ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน โทรศัพท์มือถือไม่ได้หน้าตาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมบาง ๆ ด้านหน้ามีแต่จอเหมือนกันหมดอย่างทุกวันนี้ โทรศัพท์มือถือเริ่มมีผู้ใช้งานในช่วงปลายยุค 90s แต่เริ่มมาแพร่หลายในต้นยุค 2000s ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งราคาที่ลดลง ตัวเลือกที่มากขึ้น เทคโนโลยี 3G รวมทั้ง ‘ดีไซน์’ ที่แข่งขันกันสร้างความแปลกใหม่ จนอาจลืมคำนึงถึงการใช้งาน #beartai หยิบโทรศัพท์มือถือ 10 รุ่นในอดีตที่เห็นการออกแบบแล้ว อยากตะโกนถามว่า “ทำเพื่อ?”

Toshiba G450

Toshiba G450 ออกมาเมื่อปี 2008

นี่ไม่ใช่รีโมตแอร์ หรือรีโมตทีวีบนเครื่องบิน!!! โตชิบาก็เคยออกโทรศัพท์มือถือกับเขาด้วย รุ่นนี้คือ G450 ที่ออกแบบให้มีวงกลม 3 วง วงกลมบนสุดคือหน้าจอที่เล็กจิ๋วแค่ 96 x 39 พิกเซล ส่วนปุ่มกดถูกแยกกระจายออกอยู่ใน 2 วงกลมล่าง! กฏการพิมพ์แบบ QWERTY หรือ T9 ได้พังทลายจบสิ้น! ข้อดีอย่างเดียวของมันคือแปลงร่างเป็นเครื่องเล่น MP3 และยูเอสบีโมเด็มได้ แต่เห็นหน้าตาของมันแล้ว เราขอบายดีกว่า

Telson TWC 1150

Telson TWC 1150 ออกมาเมื่อปี 2004

เราไม่ได้พูดเล่น และนี่ไม่ใช่พรอปจากหนัง Terminator นี่คือโทรศัพท์มือถือที่คุณสามารถสวมบนข้อมือได้ (อื้อหือ!) มีหน้าจอสีขนาด 128 x 112 พิกเซล มีแป้นบังคับด้านบน แต่ปุ่มกดเล็ก ๆ ไปอยู่บนสายรัดด้านข้าง จินตนาการดูสิว่ากว่าคุณจะกดได้แต่ละปุ่มมันวุ่นวายแค่ไหน อีกฝั่งก็มีเสาอากาศทู่ ๆ ยังไม่รวมถึงท่าทางการคุยโทรศัพท์ที่น่าจะออกมาพิลึกพิลั่น เราแค่แปลกใจที่ไม่มีปุ่มยิงศัตรูแบบโรโบคอป

Sierra Wireless Voq

Sierra Wireless Voq ออกมาเมื่อปี 2004

Sierra Wireless เป็นบริษัทโทรคมนาคมของแคนาดา เมื่อตอนเปิดตัวเจ้า Voq ก็โปรโมตว่าเป็นการรวมร่างของโทรศัพท์มือถือ เครื่องรับส่งข้อความ และ PDA (Personal Digital Assistant) ไว้ด้วยกัน ผลที่ออกมาคือ “ไม่เป็นอะไรที่ดีสักอย่าง” ทั้งตัวเครื่องที่รูปทรงประหลาดจับไม่ถนัดมือ และการออกแบบฝาพับให้เป็นแป้นคีย์บอร์ด QWERTY เพื่อตั้งใจให้พิมพ์ได้ถนัดแบบสองมือ แต่เอาเข้าจริง มันไม่ถนัดเอาซะเลย

Siemens Xelibri 2

Siemens Xelibri 2 ออกมาเมื่อปี 2003

คนออกแบบน่าจะได้แรงบันดาลใจจากเกมทามาก็อตจิ ด้วยขนาดเครื่องที่เล็กเท่าอุ้งมือ ทำให้หน้าจอเล็กเพียง 101 x 65 พิกเซล แต่ที่เป็นฝันร้ายคือแป้นพิมพ์กลมขนาดจิ๋วที่กระจายอยู่ด้านซ้ายและขวา ประกอบกับรูปทรงเครื่องที่โค้งมน ทำให้การใช้งานลำบากลำบนยิ่งนัก นี่เป็นตัวที่สองในคอลเล็กชัน Xelibri ที่ออกแบบมาได้น่าเกลียดน่ากลัวพอกันทุกตัว

Siemens Xelibri 6

Siemens Xelibri 6 ออกเมื่อปี 2003

โทรศัพท์มือถือฝาพับทรงกลมที่ตั้งใจออกแบบเพื่อสุภาพสตรี โดยให้มีลักษณะเหมือนตลับแป้งพับ มีกระจกเงาเป็นพื้นผิวทั้งส่วนล่างและส่วนบน เพื่อให้คุณผู้หญิงได้ใช้เป็นกระจกพกพาจริง ๆ ไอเดียก็ฟังดูดีนะ แต่… ใช้ยากไปไหม? ด้วยหน้าจอที่เล็กจิ๋วแค่ 101 x 80 พิกเซล แล้วดูปุ่มกดที่อยู่รอบวงกลมนั่นสิ กดหมายเลขโทรศัพท์ว่ายากแล้ว ถ้าพิมพ์ข้อความ SMS คงปวดหัวยิ่งกว่า

Nokia 7600

Nokia 7600 ออกมาเมื่อปี 2003

โทรศัพท์มือถือใบไม้ในตำนานที่มาพร้อมกล้องถ่ายรูปและเป็นมือถือเครื่องที่ 2 ของ Nokia ที่ใช้ระบบ 3G ต่อจาก Nokia 6650 เราไม่ปฏิเสธนะว่ารูปร่างหน้าตามันก็แปลกตาชวน “ว้าว” ได้เหมือนกัน แต่มันใช้ยากมาก! การพิมพ์ส่งข้อความแต่ละครั้งต้องใช้สองมือพร้อมกัน ประกอบกับรูปทรงที่มีความโค้งมนและขนาดที่เล็กแค่ 8.7×7.8 เซนติเมตร ก็ล้วนแต่ส่งผลให้จับพิมพ์ได้ไม่ถนัดมือ

Nokia 7280

Nokia 7280 ออกมาเมื่อปี 2004

มันคืออะไร ลิปสติกหรือแฟลชไดรฟ์? เราไม่แน่ใจจริง ๆ ว่า Nokia ออกแบบมือถือเครื่องนี้มาเพื่อผู้หญิงหรือหนัง Star Trek เพราะมันดูแฟชั่นด้วยสีดำแดง หน้าจอขนาด 208 x 104 พิกเซล สามารถเป็นกระจกเงาส่องหน้าได้ ที่เก๋คือมีป้าย Nokia ที่ทำจากผ้าติดมาประหนึ่งเสื้อ ที่สำคัญคือไม่มีปุ่มกด แต่ใช้วงล้อยางหมุนบังคับปุ่มบนหน้าจอแทน ซึ่งไม่ต้องคิดเลยว่ากว่าจะพิมพ์ได้แต่ละตัวอักษรหรือเลือกเมนูแต่ละอย่าง มันยากเย็นแค่ไหน

Motorola V.Box (V100)

Motorola V.Box (V100) ออกมาเมื่อปี 2000

อย่าไปเผลอวางสลับกับเครื่องคิดเลขของเล่นเชียวล่ะ นี่คือโทรศัพท์มือถือฝาพับของโมโตโรลา ที่แม้จะตั้งใจออกแบบเป็นแนวนอนและทำคีย์บอร์ดแบบ QWERTY เพื่อง่ายต่อการพิมพ์ แต่การออกแบบส่วนอื่น ๆ ที่เหลือคือพัง โดยเฉพาะตัวเครื่องที่หนาเทอะทะถึง 2.5 เซนติเมตร และตั้งใจทำเป็นสีน้ำเงินขุ่นที่สามารถมองเห็นส่วนประกอบด้านในได้ (เพื่อ?) ที่สำคัญคือจะคุยโทรศัพท์แต่ละทีต้องเสียบหูฟัง ไม่มีหูฟังก็คุยไม่ได้ จบ

Motorola StarTAC Rainbow

Motorola StarTAC Rainbow ออกมาเมื่อปี 1997

ช่วงปลายยุค 90s มันอาจจะดูคูลเหมือนออกมาจากหนังวัยรุ่นไซไฟ แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับของเล่นเด็กของลูกคุณ ข้อดีของมันคือฝาพับออกแบบมาได้เปิดปิดสะดวก (ซึ่ง Motorola ได้นำไปพัฒนาดีไซน์ให้เป็นรุ่น RAZR ในเวลาต่อมา) หน้ากากสีแดงด้านบนเหมือนจะเปิดได้ แต่เปล่า มันคือแบตเตอรี ส่วนด้านในเมื่อเปิดฝาพับขึ้น จะพบกับตัวเครื่องสีเหลืองจ้าและปุ่มกดที่มีเสียงเหมือนวอล์กกีทอล์กกีของเล่น

Haier P7

Haier P7 ออกมาเมื่อปี 2004

หลายคนไม่รู้ว่าแบรนด์ Haier ก็ผลิตโทรศัพท์มือถือ และรุ่น P7 นี้ Haier พยายามจะแหวกแนวด้วยดีไซน์ที่ผอมเพรียวยาวเหมือนปากกาที่เป็นอาวุธลับของเจมส์ บอนด์ หรือแท่งลบความจำใน Men in Black แต่ผลที่ออกมามันใช้งานยากสิ้นดี ด้วยหน้าจอที่เล็กจิ๋วแค่ 64 x 128 พิกเซล แถมยังผอมสูง แทบจะอ่านอะไรไม่เห็น แล้วดูการออกแบบปุ่มกดที่เอียงนั่นสิ ยุ่งยากเข้าไปอีก ข้อดีอย่างเดียวของมันคือคุยต่อเนื่องได้นาน 3 ชั่วโมง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส