พนักงานของ Google จำนวนมากจากทั่วโลก “ร่วมประท้วงหยุดงาน” เนื่องจากทาง Google ได้แสดงความไม่เสมอภาคทางเพศ และมีวัฒนธรรมบริษัทที่ปกป้องผู้บริหารที่ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศ

ภาพจากทวิตเตอร์ @JacoboTarrio

การประท้วงดังกล่าว มีเหตุมาจากการที่ New York Times ได้เปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าววงในว่า Andy Rubin ผู้สร้างซอฟต์แวร์ Android ได้ถูกพนักงานหญิงกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศเมื่อปี 2013 โดยทาง Google ได้ดำเนินการตรวจสอบและพบว่าคำกลาวหานั้นเชื่อถือได้ จึงขอให้ แอนดี รูบิน ลาออก

แต่แทนที่ Andy Rubin จะถูกไล่ออก ทาง Google กลับยกย่องการลาออกของเขาราวกับเป็นวีรบุรุษ และมอบเงินก้อนโตจำนวน 90 ล้านเหรียญ โดยจ่ายเป็นงวด ประมาณ 2 ล้านเหรียญต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 ปี

ไม่เพียงแค่นั้น ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ยังมีผู้บริหารอีก 2 คน ที่ Google ได้ปกป้องหลังจากถูกกล่าวว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ

แอนดี รูบิน ผู้สร้างซอฟต์แวร์ Android

ทาง BuzzFeed ได้รายงานว่า การประท้วงดังกล่าวได้เริ่มต้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่พนักงานราว 200 คน ได้รับทราบข้อมูลจาก New York Times และแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของทางบริษัท ซึ่งได้ขยายวงกว้างไปยังออฟฟิศของ Google ในประเทศสิงคโปร์, ญี่ปุ่น, อิสราเอล, สวิสเซอร์แลนด์, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์

การประท้วงหยุดงานที่ใหญ่ที่สุดนั้นเกิดขึ้นที่นิวยอร์ก, ซานฟรานซิสโก และสำนักงานใหญ่ของ Google ที่ Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย

ภาพจากทวิตเตอร์ @skim287

ผู้จัดการประท้วงได้กล่าวว่า “ในฐานะพนักงานของ Google เรารู้สึกสะอิดสะเอียนกับรายละเอียดที่ New York Times ได้เปิดเผย ซึ่งเป็นตัวอย่างล่าสุดของวัฒนธรรมบริษัทที่สนับสนุนผู้กระทำผิดในการล่วงละเมิดทางเพศ เป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด และเป็นส่วนหนี่งของรูปแบบการเหยียดที่มีมาอย่างยาวนาน”

ทางด้าน ศุนทัร ปิจไช ซีอีโอของ Google ได้อนุมัติการประท้วงอย่างไม่เป็นทางการ โดยได้ส่งอีเมลไปยังพนักงานเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาว่า “คุณจะได้รับการสนับสนุนเท่าที่คุณต้องการ”

“พวกคุณบางส่วนได้นำเสนอไอเดียที่เราจะใช้พัฒนานโยบายของบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้าได้ ผมจะรับทุกความเห็นของคุณเพื่อให้เปลี่ยนเป็นการกระทำได้จริง ๆ”

ศุนทัร ปิจไช ซีอีโอของ Google

กลุ่มผู้จัดการประท้วงได้เสนอสิ่งที่ต้องการให้ Google เปลี่ยนแปลง 5 ประการ ดังนี้

  • ให้สิ้นสุดการบังคับโดย “อนุญาโตตุลาการ” ในคดีที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดและการเลือกปฏิบัติ
  • ให้หยุดการจ่ายเงินและค่าตอบแทนแก่ผู้กระทำผิด และแสดงให้เห็นความเท่าเทียมกัน
  • ให้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับกาคุกคามทางเพศ เพื่อแสดงให้เห็นความโปร่งใส
  • สร้างขั้นตอนที่ชัดเจนในการรายงานเหตุล่วงเมิดทางเพศได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องระบุตัวตนของผู้แจ้ง
  • ให้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการความหลากหลายในองค์กร (Chief Diversity Officer) แจ้งเหตุโดยตรงต่อซีอีโอ และแสดงข้อเสนอแนะ (จากทางพนักงาน) โดยตรงต่อบอร์ดบริหาร

ภาพจากทวิตเตอร์ @GoogleWalkout

ภาพจากทวิตเตอร์ @MishCastillo

ในส่วนของโลกโซเชียลนั้น ได้มีการเคลื่อนไหวอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการหยุดงานประท้วงในครั้งนี้ เช่น

  • พนักงานราว 150 คน จากออฟฟิศเมืองคุร์เคาน์, มุมไบ และไฮเดอราบาด ของประเทศอินเดีย
  • พนักงานจำนวนหนึ่งที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้มาร่วมประท้วง

กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง ที่สำนักงานใหญ่ของ Google ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (ภาพจากทวิตเตอร์ @MarkDiStef)

กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง ที่สำนักงานใหญ่ของ Google ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (ภาพจากทวิตเตอร์ @MarkDiStef)

  • กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนมารวมตัวกันที่ ลอสแอนเจลิส

ภาพจากทวิตเตอร์ @GoogleWalkout

ภาพจากทวิตเตอร์ @GoogleWalkout

  • ผู้คนนับร้อยในย่าน Chelsea ของนครนิวยอร์ก ได้ร่วมเดินประท้วงผ่านถนน 14th Street Park
  • ผู้คนรับร้อยได้รวมตัวกันในสนามหญ้าของ Google ที่ Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อฟังเรื่องราวการคุกคามทางเพศสุดสะเทือนใจจากผู้หญิงหลายคน

ล่าสุด Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ได้กล่าวภายในงานประชุม The New York Times DealBook เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2018 ว่า “จากเหตุที่เกิดขึ้นได้แสดงให้เห็นว่าเรามิได้ทำทุกอย่างถูกต้องเสมอไป แต่เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ดีขึ้น”

ศุนทัร ปิจไช ซีอีโอของ Google

ข้อมูลอ้างอิง : buzzfeednews