Huawei เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจสมาร์ตโฟนที่กำลังก้าวเข้าสู่อันดับท็อปของโลกก็ต้องถูกสกัดขาโดยอดีตประธานาธิบดี Donald Trump จนต้องขายแบรนด์ย่อยอย่าง Honor ออกไปเพื่อให้สามารถประคองธุรกิจต่อไปได้ และหลุดอันดับท็อป 5 สมาร์ตโฟนขายดีของโลกไปแล้ว

จากข้อมูลของ Forbes ระบุว่า Huawei วางระบบเอาไว้ให้ใกล้เคียงกับ Apple คือพยายามควบคุมการสร้างของระบบให้ได้ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยหัวหน้าธุรกิจ Huawei ในสหราชอาณาจักรบอกว่า “เราเป็นหนึ่งในสองบริษัทที่สามารถออกแบบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้ มีเพียง Huawei และ Apple เท่านั้นที่ทำได้ โดยนี่เป็นกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท”

เมื่อสองปีก่อน หรือช่วงปี 2019, CEO ของ Huawei เหริน เจิ้งเฟย ได้ยอมรับกับสื่อว่าตนก็ใช้ iPhone เช่นเดียวกัน และซื้อให้ครอบครัวตัวเองใช้ด้วย “iPhone มีระบบนิเวศที่ดีมาก Apple เป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของโลก รวมถึงเป็นครูของผมด้วย”

โดยในปี 2021 นี้เอง เหริน เจิ้งเฟย ได้กล่าวชม iPhone อีกครั้งโดยบอกว่า iPhone 12 เป็นสมาร์ตโฟนที่มีระบบ 5G ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเหริน ยอมรับว่าตนก็ใช้ iPhone 12 อยู่เช่นเดียวกัน และใช้เพื่อการโพรโมตอุปกรณ์โครงข่าย 5G ของ Huawei ด้วย

“เราสนับสนุนความก้าวหน้าของ iPhone ซึ่งเป็นมือถือที่มีความเร็วในการดาวน์โหลด 5G สูงสุดถึง 1.82 Gbps ซึ่งนั่นเองก็มาจากการที่เราพัฒนาอุปกรณ์โครงข่าย 5G ที่ดีที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน เราทำอุปกรณ์โครงข่าย 5G ในหลายเมืองทั่วโลก อย่าง เบอร์ลิน, มิวนิก, มาดริด, ซูริค, เจนีวา, อัมสเตอร์ดัม, เวียนนา, บาร์เซโลนา โซล, กรุงเทพฯ, ฮ่องกง และริยาด” – เหริน เจิ้งเฟย

iPhone 12 เป็นสมาร์ตโฟนไฮเอนด์ที่มียอดจำหน่ายที่สูงมากในยุโรป ซึ่งอุปกรณ์โครงข่ายของ Huawei นั้นก็ตอบสนองต่อการใช้งาน 5G ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนี่เป็นสัญญาณว่าโครงข่ายของ Huawei มีความยอดเยี่ยม โดยเหรินทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันมี 2 บริษัทที่มีระบบนิเวศขนาดใหญ่ ได้แก่ Apple และ Google ซึ่งการมีบริษัทที่ 3 ขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คำพูดทิ้งท้ายนี้ก็น่าจะหมายถึง HarmonyOS นั่นเองครับ

อ้างอิง Phone Arena

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส