ฝ่ายขาย และการตลาด
085-848-2253[email protected]http://m.me/beartai
สมัครงาน/ฝึกงาน ติดต่อได้ที่
[email protected]
Read
| IT News

ย้อนรอยพอร์ต Lightning – สมัยนั้นคือของดี แต่ตอนนี้มันล้าหลังแล้วนาย

Tabel of Content

Apple เป็นบริษัทที่มักจะเลือกสิ่งที่แตกต่างจากชาวบ้านมาโดยตลอด อย่างยุคสมัย iPod ที่สามารถปฏิวัติวงการเพลงสมัยนั้นได้ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องการเล่น MP3 ได้ แต่ยังจัดการไลบรารี่ได้ง่าย ทำให้ iPod ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ในยุคนั้น Apple เลือกใช้พอร์ต FireWire สำหรับ iPod ที่เปิดตัวในปี 2001 ซึ่งมีความเร็ว 400Mbps หรือเร็วเกือบเท่ากับ USB 2.0 ที่ 480Mbps จนกระทั่ง iPod รุ่นที่ 3 ก็ได้เปลี่ยนจากพอร์ต FireWire เป็น 30 Pin Connector ที่ไม่เหมือนกับชาวบ้านเหมือนเดิม รวมถึง iPhone ก็ใช้พอร์ตชนิดนี้ด้วยเหมือนกัน

แต่หลังจาก 30 Pin Connector อยู่มาได้นานถึง 1 ทศวรรษ Apple ก็ได้เปิดตัวพอร์ตใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Lightning ใน iPhone 5 เมื่อปี 2012 แน่นอนว่าในตอนนั้นสร้างความไม่พอใจให้ใครหลายคนเหมือนกัน เพราะยุคที่ 30 Pin Connector ครองตลาด อุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศของ Apple เช่น ลำโพง ต่างใช้พอร์ต 30 Pin Connector กันหมด เมื่อ Apple เปลี่ยน นั่นหมายความว่าสินค้ากลุ่มนั้นก็จะหมดยุคลงทันที

ความพิเศษของ Lightning คือเป็นพอร์ตที่สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ฝั่ง ลดจำนวนพินลงจาก 30 พินเหลือเพียง 8 พินต่อด้าน (USB-C มีทั้งหมด 24 พิน) เสียบพอร์ตได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเล็งก่อน ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับพอร์ตของ Android ในสมัยนั้นที่นิยมใช้เป็น micro USD แต่ข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพทำให้ Lightning นั้นดูว้าวเพียงแค่ช่วงแรกของการเปิดตัว เนื่องจาก Lightning จำกัดความเร็วไวแค่ระดับ USB 2 หรือ 480Mbps เท่านั้น ไม่ได้เร็วไปกว่าพอร์ต FireWire ที่ใช้ใน iPod รุ่นแรกเท่าไหร่นัก

ทั้งนี้มี iPad Pro รุ่นก่อนมาใช้พอร์ต USB-C ที่รองรับความเร็วระดับ USB 3.2 Gen 1 หรือมากถึง 5Gbps นั่นหมายความว่าจริง ๆ แล้ว Apple สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการโอนถ่ายข้อมูลที่เร็วขึ้นได้ แต่ไม่ยอมเองมากกว่า

ตอนนี้ Lightning ก็เดินทางมาด้วยระยะเวลา 1 ทศวรรษตามที่ ฟิล ชิลเลอร์ (Phil Schiller) กล่าวว่า “modern connector for the next decade” ซึ่งก็ครบเวลาแล้วนะ ถึงเวลาของพอร์ตใหม่แล้วแหละ

จริง ๆ สินค้าส่วนใหญ่ของ Apple ก็มีการเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C เกือบหมดแล้ว เช่น Mac, iPad หรือรีโมตของ Apple TV เป็นต้น มีสินค้าเพียงไม่กี่กลุ่มที่ยังคงใช้ Lightning เช่น iPhone, AirPods หรือคีย์บอร์ดเสริม เป็นต้น

ต้องขอบคุณมาตรการของสหภาพยุโรปที่บังคับให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ในตลาดเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C หากจำวางจำหน่ายในยุโรป แน่นอนว่า Apple ก็ต้องปฏิบัติตามด้วยเช่นเดียวกัน

ที่มา GSMArena

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

Highlight

Xiaomi 17 Ultra เปิดตัวเป็นทางการ ยัดโหดกล้อง 1 นิ้ว ซูม 200 MP แบตฯ อึด 6,800 mAh พร้อมรุ่น Leica Edition ดีไซน์คลาสสิก

26/12/2025
Read More

Huawei Cloud ครองตำแหน่งผู้นำจากรายงาน Omdia พร้อมขึ้นอันดับ 1 ด้านกลยุทธ์และนวัตกรรม

26/12/2025
Read More

ซื้อดีไหม ? HUAWEI MatePad 12 X 2026 สรุปฟีเจอร์เด่นที่น่าโดนในราคาไม่เกินสองหมื่น 

26/12/2025
Read More

แว่นตา AI เปลี่ยนเสียงรอบตัวเป็น “ซับไตเติล” แบบ Real-time ช่วยผู้บกพร่องทางการได้ยิน

26/12/2025
Read More

ญี่ปุ่นทำถึง ! เปิดตัว เครื่องซักมนุษย์ อาบ-ล้าง-เป่าแห้ง จบใน 15 นาที ค่าตัว 13 ล้านบาท

26/12/2025
Read More

เตือน ! ผู้มีสิทธิ “ถ้าไม่ไปเลือกตั้ง – ไม่แจ้งเหตุ” จะถูกจำกัดสิทธิตามกฎหมาย

26/12/2025
Read More

Related Content