สำนักข่าว CNBC รายงานโดยอ้างข้อมูลบันทึกภายในของทวิตเตอร์ (Twitter) ว่าบริษัทมีพนักงานประจำลดลงเหลืออยู่ประมาณ 1,300 คน ประกอบด้วยวิศวกรประจำที่ทำงานแบบเต็มเวลาเหลือน้อยกว่า 550 คน และมีพนักงานประจำในทีม Trust and Safety ซึ่งดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้เหลืออยู่น้อยกว่า 20 คน ทั้งนี้ซีอีโอ อีลอน มัสก์ได้ดึงพนักงานจากธุรกิจอื่น ๆ ของเขามาช่วยงานประมาณ 130 คน ที่มาจาก เทสลา สเปซเอ็กซ์ และเดอะบอริ่ง

ก่อนการเข้าครอบครองทวิตเตอร์ของมัสก์ เมื่อปี 2022 ทวิตเตอร์มีพนักงานประจำอยู่ประมาณ 7,500 คน ต่อมาเมื่อมัสก์เข้ามาซื้อกิจการทวิตเตอร์ก็ได้มีการปรับลดพนักงานและให้ลาออกอย่างสมัครใจรวมประมาณ 80% ซึ่งเหลืออยู่ประมาณ 1,300 คน และพบว่ามีพนักงานลาหยุด 75 คน ประกอบด้วยวิศวกรประมาณ 40 คน

นอกจากนี้บันทึกภายในยังเผยว่าทวิตเตอร์มีพนักงานที่ไม่ได้ทำงานหรือไม่มีงานทำโดยที่บริษัทยังต้องจ่ายค่าจ้างอยู่ประมาณ 1,400 คน สรุปง่าย ๆ บริษัทยังต้องแบกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อยู่

ดังนั้นจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าจากจำนวนบุคลากรที่มีอยู่ ทวิตเตอร์จะต้องพยายามรักษาบริการให้มีความน่าเชื่อถือและต้องพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งดูแล้วเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ไม่แน่ว่าพี่มัสก์อาจจะเข็นให้เติบโตขึ้นได้ก็ต้องดูกันต่อไป

ทวิตเตอร์ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ปลดพนักงาน เนื่องจากปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่แย่ลงส่งผลให้บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ได้ทยอยกันปลดพนักงาน เดือนพฤศจิกายน 2022 เมตา (เฟซบุ๊ก : Facebook) ได้อีเมลแจ้งพนักงานว่าจะมีการปลดพนักงาน 13% หรือประมาณ 11,000 คน และ 2 วันที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เผยว่ามีแผนจะปลดพนักงาน 10,000 คน ตามด้วย แอมะซอน (Amazon) ได้แจ้งพนักงานทางอีเมลว่ามีแผนจะปลดพนักงานทั่วโลก 18,000 คน และเมื่อวานนี้ อัลฟาเบต (Alphabet) หรือกูเกิลแจ้งปลดพนักงานทั่วโลกประมาณ 12,000 คน หรือ 6%

ต่อมา Elon Musk ได้ออกมาโต้รายงานของ CNBC ชิ้นนี้ว่าไม่เป็นความจริง

ที่มา : cnbc

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส