัว Samsung Galaxy Note 5 ในวันถัดมา (วันที่ 14 สิงหาคม) และที่สำคัญคือทางซัมซุงประเทศไทยก็ได้นำเครื่องมาให้ทดลองสัมผัสกันทันทีในงานครับ

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันสมาร์ทโฟนขนาด 5 นิ้วขึ้นไป ถือเป็นขนาดมาตรฐาน เพราะปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนเพียงเพื่อรับสายและโทรออกเท่านั้น แต่ยังใช้เล่นเกม ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต แชทคุยกับเพื่อน เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค รวมทั้งใช้เพื่อเสพความบันเทิงและทำงาน ดังนั้นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดเล็กกว่า 5 นิ้ว จึงไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้อีกต่อไป เห็นได้จากสัดส่วนสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่กว่า 5.5 นิ้ว มีสัดส่วนสูงขึ้น จาก 30% ในช่วงไตรมาสแรกปี 2557 เพิ่มเป็น 44% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ในทุกๆ ครั้งที่ซัมซุงนำเสนอนวัตกรรมออกมา ซัมซุงจะค้นคว้า ศึกษา และรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสิ่งนี้เป็นแรงผลักดันให้ซัมซุงก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่มีความหมายต่อผู้บริโภค เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและสะดวกสบายขึ้น การเปิดตัวกาแลคซี่ โน้ต 5 คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาของซัมซุง ด้านการนำเสนอนวัตกรรมที่โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุดสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง”

a5d64as5d4as6d

ซึ่งจากที่สัมผัสดูก็บอกได้ว่ามันโค้งรับกับอุ้งมือจริง ๆ พร้อมความสวยงามของฝาหลัง Aluminium 7000 Series ที่เขากล่าวว่าแข็งแรงกว่าเดิมถึง 70% สามารถถือมือเดียวพร้อมกับ #SPen ได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญคือการใช้งานค่อนข้างลื่นไหลไม่มีติดขัดและหน้าจอแบบ flat ทำให้การใช้กับปากกา S Pen ลื่นไหล โดยเฉพาะ ระบบ Off-Screen Memo ที่สามารถจดโน็ตได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ เพียงแค่คุณถอด S Pen ออกมา ระบบจะเข้าโหมดนี้โดยอัตโนมัติ และเราสามารถเอา App ใช้ประจำไปใส่ใน Shortcut ของ Note 5 ได้ถึง 3 แอปเลยทีเดียว แถมระบบ Capture Screen ที่ไม่เพียงแค่สามารถ Capture หน้าจอเฉย ๆ แต่เรายังสามารถ Capture แบบไดคัทได้อีกด้วย และยังมีระบบ Scroll Capture ที่สามารถเก็บภาพหน้าจอได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องมานั่ง capture หลาย ๆ รอบให้เมื่อย เหมาะกับผู้ที่อยากเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ไว้อ่าน offline เป็นอย่างมาก (และแน่นอนว่าสามารถจด note ลงไปได้ด้วย)

4

และจากการทดสอบกล้องของ Note 5 ฟังชัน Blurless Photo ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าทำได้ดีมากครับ ขนาดสะบัดมือถ่ายยังสามารถถ่ายภาพได้ค่อนข้างคมชัด งานนี้คนที่ถ่ายภาพไม่เก่งหรือมือสั่นก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป แถมมีระบบ camera filter ที่สามารถแต่งภาพระหว่างการถ่ายภาพได้ทันที พร้อม Steady Video ทำให้การถ่ายวิดีโอเซลฟี่ภาพที่ได้จะนิ่งกว่าเดิมเพราะระบบจะล็อคหน้าของคนถ่ายตลอดเวลา และระบบ video collage ที่จะแต่งวิดีโอของคุณเพื่อลงใน ig ได้แบบไม่ซ้ำใคร สามารถถ่ายวิดีโอ 4 รอบเพื่อนำมาเป็น 1 frame ก็ได้ หรือจะถ่ายวิดีโอเพื่อเอามาทำเป็น 4 ภาพ Slowmotion ก็ยังได้

ภาพจากกล้อง Galaxy Note 5 ครับ

แต่ในส่วนของ Live Broadcast ทางเราไม่สามารถทดสอบได้ แต่เขาได้พูดถึงว่า จะสามารถเลือกแค่คนที่รู้จักเข้ามารับชมได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนระบบ fast charging จะสามารถชาร์จ Note 5 ได้เต็มในเวลา 120 นาทีสำหรับ Wireless Charger และชาร์จผ่านสายจะใช้เวลาเพียง 90 นาทีเท่านั้น

และสุดท้ายนี้ทาง ซัมซุง ได้เผยราคาพร้อมวันวางจำหน่าย ออกมาแล้วคือ วันที่ 21 สิงหาคมนี้นั่นเอง (ไวมากกกกก)

โดยจะวางจำหน่าย 2 สีด้วยกันคือสีทอง Gold Platinum และสีเงิน Silver Titanium ในราคา 25,900 บาทสำหรับรุ่น 32GB และ 29,900 บาทสำหรับรุ่น 64GB ส่วนสีดำจะมาในเดือนตุลาคมนี้และสีขาวยังไม่มีกำหนดการออก บอกเลยงานนี้เตรียมเงินของคุณเอาไว้ให้พร้อม เพราะเขามาไวจริง ๆ

ราคาของตัวอุปกรณ์เสริม

  • S View: ราคา 1,490 บาท
  • Clear View: ราคา 1,690 บาท
  • Clear Cover: ราคา 890 บาท
  • Glitter Cover: ราคา 890 บาท
  • Fast Wireless Charger: ราคา 1,690 บาท แต่ถ้าคุณซื้อ Galaxy Note 5 ก่อน 13 กันยายนนี้จะลดเหลือเพียง 1,190 บาท (ลดไปตั้ง 500 แหน่ะ)

 

3

ข้อดีของ Note 5 ตัวนี้คือผิวสัมผัสที่จับแล้วรู้สึกถึงความหรูหรา และปากกา S Pen ที่บอกได้เลยว่าทำมาดีมาก ๆ และฟีเจอร์กล้องออกแบบมาตอบโจทย์ Lifestyle ยุคปัจจุบันและอนาคตจริง ๆ

ในส่วนของข้อสังเกตคือ ผู้ที่ไม่เคยสัมผัส Note มาก่อนจะงงเพราะมีฟังชันมากมายที่คุณไม่คุ้นเคย แต่ถ้าใช้ไปซักพักก็น่าจะทำความเข้าใจได้ไม่ยากมากนัก และความละเอียดภาพของฟังชัน video collage ที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ภาพที่ออกมาไม่ชัดเท่าที่ควร และปัญหาใหญ่คือ… อาจจะต้องขายไตเพื่อซื้อก็เป็นได้ (เพราะราคาที่สูงมาก แต่ Spec เขาเทพจริง ๆ ครับ)