เราได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดพี่เอยมานานว่าออฟฟิศของกูเกิลนั้นเป็นแดนสวรรค์สำหรับคนทำงานยุคใหม่เลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศจริงๆ สักที จนเมื่อทีมงานแบไต๋.คอมได้มีโอกาสร่วมงานเปิดบ้านของกูเกิลประเทศไทยจึงไม่พลาดที่จะเก็บเรื่องราวที่ได้ ที่สัมผัสได้เลยว่าหนึ่งในความสำเร็จของกูเกิ้ลก็อยู่ในเรื่องราวที่หมุนวนอยู่ในออฟฟิศนี่แหละ

GoogleThai01

กูเกิลเริ่มตั้งสำนักงานในกรุงเทพอย่างเป็นทางการราวเดือนสิงหาคม 2011 ซึ่งคุณอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำประเทศไทยของกูเกิลเล่าว่า วันแรกที่เริ่มงานกับกูเกิลรู้สึกตกใจกับสำนักงานมาก เพราะเป็นเพียงห้องขนาดเล็กขนาดพอดีกับพนักงานที่มีอยู่ตอนนั้น (นับได้ 3 คนคือคุณอ้อ-พรทิพย์ คุณเอมี่และคุณอริยะ) ซึ่งผิดกับภาพของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ มีพนักงานเป็นหมื่นๆ ของกูเกิลมาก

หลังจากที่กูเกิลเริ่มจริงจังกับตลาดไทยมากขึ้น ทีมงานกูเกิลไทยได้สร้างผลงานนับร้อยโครงการ (ที่เห็นได้ชัดๆ ก็เช่น Google.co.th, Google Maps ที่เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานไทย, Google Street View ในไทย, Youtube ประจำประเทศไทย หรือระบบรับรู้เสียงภาษาไทย) ก็ถึงเวลาที่สำนักงานประจำประเทศไทยจะต้องขยับขยายเพื่อรองรับทีมงานและปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ออฟฟิศใหม่ใจกลางกรุงเทพบนชั้น 14 ของอาคารปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ถนนวิทยุจึงถือกำเนิดขึ้น

ออฟฟิศบริษัทไฮเทค กลิ่นอายประเทศไทย

GoogleThai02

ถ้าคิดว่าสำนักงานกูเกิ้ลนั้นจะมีเรื่องล้ำๆ มากมายก็เป็นความคิดที่ไม่ผิดอะไรครับ เพราะเทคโนโลยีหลายอย่างที่ทีมงานแบไต๋.คอมไปเห็น อย่างระบบการประชุมทางไกล หรือการจัดการต่างๆ นั้นใช้เทคโนโลยีเฉพาะของกูเกิลที่ใช้ในสำนักงานเท่านั้น จึงไม่สามารถถ่ายภาพมาฝากกันได้ แต่สิ่งหนึ่งที่กูเกิลเปิดกว้างสำหรับพนักงานคือโอกาสในการเสนอความคิดเห็นว่าสถานที่ทำงานของเขาควรเป็นอย่างไร

ออฟฟิศของกูเกิลประเทศไทยจึงมีกลิ่นอายของความเป็นไทยในแบบร่วมสมัยตามที่พนักงานได้เสนอเข้ามา ทั้งชื่อห้องต่างๆ ที่ใช้เรื่องราวในประเทศไทยมาตั้ง อย่างห้องต้มยำกุ้ง, ห้องหัวหิน, ห้องเกาะหลีเป๊ะ, ห้องรัตนโกสินทร์ การตกแต่งที่มีทั้งภาพของหนังใหญ่วัดขนอน รถตุ๊กตุ๊กหน้าออฟฟิศ (ที่กูเกิลไปซื้อรถตุ๊กตุ๊กของจริงมาตกแต่ง) หรืองานสตรีทอาร์ทแสดงภาพวัฒนธรรมจีนร่วมสมัย ผลงานของชาย-พงศธร ลิมานนท์ในห้องเยาวราช ห้องอาหารใหญ่ของออฟฟิศกูเกิลไทย

เคล็ดลับการสร้างนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่สำนักงาน

GoogleThai03

กูเกิลเป็นบริษัทชั้นนำที่สร้างนวัตกรรมมากมายให้โลกใบนี้นะครับ จนเรียกได้ว่าธุรกิจหลักของกูเกิ้ลคือการสร้างนวัตกรรม ซึ่งกว้างกว่าธุรกิจค้นหาอย่างเดียว แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากการเยี่ยมบ้านกูเกิลประเทศไทยบ้าง มาดูคำใบ้กันดีกว่า

  • โต๊ะและเก้าอี้ในสำนักงานกูเกิลจะตั้งอยู่เป็นกลุ่ม แม้ว่าจะเป็นโซนพักผ่อน
  • ห้องประชุมมีหลายขนาดและมีอุปกรณ์พร้อมใช้ตลอดเวลา
  • ผู้บริหารไม่มีห้องส่วนตัว นั่งอยู่ในหมู่โต๊ะพนักงาน
  • มีโต๊ะว่างๆ จำนวนหนึ่งที่พร้อมให้พนักงานกูเกิลจากที่อื่นๆ มาใช้งาน

ใช่ครับ สิ่งหนึ่งที่กูเกิ้ลเน้นมากคือการพูดคุยระดมสมองกันของพนักงาน ซึ่งการพูดคุยนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่การประชุมเต็มรูปแบบ แต่เป็นการคุยกันกลุ่มเล็กๆ เพื่อสร้างเรื่องที่อยากจะทำ เมื่อออฟฟิศออกแบบมาให้เอื้อต่อการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอะไรๆ มันก็ง่าย

เคล็ดลับการสร้างนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ อีกส่วนอยู่ที่วัฒนธรรมองค์กร

GoogleThai04

นอกจากเรื่องออฟฟิศแล้ว ทีมงานแบไต๋.คอมยังเห็นอะไรจากการเยี่ยมชมสำนักงานของกูเกิลในครั้งนี้อีก

  • พนักงานเข้ากี่โมง กลับกี่โมงก็ได้ (แต่ถ้ามาเสาร์-อาทิตย์ จะไม่มีอาหารปรุงสดในห้องเยาวราชนะ)
  • บัตรพนักงานกูเกิลใช้เข้าสำนักงานได้ทั่วโลก
  • ปลูกฝังให้พนักงานท้าทายกูเกิ้ล ท้าทายตัวเอง ท้าทายคนอื่น เพื่อทำสิ่งที่ยิงใหญ่กว่าเดิม
  • มีโอกาสตั้งคำถามกับผู้บริหารระดับสูงเสมอ
  • จริงจังกับเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เราจึงไม่สามารถถ่ายรูปโต๊ะพนักงานมาให้ดูได้
  • KPI ของกูเกิ้ลคือ OKR (objective key resource) ว่าสิ่งที่กำลังทำสอดคล้องกับพันธกิจของกูเกิ้ลหรือไม่
  • ถ้าทำงานไม่สำเร็จก็ต้องบอกได้ว่าเพราะอะไรทำให้มันไม่สำเร็จ

จุดตายสำคัญที่ทำให้อดีตบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกต้องล้มหายไปคือความไม่กระตือรือล้นแสวงหาความสำเร็จใหม่ๆ ยังคงจมปรักอยู่กับความสำเร็จเดิมๆ ซึ่งเรื่องนี้เห็นชัดมากกับบริษัทในโลกไอที ที่เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วยิ่งกว่าจรวด ความยิ่งใหญ่ในวันนี้ อาจจะไม่มีค่าอะไรในอนาคตก็ได้ ถ้าปรับตัวตามกระแสไม่ทัน (ภาพของ BlackBerry, Nokia, AOL, Microsoft ฯลฯ ลอยเข้ามา) ซึ่งจากวัฒนธรรมองค์กรของกูเกิ้ลที่ให้ความเป็นอิสระ ทั้งรูปแบบการทำงาน และอิสระในการแสดงความคิดเห็น แต่ก็บรรยากาศก็ส่งเสริมให้พนักงานรู้หน้าที่ จึงทำให้เกิดผลงานที่ไม่คาดฝันได้เสมอๆ

พนักงานกูเกิลจะเก็บข้อมูลเรียกว่า Google Guide ว่าชีวิตในกูเกิลเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็ให้ความคิดเห็นถึงประสบการณ์การสัมภาษณ์ 20 ครั้งกว่าจะได้เริ่มงานว่ามันเยอะไปรึเปล่า แล้วจำนวนแค่ไหนถึงจะพอดี ซึ่งก็สอดคล้องกับพนักงานกูเกิลหลายคนที่บอกว่าไม่มีเวลาทำงานเพราะต้องสัมภาษณ์ผู้สมัครอยู่ ต่อมากูเกิลจึงมีกฏ rule of four คือสัมภาษณ์แค่ 4 คนเท่านั้นก็รู้ผลพรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิลประเทศไทย

สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ากูเกิล (ประเทศไทย)

GoogleThai05

  • Googley คือบุคลิกของคนที่ทำงานในกูเกิ้ล
  • Doooon’t be evil วัดจากความสุขของผู้ใช้ทั่วโลก ทำยังไงให้ผู้ใช้มีความสุข ผู้ใช้งานต้องเป็นอันดับแรกในการสร้างสรรค์
  • TGIF (Thank God It’s Friday) ตอน 4 โมงเย็นจะดึงพนักงานมาคุยกันว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเราทำอะไรบ้าง ช่วยเหลือสังคมกันแค่ไหน ในกูเกิ้ลไทยก็มี Culture Club เป็น Social TGIF
  • การตัดสินใจของกูเกิ้ลอิงจากวิทยาศาสตร์และข้อมูล เคยมีเรื่องเล่ากันว่าการจะเลือกโทนสีเพื่อใช้ในการออกแบบ ยังมีการสำรวจหาสีที่เหมาะสม (ก็ถ้าเป็นที่อื่น ดีไซเนอร์ก็เลือกเองไปแล้ว)
  • ส่วนต้อนรับของกูเกิลไทยนอกจากจะมีรถตุ๊กตุ๊กแล้ว ยังมีจอแสดงคำค้นหาในปัจจุบันให้ผ่านโดยดึงจาก Google Trend
  • อาหารในห้องเยาวราชเยอะอย่างนี้ทุกวัน ไม่ใช่แค่เยอะเฉพาะวันที่รับสื่อเยี่ยมชมบ้าน โดยอาหารทำโดยบริษัทภายนอก ไม่ได้ปรุงบนตึก
  • ในออฟฟิศของกูเกิลไทย มีบริการนวด มีโต๊ะสนุ๊กเกอร์ มีเกมคอนโซล มีวิวสนุกๆ ของ Central Embassy ที่กำลังก่อสร้างให้ดู
การอยู่ในองค์กรที่มีคนเก่งๆ อาจจะเจ็บปวดบ้างตรงที่ไม่ได้เป็นคนที่เก่งที่สุด แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้อริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ กูเกิลประเทศไทย